Author Topic: วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นอะไรมากกว่าที่คิด  (Read 1399 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

ทุกวันนี้หากกล่าวถึงระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เราจะนึกภาพแรกสุดเป็นคนๆ หนึ่ง นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์พร้อมเว็บแคม พูดคุยสนทนาถกประเด็นปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับงาน ขณะที่ภาพในมอนิเตอร์คือคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อยู่อีกฟากของการเชื่อมต่อ
 เพียงแต่สิ่งที่เรานึกภาพมานั้นเป็นเพียงแค่เปลือกนอกโดยผิวเผินของระบบ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์เท่านั้น

ทุกวันนี้มีโซลูชั่นที่เกี่ยวข้องกับระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์อยู่มากมาย ตั้งแต่ระบบง่ายๆ ที่คนอาจมองข้ามไปว่าจริงๆ แล้วมันคือรูปแบบหนึ่งของวีดีโอคอนเฟอเรนซ์อย่างแคมฟร็อก หรือ Skype และ MSN Live ไปจนถึงระบบโซลูชั่นใหญ่ๆ จากบริษัทไอทีชั้นนำ อาทิ Microsoft Round Table

ล่าสุดทีมข่าวเทเลคอม เจอร์นัล ได้รับเกียรติจาก พิสุทธิพงษ์ แสงอ่อน  Product Manager บริษัท ดิจิตอลคอม จำกัด‏ หนึ่งในผู้ให้บริการโซลูชั่นระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในการพูดคุยถึงมุมมองและวิสัยทัศน์ที่มีต่อวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่าแท้ที่จริงแล้วระบบดังกล่าวเป็นอย่างไร และสามารถช่วยเหลือองค์กรในการลดต้นทุน และตอบสนองกระแสไอทีสีเขียวได้หรือไม่

ระบบการสื่อสารแบบเห็นตัว จัดเป็นวีดีโอคอนเฟอเรนซ์หมดหรือไม่

ไม่ เพราะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่นั้น ประสิทธิภาพของมันไม่ใช่แค่การพูดคุย แต่มันคือรูปแบบของการทำงาน นอกจากเห็นอีกฝ่ายแล้วยังต้องสามารถรับส่งข้อมูลไฟล์ต่างๆ ถึงกันได้ จากที่คุยกันก่อนหน้าที่เราพูดถึงการสนทนาด้วยวีดีโอคอลล์ของ 3G หรือระบบของบริษัทใหญ่ๆ มีแค่บางส่วนที่นับว่าเป็นวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่การสนทนาในรูปแบบของวีดีโอคอลล์ที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ เราจะไม่นับว่าเป็นวีดีโอคอนเฟอเรนซ์

ความคุ้มค่าต่อการลงทุน ในส่วนนี้มองไว้อย่างไร

เราต้องดูว่าเราจะลงทุนไปเพื่ออะไร ระหว่างการลงทุนเพื่อสร้างคุณค่า กับลงทุนเพื่อลดต้นทุน ในส่วนนี้ถ้าถามว่าคุ้มค่าหรือไม่ ต้องวัดจากผลที่จะได้รับ ยกตัวอย่างบริษัทแห่งหนึ่ง มีการประชุมพนักงานเป็นประจำ แต่พนักงานต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะต่างจังหวัด หากไม่มีระบบนี้พนักงานจะต้องเดินทางย้อนกลับมาออฟฟิศเพื่อมาร่วมประชุมตลอด ตรงกันข้ามหากมีการลงทุนติดตั้งระบบนี้ พนักงานสามารถเข้าร่วมประชุมจากที่ไกลๆ ได้เลย ลดต้นทุนในส่วนของค่าเดินทาง ค่าน้ำมันได้เยอะมาก

แต่ความคุ้มทุนที่พูดถึงก็ขึ้นอยู่กับแต่ละระบบแต่ละยี่ห้อที่มีมูลค่าแตกต่างกัน แต่โดยมากเรามักจะเห็นภาพอย่างชัดเจนของความคุ้มทุนภายในระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี

อะไรคือจุดเด่นของระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ของดิจิตอลคอม ที่ไม่เหมือนคู่แข่ง

อุปกรณ์ที่เรานำเสนอให้กับลูกค้า เราจะเลือกแต่สิ่งที่สามารถตอบโจทย์ของลูกค้าได้จริงๆ เช่นลูกค้าสามารถคุยเห็นภาพได้อย่างชัดเจน รับส่งข้อมูล และสามารถเชื่อมต่อระบบเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ได้

รูปแบบการให้บริการของดิจิตอลคอม

เรื่องของบริการเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก เราจะแบ่งรูปแบบการให้บริการของเราเป็น Silver และ Gold ในส่วนของ Gold เราจะมีคอลล์เซ็นเตอร์ไว้รองรับลูกค้าเพื่อช่วยเหลือในขั้นต้น ในกรณีที่อุปกรณ์มีปัญหาเราจะมีพนักงานเข้ามารับเรื่องและช่วยแก้ไขปัญหาให้ในทันที รวมถึงการเปลี่ยนอุปกรณ์ตัวใหม่ให้ทันที หากต้องมีการส่งซ่อม โดยที่เราจะสรุปผลให้กับลูกค้าภายใน 3 ชั่วโมง และมีสินค้าสำรองให้ใช้ในระหว่างรอเปลี่ยนอุปกรณ์ เนื่องจากเรามองว่าระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ถ้าเป็นระดับซิลเวอร์จะมีส่วนที่แตกต่างกันคือไม่มีอะไหล่สำรองให้ ลูกค้าจะต้องรอฟังผลระหว่างที่ส่งซ่อม

ผลิตภัณฑ์ที่ทางดิจิตอลคอมนำมาขาย มีตัวไหนที่แนะนำเป็นพิเศษหรือไม่

เราจะมีในส่วนของแบรนด์ที่นำเข้าจากจีน ชื่อว่า Kedacom ตรงนี้เราเข้าใจว่าหลายท่านพอได้ยินชื่อว่าเป็นสินค้าจากจีนจะเกิดความรู้สึกในแง่ลบขึ้นทันที แต่ในความเป็นจริงนั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่าอุปกรณ์ไอทีส่วนใหญ่ก็ผลิตจากประเทศจีน ในส่วนของ Kedacom ถูกจัดให้อยู่ในระดับ A+ สำหรับบรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์สินค้าไอที ที่สำคัญเขาเป็นบริษัทที่ทำด้านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์อย่างเดียว และอยู่ในธุรกิจนี้มานานมาก และมีการควบคุมคุณภาพสินค้าที่ดี

ปัจจุบันนี้เราเองก็มีลูกค้าอยู่มากทั้งในภาครัฐและเอกชน ที่เป็นหน่วยงานใหญ่ๆ

ยกตัวอย่างได้หรือไม่ ว่าภาครัฐและเอกชนมีลูกค้ารายใดบ้าง

ภาครัฐลูกค้าของเราโดยมากจะเน้นไปที่หน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคง และหน่วยงานทางทหารเป็นหลัก ที่นอกเหนือจากหน่วยงานที่พูดถึงคือ SiPA ซึ่งหน่วยงานภาครัฐต่างๆ จะเป็นลูกค้าที่เราสามารถประมูลมาได้ ส่วนเอกชนจะเป็นลูกค้าจำพวกโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ มากกว่า

แนวโน้มการเจริญเติบโตของตลาดเป็นอย่างไร

ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนผลักดันการเจริญเติบโตของตลาดนี้อันดับแรกคือตัวของมันเอง ปัจจัยรองลงมาคือการเชื่อมต่อออนไลน์ ไม่ว่าจะใช้รูปแบบใดก็ตามซึ่งปัจจุบันมีราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ หากมองในภาคธุรกิจอัตราการเจริญเติบโตของมันกล่าวได้ว่าค่อนข้างสูง ถ้าถามว่ามุมมองของ Kedacom มองในแง่การเจริญเติบโตเป็นอย่างไรนั้น บอกได้เพียงคำเดียวว่าเขามีการมุ่งเป้ามาทางตลาดของโฮมยูสมากขึ้นและเตรียมพร้อมที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้ทุกเมื่อ

ในเรื่องของการลดการใช้พลังงานในส่วนนี้ สินค้าของดิจิตอลคอมมีการตอบสนองต่อแนวคิดนี้หรือไม่

เรื่องของการลดพลังงานอาจมองว่าไม่เยอะ เพราะเทียบกับหลอดไฟหนึ่งดวงแล้ว มันมีความต้องการใช้พลังงานที่ต่ำมาก แต่ภาพที่เราเห็นได้ชัดเจนกว่าคือ การที่พนักงานไม่ต้องเดินทาง เท่ากับเราได้ช่วยทั้งองค์กร และพนักงาน ในการประหยัดค่าน้ำมันซึ่งเราเองก็รู้กันดีว่าเป็นทรัพยากรที่มีการสิ้นเปลืองสูงมาก และยังช่วยโลกในเรื่องของการใช้พลังงานที่น้อยลง

ย้อนกลับที่เรื่องของตลาด ตอนนี้ดิจิตอลคอม ถือว่าอยู่ส่วนไหนของตลาดด้านนี้

ปัจจุบันตลาดของวีดีโอคอนเฟอเรนซ์จะมีญี่ปุ่น อเมริกา ยุโรป ซึ่งมีทั้งยี่ห้อที่อยู่ในระดับกลางและไฮเอนด์  ในส่วนของตลาดไฮเอนด์นั้นจากที่เราดูจะเห็นว่าเป็นพวกยักษ์ใหญ่และบริษัทข้ามชาติเสียมากกว่า ของเราจะอยู่ในตลาดระดับกลาง แต่ที่พิเศษกว่านั้นคือเรามีตลาดเฉพาะกลุ่มแยกต่างหากอยู่อีกตลาดหนึ่งที่เราสามารถเข้าถึงได้ นั่นคือกลุ่มลูกค้าที่ต้องการติดตั้งระบบวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ติดขัดด้านงบประมาณ ตลาดด้านนี้จะมีขนาดที่ใหญ่มากซึ่งเราอาศัยกลยุทธ์ในการเข้าทางช่องว่างที่เกิดจากระยะห่างของตลาดทั่วไปกับตลาดนี้ โดยเน้นที่เรื่องของความคุ้มค่าในการลงทุนเป็นหลัก แต่ในส่วนของตลาดไฮเอนด์นั้นเราจะแทรกตัวได้ค่อนข้างลำบากเพราะตลาดระดับนี้จะติดภาพของสินค้าจากฝั่งยุโรป และอเมริกามากกว่า

              จากการพูดคุยทำให้เราได้รับทราบถึงข้อมูลอันเป็นประโยชน์ในส่วนของวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ปกติเราก็ได้ยินกันออกบ่อยครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ค่อนข้างจะมีมากกว่า และเรายังเชื่อว่าในอนาคตที่โซลูชั่นของการทำงานเป็นแบบ Work at Home จะมีจำนวนมากขึ้น วีดีโอคอนเฟอเรนซ์จะเป็นเทคโนโลยีหัวใจหลักของการทำโซลูชั่นในลักษณะนี้ เพียงแต่ปัจจัยสำคัญข้อเดียวที่เรายังพบว่าเป็นปัญหาค่อนข้างมากคือ เรื่องของระบบบรอดแบนด์ที่ยังไม่คงเส้นคงวา และต้องรอดูกันต่อไปว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร 

ที่มา: telecomjournal.net


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)