“เต็ม” ไม่หมกเม็ดสารภาพ “เป้ย” เป็นแฟนหลังคบมา 2 เดือน เผยช่วงแรกทะเลาะกันถี่ แต่เดี๋ยวนี้หวานกันมากขึ้น รับตกใจฝ่ายหญิงรักตนมากทำให้ประทับใจ และหวังให้เป็นรักครั้งสุดท้ายเช่นกัน เชื่อถอดเขี้ยวเล็บฝ่ายหญิงได้เรียบร้อย ยันเคลียร์เรื่อง “แก้ว ซาซ่า” ลงตัวไม่มีรีเทิร์น ปัดคบดาราสาวหวังสร้างกระแส
หลังจากที่ปล่อยให้ 2 สาวรักใหม่และรักเก่า อย่างนักร้องสาว “แก้ว จรีนา สิริสิงห์” หรือ “แก้ว ซาซ่า” กับดาราสาวสุดเซ็กซี่ “เป้ย ปานวาด เหมมณี” ออกมาพูดเชิงสาดโคลนใส่กันอยู่สักพัก ล่าสุดอดีตนักร้องบอยแบนด์สุดฮอต “เต็ม ยูเอชที” หรือ “วุฒิสิทธิ์ สืบสุวรรณ” ก็ยอมออกมาเปิดใจถึงความสัมพันธ์อันรวดเร็วกับดาราสาวเซ็กซี่ ในงานเปิดตัว “ซีโนวิส” น้ำมันปลาแบรนด์ดังจากออสเตรเลีย ณ ห้องบอลรูม โรงแรมเซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ว่าคบกันได้ 2 เดือนแล้ว และสามารถเรียกแฟนได้เต็มปาก
“ความสัมพันธ์ตอนนี้ก็อยู่ในฐานะแฟนครับ ก็คบกัน เพิ่งคบกันได้ 2 เดือน พาไปหาคุณแม่แล้ว พาไปสวัสดี ทำความรู้จักกัน ท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ ก็ยินดีที่คบกัน ที่เป้ยบอกอยากให้รักครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ผมก็อยากให้เป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกันครับ ถ้าเกิดว่าทุกอย่างมันเวิร์ค เข้ากันได้ดีก็จะแฮปปี้มากเลยชีวิตนี้ เรื่องอายุก็ห่างกัน 3-4 ปีเองครับ ไม่มาก”
“มาคบกันก็ค่อนข้างต้องจูนกันเยอะครับ เพราะเราทั้งสองคนก็เจ็บมาเยอะ(หัวเราะ) โดนมาแยะ ก็มีอะไรที่เราต้องปรับความเข้าใจกันเยอะ คู่อื่นๆ อาจจะคบกันมีช่วงโปรโมชั่น ช่วงแรกจะหวานซึ้ง แต่ของเรามันกลับกัน กลับกลายเป็นว่าคบกันตอนแรกๆ ค่อนข้างมีปัญหาเยอะ ผมไม่รู้ว่าตัวผมเองอาจจะมีกำแพงอะไรบ้าง ตัวเขาก็อาจจะมีบ้าง ช่วงแรกๆ มีปัญหาเยอะมาก แต่ว่าตอนนี้เริ่มดีขึ้นมากๆ ครับ เริ่มกลับมาสู่สภาวะของคนที่เป็นแฟนกันปกติ เริ่มมีโปรโมชั่นบ้าง จากตอนแรกๆ ทะเลาะกันวันเว้นวันเลย แต่ตอนนี้ไม่ทะเลาะกันแล้ว เข้าสู่ช่วงหวานแล้วครับ”
“เขาใช้คำว่าแฟนกับเราด้วยหรือเปล่า คิดว่าก็น่าจะใช้นะ คือตอนแรกคุยกับเขา เขาก็ไม่ได้อยากพูดอะไรมาก ด้วยความที่เขาเป็นผู้หญิง เขาจะออกมาบอกว่าเป็นแฟนผม บางทีก็อาจจะดูไม่ดี เขาก็อยากให้ตัวผมพูดก่อน ซึ่งถ้าเกิดไม่ได้พูดเป็นดารา พูดเป็นบุคคลธรรมดาก็ใช่เป็นแฟนกัน ช่วงที่ไปหัวหินด้วยกันมาก็เป็นแฟนกันแล้วครับ”
เผยจุดเริ่มต้นแห่งรักไปเจอ “เป้ย” ที่ร้านอาหาร และเป็นฝ่ายตามจีบก่อน
“เราไปเจอกันที่ร้านอาหารร้านนึง เป็นร้านบะหมี่หมูแดงลุงเฉื่อย ซอยเอกมัย 19 คิดว่าหลายๆ คนน่าจะรู้จักนะครับ บังเอิญว่าเพื่อนผมอยู่ซอยนั้นพอดี เลยผ่านทางนั้นบ่อยมาก ก็บังเอิญไปเจอกันที่นั่นก็เลยนั่งคุยกัน ผมก็รู้จักพี่ๆ เขาก็เลยคุยกัน แล้วผมก็แลกเบอร์กับพี่ๆ เขามา แล้วก็ค่อยๆ ไปตะล่อมๆ ขอเบอร์พินบีบีน้องเขาอีกที แต่จริงๆ เขามาจีบผมนะ ผมบอกหลายครั้งแล้วว่าอย่ามาเกาะแกะผม เขาก็ไม่ยอมเชื่อครับ(หัวเราะ) ไม่ใช่ จริงๆ ตัวผมก็ไม่มีแฟน ตอนนั้นผมก็ไม่รู้ว่าน้องเขายังมีแฟนอยู่หรือเปล่า ก็เห็นน้องเขาน่ารักดี พอตอนหลังสอบถามแล้วเขาก็ยังว่างๆ กันอยู่ ก็เลยลองคุยกันเป็นเพื่อนดู ลองดูสิว่านิสัยมันเข้ากันได้ไหม แล้วก็ค่อยๆ มีความสัมพันธ์เยอะขึ้นๆ เรื่อยๆ”
“ผมประทับใจเขาตรงที่ผมได้รับความรู้สึกว่า เขาค่อนข้างรักผมมาก แล้วก็เทคแคร์ผมมาก ตอนแรกๆ ผมยังงงเลยว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงรักผมขนาดนี้ แล้วอะไรหลายๆ อย่างที่ทำออกมาแล้วผมก็ตกใจ ไม่น่าเชื่อว่าคนๆ นี้จะรักผมได้เยอะขนาดนี้ แล้วก็ทำอะไรบางอย่างให้ผมเยอะขนาดนี้ครับ ก็ค่อนข้างตกใจและค่อนข้างที่จะประทับใจกับตรงนี้มากๆ ก็เลยลองคบกันไปเรื่อยๆ”
“ส่วนข่าวที่ผ่านมาของเขา ผมได้ถอดเขี้ยวเล็บเขาออกไปหมดแล้วครับ (หัวเราะ) มั่นใจไหมเหรอ ก็จากที่คบกันก็ไม่มีอะไรนะ คือผมก็ไม่ได้ไปดูอดีตอะไรเขามากมาย ดูปัจจุบันว่ามันเป็นยังไง แล้วมันก็ค่อนข้างดี ตอนนี้ก็เริ่มคุยกันรู้เรื่องแล้ว จากตอนแรกๆ ที่จะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องมาก คือตัวผมเองชอบผู้หญิงที่คุยกันแล้วรู้เรื่อง อยากได้แฟนที่คบกันแล้วคุยกันรู้เรื่อง และตอนนี้มันค่อนข้างที่จะคุยกันรู้เรื่องแล้ว และบรรยากาศทุกอย่างมันดีหมดเลยครับ”
เปรยเคลียร์ทั้ง “แก้ว” และ “เป้ย” ลงตัวแล้วไม่มีปัญหา ยันตนไม่มีทางกลับไปหาคนรักเก่าแน่
“แต่ที่ผมยังคุยกับแก้วอยู่ก็ห่วงความรู้สึกเป้ยนะครับ ก็เคลียร์กับทางด้านเป้ยแล้วว่ามันเป็นยังไงบ้าง ฟิลลิ่งของทั้งคู่เป็นยังไง ของตัวผมเป็นยังไงบ้าง ก็คุยให้เขาเข้าใจแล้ว ซึ่งเขาก็เข้าใจครับ กับทางแก้วผมก็คุยแล้วครับว่า ผมคบกับเป้ย เขารู้ตั้งนานแล้ว เพราะบีบีของผมก็มีขึ้นชื่อ ขึ้นรูปอะไรบ้าง แล้วทางพิม(พิมพ์มาดา บริรักษ์ศุภกร) ก็รู้มาก่อนแล้วว่า ผมคบกับเป้ย ก็ไปบอกกับเพื่อนๆ แล้วผมก็ได้คุยกับแก้วตั้งแต่ก่อนที่จะมีข่าวลงแล้ว แก้วก็แฮปปี้และเข้าใจ เชียร์ให้เราคบกัน เคลียร์ทุกอย่างหมดแล้วครับ”
“เป้ยคงจะกลัวเรื่องถ่านไฟเก่าเป็นปกติ สำหรับใครก็ได้ที่มาอยู่ในฐานะนี้ ผมว่าก็คงต้องมีคิดบ้าง แต่ผมก็ให้ความสบายใจเขาว่า มันไม่มีอะไรหรอกนะ แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วง ตัวผมก็ไม่ได้ไปไหนอะไร ไม่ได้คุยอะไรกับใครมากมาย ไม่ได้กลับไปหา เขาก็ดูจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้น จากความกังวลที่เขามีตอนแรกๆ ตอนนี้ก็ไม่มีแล้ว เขาก็เห็นว่าผมประพฤติตัวดี เขาก็โอเคครับ”
ไม่คิดห้าม “เป้ย” เซ็กซี่ เพราะไม่อยากเปลี่ยนตัวตนใคร บอกเป็นคู่ที่ไม่ได้หวานมาก ออกแนวกวนกันมากกว่า พร้อมยันไม่เคยคิดคบกันสร้างกระแส
“เรื่องเซ็กซี่ของเขาผมไม่ห่วงนะ ชอบครับ(หัวเราะ) คือตัวเขาก็เป็นอย่างนี้มานานแล้ว และผมก็ไม่อยากจะไปเปลี่ยนอะไรใครทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครที่เข้ามาในชีวิตผม ที่เข้ามาเป็นแฟนผม ผมก็รักในสิ่งที่เขาเป็น ผมชื่นชอบตรงนั้น”
“ส่วนภาพสวีตบนเรือผมไม่แน่ใจว่าภาพไหน แต่มีไปเที่ยวหัวหินด้วยกัน แล้วก็มีอีกครั้งนึงที่น้องเขาไปถ่ายแฟชั่น ผมก็ติดสอยห้อยตามไปด้วย แล้วก็ไปถ่ายรูปกัน ผมเลยไม่แน่ใจว่าเป็นรูปไหน แต่สวีตหวานขนาดไหนเหรอ ก็แปลกนะครับคู่ของผมเป็นคู่ที่ค่อนข้างจะกวนกันมากกว่าที่จะสวีต คือออกไปทางด้านพูดจากวนมึนโฮซะมากมาย แล้วช่วงหลังๆ จะสวีตก็สวีตบนความกวน กวนโน่นกวนนี่”
“อย่างมีอยู่ครั้งนึงเขาบอกว่าเป็นห่วงว่าผมกับแก้วจะยังไง แล้วเขาจะทำตัวยังไง เขาเป็นห่วงว่าจะกลับไปคืนดีหรือเปล่า ผมก็พูดให้ความมั่นใจเขาไปว่า ไม่ต้องเป็นห่วงนะเรื่องแก้ว ถ้าอยากเป็นห่วงเป็นห่วงวุ้นเส้นห้องตรงข้ามดีกว่า เป็นเหมือนกวนๆ กันมากกว่า อันนี้แซวเล่นนะครับวุ้นเส้น ก็จะเป็นอะไรอย่างนี้ ไม่ใช่แบบฉันรักเธอนะ ไม่ต้องเป็นห่วง จะออกไปทางด้านกวนๆ กันมากกว่า แต่พอตอนหลังๆ บนความกวนมันก็เริ่มมีความโรแมนติก มีความรักกัน ถึงแม้จะไม่ใช่รักหวานซึ้ง รักเธอไปตลอดชาตินี้ ฉันจะตายบนอกเธอ มันก็ยังมีความกวนกันอยู่ แต่ก็มีความซึ้งไว้ด้วยครับ”
“เรื่องกระแสข่าวเราคบกันสร้างกระแส คือมันก็มีเข้ามาบ้างเหมือนกัน ประเด็นนี้ก็น่าเป็นห่วง ก็ไม่รู้สิว่าจะยังไง แต่ไหนๆ มันก็รักกันแล้ว ก็ดูว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องรองแล้วกัน ค่อยไปแก้ปัญหาทีหลัง เรื่องงานอาจต้องแยกกันทำ อาจจะไม่ได้มีภาพที่อยู่ด้วยกันตามงานมากเพื่อความชัดเจน เรื่องออกงานคู่ตอนนี้ไม่นะครับ อยากให้มันชัดเจนมากกว่าว่า งานของใครก็เป็นงานของใครไป แต่ก็มีติดต่อมาบ้างแต่ว่ายังไม่ได้รับ ไว้ค่อยโอกาสหน้าที่มันคบกันแล้วแต่งงาน ก็ค่อยว่ากัน”
ที่มา: manager.co.th
