“เต๋อ” ภูมิใจขึ้นแท่นพระเอกร้อยล้าน ยอมรับมีเวลาเจอ “พีค” น้อยลง แต่ถ้าว่างเป็นต้องแวบไปหา บอกความรักยังดี ต่างคนต่างเอาใจซึ่งกันและกัน ยันไม่เคยควงกันหนีนักข่าว เพราะเปิดตัวคบกันชัดเจน
คบหาดูใจกับดาราสาว “พีค ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ” มาได้พักใหญ่ สำหรับพระเอกร้อยล้านคนล่าสุดอย่าง “เต๋อ ฉันทวิทย์ ธนะเสวี” ที่ตอนนี้เรียกได้ว่าโด่งดังถึงขีดสุดกับภาพยนตร์เรื่อง “กวน มึน โฮ” ซึ่งก็เลยถูกมองว่า พอดังแล้วจะชิ่งปลีกวิเวกเหมือนคู่อื่นหรือเปล่า แต่หนุ่ม “เต๋อ” ก็ยังยืนยันว่า ถึงแม้จะมีเวลาให้กันน้อยลง แต่ความรักไม่ได้น้อยลงตามไปด้วย
“ช่วงนี้เวลาเจอกันก็น้อยลงครับ แต่ถ้าว่างก็จะไปเจอกันตลอด กับพีคถามว่าหวานขนาดไหน ผมก็ไม่รู้เขาวัดกันยังไง แต่ว่าก็ดีครับ เรื่อยๆ ความสัมพันธ์ก็ดี ก็เอาใจกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ว่าเราเอาใจเขาฝ่ายเดียว คือเวลาเราคบกันก็สร้างความสัมพันธ์ไปด้วยกัน เราก็อยากให้อีกฝ่ายนึงรู้สึกดี รู้สึกมีความสุข สุดท้ายมันก็จะเอาใจกันไปเองโดยอัตโนมัติ”
“วิธีบริหารความรักก็บริหารด้วยการออกกำลังกาย ซิทอัพ(หัวเราะ) ไม่ใช่ครับ คือความรักผมว่าไม่ต้องบริหารอะไร ถ้าเรารู้สึกรักใคร หรือเรารู้สึกดีกับใครแล้วแสดงออกแค่นั้นก็จบ มันก็จะพัฒนาของมันไปเอง เราก็ไม่อยากให้เขาเสียใจ ไม่อยากให้เขาเป็นทุกข์ ไม่อยากให้เขางอน ไม่อยากให้เขาโกรธอยู่แล้ว มันก็จะบริหารจะสร้างอะไรของมันไปได้เอง”
ยันไม่เคยควงกันหนีนักข่าว บอกไม่ได้ทำอะไรผิด
“เจอนักข่าวแล้วหนีเหรอ ไม่มีนะ มีแต่ว่าเห็นเขามีงานอยู่ แต่ผมไม่ได้เดินไปแถวนั้น ก็แค่ไปชะโงกๆ ดูก็แค่นั้นเองครับ หนีทำไมล่ะ (หัวเราะ) ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องหนี ผมก็เปิดตัวชัดเจน ยกเว้นแต่ผมไปเดินกับคนอื่นสิน่าหนี แต่ถ้าเดินกับเขาผมจะหนีทำไมล่ะครับ”
เผยภูมิใจได้ขึ้นแท่นเป็นพระเอกร้อยล้าน แต่ยันยังไงก็ไม่ทิ้งงานเขียนบทที่รักแน่
“ขึ้นแท่นพระเอกร้อยล้านก็รู้สึกดีใจ ภูมิใจครับ เพราะตอนแรกผมแค่รู้สึกว่า มีส่วนร่วมในหนังที่ประสบความสำเร็จและได้กำไร ผมก็โอเคแล้ว แต่พอมันขึ้นไปถึงร้อยล้านก็ภูมิใจครับ เจ๋งดี หลังจากนี้หนังเรื่องต่อไปยังไม่ได้คุยเรื่องรายละเอียดอะไรเท่าไหร่ ตอนนี้ก็มุ่งหน้าโปรโมตเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ แต่งานเขียนบทยังมีแน่นอนครับ เพราะเป็นงานที่ผมชื่นชอบอยู่ คาดว่าถ้ามีโอกาสก็จะทำอีกเรื่อยๆ”
“ตอนนี้มีพล็อตในหัวแล้ว แต่ว่ายังไม่ได้เริ่มเขียน ต้องอุบไว้ก่อน บอกไม่ได้ แต่ก็น่าจะเป็นสนุกสนานเฮฮานี่แหละ เอามาจากชีวิตผมไหมก็มีบ้าง คือจริงๆ แล้วการเขียนบทของผมมันก็จะมีบางส่วนที่เป็นชีวิตของผมอยู่แล้ว เหมือนกับเราจะอินกับเรื่องนี้ สนุกกับเรื่องนี้ก็จะเอาสิ่งนั้นมาเขียน ในทุกเรื่องก็จะมีความเป็นตัวตนอะไรบางอย่างของผมอยู่”
ที่มา: manager.co.th
