Author Topic: Android มาแรง ชิงส่วนแบ่งการตลาดจากสองคู่แข่ง Apple, RIM ในอเมริกา  (Read 1749 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


กระแสแรงเสียจริงๆ สำหรับแพลตฟอร์ม Android ที่สามารถคว้าส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนในอเมริกาได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่สองคู่แข่ง Apple และ RIM ต้องเริ่มหวั่นกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว

เมื่อบริษัทวิจัยตลาด ComScore รายงานว่า จากเดิมที่เคยรั้งอยู่อันดับ 3 ของตาราง มาวันนี้ Android ก็สามารถคว้าส่วนแบ่งการตลาดได้เพิ่มอีก 5% รวมเป็น 17% ส่งผลให้ชนะบรรดาแพลตฟอร์มสมาร์ทโฟนในอเมริกาทั้งหมด โดยอ้างอิงข้อมูลเปรียบเทียบระหว่างช่วงเดือนเมษายนและกรกฏาคม จากข้อมูลเปรียบเทียบดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่าง แชมป์ที่ครองอันดับหนึ่งอย่าง Research In Motion ที่ถูกลดส่วนแบ่งการตลาดไปประมาณ 1.8% เหลือ 39.3% ในขณะที่อันดับที่สองที่เป็นของ Apple ก็ต้องประสบกับชะตะกรรมด้วยการสูญเสียส่วนแบ่งไปราว 1.3% เหลือ 23.8% ด้วยเช่นเดียวกัน และทิ้งท้ายด้วย Microsoft ที่ถูกลดส่วนแบ่งไป 2.2% เหลือ 11.8 % ขณะที่ Palm ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงด้วยส่วนแบ่งการตลาด 4.9% ถึงแม้ว่าบรรดาแพลตฟอร์มคู่แข่งทั้งหลายจะต้องเสียส่วนแบ่งการตลาดส่วนหนึ่งไปให้แก่ Android แต่โดยรวมแล้วตลาดสมาร์ทโฟนก็ยังมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มที่ขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยในเดือนกรกฏาคม มีจำนวนผู้ใช้ถึง 53.5 ล้านคนในอเมริกาที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน ซึ่งตัวเลขดังกล่าวกระโดดเพิ่มขึ้นถึง 11 % เมื่อเทียบจากช่วงเดือนเมษายนก่อนหน้านั้น นอกจากนี้ ComScore ยังได้ทำการวิจัย กิจกรรมที่ผู้ใช้ใช้งานบนโทรศัพท์มือถือนอกจากการสนทนา ซึ่งก็พบว่า การส่งข้อความตัวอักษรถึงกันยังคงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีตัวเลขผู้ใช้สูงถึง 66% ตามด้วยการท่องเว็บ 33.6% ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ 31.4 % เล่นเกม 22.3% อัพเดทความเคลื่อนไหวผ่านทางsocial networks 21.8% และตบท้ายด้วยการฟังเพลง 14.7 %

Source : CNET


ที่มา: pantip.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2252 Views
Last post May 01, 2009, 12:24:14 PM
by IT
0 Replies
2011 Views
Last post May 13, 2009, 12:01:18 AM
by IT
0 Replies
3130 Views
Last post May 29, 2009, 11:16:41 AM
by Reporter
0 Replies
2079 Views
Last post August 04, 2009, 02:27:25 PM
by IT
0 Replies
3641 Views
Last post June 16, 2010, 01:00:19 PM
by Nick
0 Replies
1863 Views
Last post July 22, 2012, 11:03:54 AM
by Nick
0 Replies
1349 Views
Last post September 04, 2014, 01:38:15 PM
by Nick
0 Replies
1304 Views
Last post September 18, 2014, 02:22:19 PM
by Nick
0 Replies
1364 Views
Last post March 03, 2015, 01:19:06 PM
by Nick
0 Replies
1370 Views
Last post March 11, 2015, 12:34:10 PM
by Nick