Author Topic: ไอซอฟท์ ตั้งสนง.ไทยหนุนไอทีศิริราช  (Read 1382 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่



ซอฟต์แวร์สัญชาติออสเตรเลีย เปิดบริษัทใหม่รับดีล "ศิริราช"ประเดิมเฟสแรกยกเครื่องระบบเวชระเบียน-ธนาคารเลือด ก่อนต่อยอดเฟส 2-3 เสร็จภายในสิ้นปี

 นายสนิท ศักดิ์เสรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอซอฟท์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้รับเลือกให้เป็นผู้วางระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบสารสนเทศภายในโรงพยาบาลศิริราช เป็นรายแรก จึงได้ประกาศจัดตั้งเป็นบริษัท ไอซอฟท์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจในไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีมูลค่าจดทะเบียน 20 ล้านบาท


 ล่าสุด บริษัทได้ดำเนินการติดตั้งระบบเฟสแรก ซึ่งเน้นการปรับปรุงระบบงานเวชระเบียน เพื่อบริการผู้ป่วย และระบบบริหารจัดการธนาคารเลือด สำหรับใช้ภายในโรงพยาบาล โดยสามารถเริ่มใช้งานได้จริงแล้วตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา


 เขาระบุว่า ระหว่างนี้บริษัทยังได้เริ่มดำเนินการเฟสที่ 2 ซึ่งจะเน้นการพัฒนาระบบการบริหารงานผู้ป่วย ทั้งภายใน และภายนอก งานทันตกรรม และระบบงานห้องคลอด ซึ่งคาดว่าจะสมบูรณ์ภายในเดือน ก.ย.นี้


 ส่วนงานเฟสสุดท้าย จะเป็นการพัฒนาระบบการเงิน ให้สามารถเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมใช้งานได้จริงราวเดือน พ.ย.นี้


 "ตอนนี้เราพัฒนาระบบที่เหลืออีก 2 เฟสมาได้ 80-90% แล้ว ซึ่งคาดว่าจะ Go Live ทั้งระบบได้ภายในสิ้นปีนี้แน่นอน ซึ่งเราหวังจะยกให้เป็นเคสงานตัวอย่าง เพราะศิริราชถือเป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในไทย มีพนักงานกว่า 1 หมื่นคน มีคนไข้หมุนเวียนปีละกว่า 3 ล้านราย ซึ่งถ้าเราทำประสบความสำเร็จ นั่นหมายความว่า ไอซอฟท์จะได้รับการยอมรับจากตลาดในไทยมากขึ้น"


 นพ.วิโรจน์ จงกลวัฒนา รองคณบดีฝ่ายสารสนเทศ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ศิริราช มีนโยบายปรับปรุงระบบงานสารสนเทศของโรงพยาบาลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา เป็นการพัฒนาระบบแบบอิน-เฮ้าส์ ที่ใช้บุคลากรของศิริราชเอง ซึ่งเป็นระบบที่ต่างหน่วยงาน ต่างพัฒนาเอง และไม่สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกันได้


 อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้โรงพยาบาลใช้งบทั้งโครงการมากกว่า 200 ล้านบาท ซึ่งหลังจากจบโครงการทั้ง 3 เฟส จะมีต้นทุนดูแลระบบต่อปีอีกราว 15% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด จากปกติศิริราชใช้งบพัฒนาระบบไอทีราว 20-30 ล้านบาท


 เขาระบุว่า หากโรงพยาบาลยังคงใช้ระบบงานเก่า จะไม่สามารถรองรับการให้บริการผู้ป่วยในอนาคตได้ เนื่องจากปริมาณผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับระบบงานภายในของโรงพยาบาลซับซ้อนมากขึ้น ขณะที่ระบบไอทีที่พัฒนาเองส่วนใหญ่ จะเป็นระบบงานเพื่อการแก้ไขเฉพาะหน้าเท่านั้น


 "คุ้มค่าอยู่แล้ว เพราะซอฟต์แวร์ที่เราลงทุนไปเป็นแพลตฟอร์มโรงพยาบาลที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลก และเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจริงๆ ซึ่งเราคงไม่หยุดอยู่แค่นี้ เพราะระบบงานของโรงพยาบาลมีเยอะมาก และปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของทุกโรงพยาบาลตอนนี้ คือ แฟ้มเวชระเบียน ที่ยังต้องใช้กระดาษ และคนเดินถืออยู่ แต่ถ้าเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ ปัญหาการรอตรวจ แฟ้มหาย จะหมดไป ซึ่งเราก็พยายามจะทำให้ถึงขั้นนั้น ผู้ป่วยก็ถือแค่บัตรเดียว เข้าตรวจได้ทันที ซึ่งอาจจะต้องภายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า"


 นายสนิท กล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างนี้บริษัทยังได้เริ่มเจรจากับโรงพยาบาลรัฐลักษณะเดียวกับโรงพยาบาลศิริราช 2 แห่งคือ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งต่างอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ และทั้งคู่ได้ตั้งงบประมาณการลงทุนไอทีเรียบร้อยแล้ว มูลค่ารวมกันกว่า 400 ล้านบาท


 อย่างไรก็ตาม บริษัทยังได้วางแผนขยายตลาดในกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนด้วย แต่อาจจะเริ่มตั้งแต่การลงทุนหลัก 20-30 ล้านขึ้นไป เนื่องจากโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ในไทยส่วนใหญ่ จะลงระบบไอทีค่อนข้างสมบูรณ์อยู่แล้ว


 ขณะที่ นายวิม บอเตอร์แมนส์ ประธานไอซอฟท์ภูมิภาคเอเชีย กล่าวว่า ตลาดเฮลธ์แคร์ในภูมิภาคเอเชียมีขนาดใหญ่มาก และมีอัตราการเติบโตสูง แม้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยเช่นปัจจุบัน ซึ่งบริษัทจะเน้นกลยุทธ์การทำงานร่วมกับพันธมิตรในประเทศ เพื่อขยายฐานการเติบโตในตลาดเอเชีย จากที่ผ่านมา ตลาดส่วนใหญ่ของไอซอฟท์กระจุกตัวฝั่งยุโรป


ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)