คอลัมน์ ไอทีทะลุโลก
โดย siripong@kidtalentz.com
งานคอมมาร์ตปีนี้ ซึ่งเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคมนี้ เหมือนค่ายคอมพิวเตอร์วางแผนมารับมือกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำกันสุดๆ ด้วยการกระหน่ำราคาสินค้าลงอย่างชนิดที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน ถือเป็นการปรับตัวรับมือวิกฤตอย่างรวดเร็วของวงการไอที และจะว่าไปแล้ว ดูเหมือนว่านี่เป็นโอกาสของคนมีกำลังซื้อ หรือจำเป็นต้องซื้อกันจริง น่าสนใจเหมือนกันว่าผลจะออกมาอย่างไร
ในแง่ธุรกิจแล้ว การปรับตัวอย่างรวดเร็วถือเป็นสิ่งสำคัญ ขอย้อนไปเอาตัวเลขการคาดการณ์ของการ์ดเนอร์มาให้ดูกันอีกนิด ในปีนี้การ์ดเนอร์คาดการณ์ไว้ว่า ตลาดเดสก์ทอป คอมพิวเตอร์จะหดตัวหรือติดลบ 32 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 101 ล้านเครื่อง ตลาดแล็ปทอป หรือโน้ตบุ๊กติดลบ 9 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 156 ล้านเครื่อง
ฉะนั้นหากในงานคอมมาร์ตจะมีเดสก์ทอปที่ราคาต่ำกว่าหมื่น หรือแล็ปทอป ราคาหมื่นต้นๆ ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลก ทุกค่ายต้องพยายามทำอย่างน้อยที่สุดก็เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดเอาไว้ให้ได้ ในภาวะที่คนลังเลจะควักเงินออกจากระเป๋าเพราะไม่ค่อยแน่ใจกับเศรษฐกิจ "ราคา" นับเป็นส่วนสำคัญประกอบการตัดสินใจ
ยังมีอีกตลาดหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างเดียวในการคาดการณ์ของการ์ดเนอร์ นั่นก็คือ "เน็ตบุ๊ก" ของใหม่มาแรง ที่ทำสถิติยอดขายแซงผลิตภัณฑ์ไอทีทุกชนิดเท่าที่เคยปรากฏมา การ์ดเนอร์คาดการณ์ไว้ว่า ในปีนี้ เน็ตบุ๊ตจะเติบโตขึ้นอีกเท่าตัว หรือยอดขายเพิ่มร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็น 21 ล้านเครื่อง
แต่ดูเหมือนงานคอมมาร์ตบ้านเราปีนี้ "เน็ตบุ๊ก" กลับไม่ถูกขับขึ้นมาให้โดดเด่นเท่าไรนัก
มีข้อน่าสังเกตอย่างหนึ่งก็คือลักษณะของการทำตลาดเน็ตบุ๊กที่อาจจะเริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ ตัวเดียวซึ่งจะเติบโตสูงมาก ใครๆ ก็เลยมองหาโอกาสจากเน็ตบุ๊ก นั่น
ก็คือบริษัทผลิตโทรศัพท์มือถือเริ่มให้ความสนใจที่จะผลิตเน็ตบุ๊กยี่ห้อของตัวเองออกมา
มีข่าวว่า "โนเกีย" เจ้าตลาดโทรศัพท์ มือถือเริ่มให้ความสนใจกับการผลิตเน็ตบุ๊ก ส่วนรายที่เข้ามาในตลาดเน็ตบุ๊กแล้วก็คือ ซัมซุงและแอลจี
ถ้ามองตลาดเน็ตบุ๊กจากในบ้านเรา หรือ ในแถบเอเชียอาจจะไม่ชัดนัก เพราะผู้ค้าปลีกคอมพิวเตอร์เป็นผู้กุมช่องทางหลักในการขายเน็ตบุ๊ก แต่ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา หรือยุโรป ช่องทางการขายที่ค่อนข้างใหญ่ และบางประเทศเป็นช่องทางหลัก อย่างเช่นในเยอรมนี ที่ออเรนจ์เป็นผู้ขายเน็ตบุ๊กรายใหญ่ที่สุด
วิธีการก็คือช่องทางที่ขายผ่านโอเปอ เรเตอร์โทรศัพท์มือถือ แบบเดียวกับการขายไอโฟนนั่นเอง คือการผูกสัญญาการใช้โทรศัพท์มือถือแล้วแถมเน็ตบุ๊กให้ หรือขายให้ในราคาถูกๆ
บ้านเราตอนแรกๆ ดูเหมือนค่ายมือถือค่ายหนึ่งเคยลองทำตลาดเน็ตบุ๊กด้วยวิธีการแบบนี้มาก่อน แต่ก็ค่อนข้างเงียบเชียบ ซึ่งอาจจะมาจากหลายเหตุหลายปัจจัย
ที่มา: matichon.co.th