Author Topic: ชินเน็คมั่นใจครึ่งหลังโตไม่ต่ำ 15%  (Read 798 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

ซินเน็ค  เสริมทัพสินค้า "โน้ตบุ๊กโตชิบา-ผลิตภัณฑ์เอเซอร์  กรุยทางหนุนธุรกิจครึ่งปีหลังโตไม่ต่ำกว่า 15%   พร้อมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับธุรกิจโต-บริการหลังการขาย เผยครึ่งปีแรกยอดขายสูงสุดตั้งแต่เปิดบริษัทมา   

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)   ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่    เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตไว้ไม่ต่ำกว่า 15%     โดยปัจจัยที่ส่งผลให้ธุรกิจในครึ่งปีหลังมีการเติบโตขึ้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาเสริมการทำตลาด     โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์พกพา  หรือ โน้ตบุ๊ก  โตชิบา   และผลิตภัณฑ์เอเซอร์ เกือบครบทุกไลน์ของเอเซอร์  ทั้งจอภาพแอลซีดี มอนิเตอร์  , เครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์  และโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน   ยกเว้นคอมพิวเตอร์แบบพกพา  หรือโน้ตบุ๊ก  ซึ่งมองว่าในช่วงประมาณปลายไตรมาส 3-4 นั้นโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน   จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง   และเปิดตัวสินค้าอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลรุ่นใหม่ จากซีเกท ซึ่งจะช่วยทำให้ฐานลูกค้าขยายตัวมากขึ้น

นอกจากนี้ในครึ่งปีหลังจะมีการลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ  และการให้บริการลูกค้าต่อเนื่อง    โดยที่ผ่านมาได้มีการลงทุนระบบการให้บริการฝึกอบรมให้กับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ   ซึ่งถือเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาด   ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนต์ สำหรับการประชุมทางไกลร่วมกับดีลเลอร์ และสาขาทั่วประเทศ   ระบบสื่อสาร และระบบให้บริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น   

             "ก่อนหน้านี้บริษัทได้นำระบบการบริหาร " Global System"       มาใช้เชื่อมโยงระบบธุรกิจการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีทุกภูมิภาคทั่วประเทศ   ซึ่งระบบดังกล่าวมีความสามารถใน การจัดการ     ตั้งแต่ระบบบัญชี  การวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์  รวมไปถึงการบริหารฐานข้อมูลลูกค้าอย่างครบวงจร   และ    การลงทุนนำระบบ Automation Storage and Retrieval System (ASRS)    ซึ่งเป็นระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติที่ใช้ระบบแขนกลอัจฉริยะ (Robot Arm) ที่มีประสิทธิภาพการทำงาน และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมาใช้ในบริษัทเพื่อรองรับธุรกิจที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง"

  ล่าสุดบริษัทได้ดำเนินกิจกรรมในการส่งเสริมความสัมพันธ์ของคู่ค้า (CRM) ที่สำคัญที่สุดของบริษัทในรอบปีนี้   โดยเปิดกลุ่มลูกค้ารายหลักกว่า 1,300 ราย    ได้แก่ กลุ่มลูกค้าเข้างานประมูลเครือข่าย ( SI / VAR)  กลุ่มลูกค้ารีเทล (Retail)  กลุ่มลูกค้าองค์กร ( Corporate Retailer ) กลุ่มลูกค้าเอวีและโมบาย คอนซูเมอร์ ( AV) กลุ่มเครื่องเขียน (Stationary) กลุ่มโมเดิร์นเทรด ( Modern Trade )  ทั้งในกรุงเทพ ฯ  และต่างจังหวัด เยี่ยมชมระบบการบริหารงาน และการให้บริการ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจจัดจำหน่ายไอที อันดับ  1 ของประเทศไทย  และสร้างความมั่นใจให้กับตัวแทนจำหน่ายในเรื่องของการให้บริการ

 สำหรับการแข่งขันของตลาดไอทีนั้นที่ผ่านมาบริษัทสามารถเข้าไปแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งมาได้จำนวนมาก   ซึ่งถึงวันนี้มองว่าการแข่งขันคงลดลง เพราะมีคู่แข่งที่มีศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทเพียง 2-3 รายเท่านั้น

 นายสุพันธุ์ กล่าวเสริมอีกว่า ส่วนในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัทมียอดผลประกอบการเติบโต 10-20%    ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายและถือเป็นสถิติยอดขายสูงสุดตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา    เนื่องจากปลายปีที่แล้ววางกลยุทธ์ขยายตลาดไว้ชัดเจน    และมีการลงทุนในส่วนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ และการให้บริการ

ที่มา: thannews.th.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)