เอเซอร์เดินแผนแยกแบรนด์ อีแมชชีน-เอเซอร์ภายใน3-5ปี
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภายใน 3-5 ปี บริษัทเตรียมแยกแบรนด์อีแมชชีน และเอเซอร์ออกจากกันอย่างชัดเจน โดยหลังจากเปิดตัวแบรนด์อีแมชชีนเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของเดสก์ทอป และโน้ตบุ๊ค ปัจจุบันยอดขายอีแมชชีน คิดเป็น 30% ของเอเซอร์โดยรวมในประเทศไทย
ทั้งนี้ โดยภายใน 3-5 ปี แบรนด์เอเซอร์ จะกลายเป็นสินค้าระดับบน เหมือนในต่างประเทศ ซึ่งไม่มีสินค้าในกลุ่มเอนทรี เลเวล ขณะที่ อีแมชชีน จะเป็นแบรนด์สำหรับเจาะตลาดล่างทั่วไป
"อีแมชชีน ถือว่าเปิดตัวออกมาในช่วงจังหวะดี เศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ลูกค้ามองหาถึงโปรดักส์ที่เน้นเรื่องของราคา ขณะที่ต้นทุนของการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ก็ต่ำลง ทำให้ผู้ผลิตสามารถทำราคาที่ลดลงมาได้" นายนิธิพัทธ์กล่าว
ล่าสุด เอเซอร์เปิดตัว “เน็ตท็อป” ราคา 6,990 บาท ใช้ชีพียูอะตอม ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอีแมชชีน ซึ่งกำหนดราคาต่ำสุดเท่าที่เคยทำมา โดยจะเปิดขายในงานคอมมาร์ต ตั้งเป้ายอดขายภายในงาน 1,000 เครื่อง เน้นเจาะตลาดกลุ่มนักเรียนตั้งแต่มัธยมศึกษาลงมา
รวมทั้งคาดว่าหลังจากงานคอมมาร์ต "เน็ตท็อป" น่าจะมียอดขายต่อเดือนราว 4,000 เครื่อง หรือประมาณ 36,000 เครื่องภายในปีนี้
นอกจากนี้ ในเดือนกรกฏาคม บริษัทเตรียมนำเข้าเดกส์ทอป และโน้ตบุ๊คภายใต้แบรนด์เกตเวย์ เพื่อเจาะตลาดระดับบนเป็นหลัก
นายนิธิพัฒน์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดเอเซอร์ช่วง 2 เดือนแรกปีนี้ ยอดขายเดสก์ทอป และโน้ตบุ๊ต ลดลง 10% ขณะที่ตลาดรวมทุกแบรนด์ ทั้งพีซี และโน้ตบุ๊คปรับตัวลดลง 10-15% โดยเป็นช่วงก่อนงานคอมมาร์ต ซึ่งลูกค้าจะชะลอการซื้อเพื่อมาซื้อในงาน รวมทั้ง สภาพเศรษฐกิจก็มีผลทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ชะลอการซื้อ หันมามองโปรโมชั่นเป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น
