Author Topic: ซินเน็ครุกค้าส่งไอทีครึ่งปีหลังดันรายได้ 1.5 หมื่นล้าน  (Read 960 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

"ซินเน็ค" เผยค้าส่งไอทีสดใส ครึ่งปีแรกฟันยอดขายกว่า 7 พันล้าน จับมือบริษัทโทรคม "ทรู" แตกไลน์ขายสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี พร้อมลุยแอนดรอยด์

"ซินเน็ค" เผยค้าส่งไอทีสดใส หลังผ่านครึ่งปีแรกฟันยอดขายกว่า 7 พันล้าน จับมือบริษัทโทรคม "ทรู" แตกไลน์ขายสมาร์ทโฟนแบล็คเบอร์รี พร้อมลุยตลาดแอนดรอยด์ หลังจากกล่อมเอเซอร์อยู่หมัด ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์เอเซอร์  และอุปกรณ์ต่อพ่วง ประเมินยอดขายกลุ่มสมาร์ทโฟนปีหน้าพุ่งไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาทต่อเดือน ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 1.5 หมื่นล้านบาท โตไม่ต่ำกว่า 20%

นายสุพันธ์ มงคลสุธี ประธานกรรมการ และซีอีโอ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดค้าส่งไอทีหลังจาก 2 ไตรมาสแรกผ่านมา มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยซินเน็คมียอดสั่งซื้ออุปกรณ์ไอทีต่อวันไม่ต่ำกว่า 1,500 ใบสั่งซื้อ คิดเป็นรายได้ต่อวันไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่ยังได้รับความนิยม และทำรายได้สูง ได้แก่ กลุ่มโน้ตบุ๊ค พีซี อุปกรณ์เมโมรี่ สตอเรจ โดยยอดขายเติบโตราว 18-20%

ทั้งนี้ หลังผ่านพ้นวิกฤติการเมือง โดยเฉพาะในเขต กทม. ทำให้เห็นถึงแนวโน้มความต้องการสินค้าไอทีดีดตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก หลังจากไตรมาส 2 เป็นต้นมา ยอดขายดีขึ้นตามลำดับ โดยบริษัทมียอดขายครึ่งปีแรก 7,504.16 ล้านบาท เติบโตราว 19.65% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นรายได้ที่สูงสุดในรอบ 21 ปี บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% ขณะที่การเติบโตของธุรกิจค้าปลีก-ส่งไอทีภาพรวมโตขึ้นกว่า 20%

"ปัจจัยหลักๆ มาจากมาร์เก็ตแชร์ในแต่ละกลุ่มสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าไอทีได้เข้าไปกินส่วนแบ่งทั้งในตลาดเอวี และโอเอ โดยเฉพาะประเภทเมโมรี่การ์ดต่างๆ ขณะเดียวกันเรายังได้เป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีของเอเซอร์ ที่ไม่รวมโน้ตบุ๊ค และพีซี เป็นครั้งแรกด้วย ทำให้ซินเน็คกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์ไอทีมากที่สุดในประเทศไทย กว่า 53 แบรนด์"

เขาระบุว่า นอกจากยอดขายโน้ตบุ๊คที่ยังโตเพิ่มอย่างต่อเนื่องแล้ว สินค้าประเภทเอ็กซ์เทอร์นัล ฮาร์ดไดร์ฟ ยังเป็นกลุ่มที่เติบโตแรงสุด โดยปัจจุบันโตกว่า 20-30% ซึ่งอนาคตมีโอกาสโตขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 10-20 เท่า

นอกจากนี้ 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ตั้งทีมขาย และแตกธุรกิจใหม่ขึ้นขายสินค้าสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ โดยเป็นพันธมิตรกับทรู คอร์ปอเรชั่น จำหน่ายแบล็คเบอร์รี และโมโตโรล่า ไมล์สโตน ซึ่งเป็นแอนดรอยด์โฟน และสมาร์ทโฟนของเอเซอร์

"สำหรับธุรกิจโฟนที่ตั้งขึ้นมานี้ ยังเป็นช่วงเริ่มต้นซึ่งยอมรับว่า ช้ากว่าคู่แข่งที่เขาขายสมาร์ทโฟนก่อนเราไป แล้ว 2 ปี แต่ก็เชื่อว่า ด้วยช่องทางจำหน่ายของซินเน็คที่มีครอบคลุม ตลาดสมาร์ทโฟนน่าจะเป็นอีกตลาดที่บริษัทจะเข้า ไปมีส่วนร่วมในส่วนแบ่งการตลาดได้ คาดว่าจะรับรู้รายได้ประมาณต้นปีหน้า โดยคาดว่าน่าจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 20-30  ล้านบาทต่อเดือน"

อย่างไรก็ตาม ในประเทศจีน รวมถึงไต้หวัน ซินเน็คมีส่วนแบ่งตลาดการขายสมาร์ทโฟนใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะจีน ซินเน็คเป็นพันธมิตรขายให้โนเกีย ขณะที่ออสเตรเลียเป็นพันธมิตรกับเอชทีซี ส่วนไต้หวันก็มีส่วนแบ่งการตลาดการขายสมาร์ทโฟนได้กว่า 30% หากบริษัทยังเปิดกว้างสำหรับสมาร์ทโฟนรายอื่น ซึ่งที่ผ่านมามีหลายแบรนด์ดังๆ ที่เข้ามาติดต่อ แต่ยังไม่ได้สรุป

นายสุพันธ์ กล่าวด้วยว่า ตลาดไอทีไทยยังเติบโตได้อีก หากไม่มีเหตุการณ์อะไรเข้ามาทำให้ตลาดหยุดชะงัก คาดว่า ปี 2554 หากไม่มีสถานการณ์รุนแรง ตลาดไอทีจะเติบโตระดับ 10-12% ส่วนปีนี้ อยู่ที่ 8-10%

ตลาดไอทีไทย ปี 2553 จากการสรุปตัวเลขของซิป้าแบ่งเป็นมูลค่าตลาดฮาร์ดแวร์ 8.8 หมื่นล้านบาท ซอฟต์แวร์ 6.7 หมื่นล้านบาท บริการ 5.7 หมื่นล้านบาท และการสื่อสาร 3.8 แสนล้านบาท มูลค่าโดยรวมราว 5.9 แสนล้านบาท

ที่มา: bangkokbiznews.com


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)