โนเกีย ผลประกอบการไตรมาส 2 ประจำปี 2553 ยอดขายสุทธิ 10,000 ล้านยูโร หรือราว 42,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 และเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2553 โดยมียอดขายอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ (สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่) เพิ่มขึ้นถึง 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552
ในไตรมาส 2 ปี 2553 โนเกียมียอดจำหน่ายอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทั้งหมด 111.1 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาส 2 ปี 2552 โดยโนเกียคาดว่ายอดขายอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของทั้งอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2552 (ยึดความหมายของตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ของโนเกียที่ปรับปรุงขึ้นใหม่เมื่อต้นปี 2553)
มร. ออลลิ-เพกกา คัลลัสวูโอ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โนเกีย กล่าวว่า “แม้ว่าจะมีความท้าทายในตลาดอย่างต่อเนื่อง ผลประกอบการของโนเกียไตรมาส 2 ได้ส่งสัญญาณที่ดีต่ออนาคตข้างหน้า อันเป็นผลพวงจากการเติบโตของตลาดโทรศัพท์มือถือที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการของโนเกียไตรมาส 2 ในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นผลมาจากโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ ของเราในราคาที่หาซื้อได้ง่าย”
ในส่วนของอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ (สมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่) โนเกียมียอดขายอยู่ที่ 24 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2552 และเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2553
“สำหรับสมาร์ทโฟน เรายังคงสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าโนเกีย N8 ซึ่งเป็นอุปกรณ์สื่อสารรุ่นแรกบนซิมเบียน 3 จะสร้างประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา และหลังจากนั้นจะมีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการซิมเบียน 3 ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้โนเกียพร้อมที่จะต่อสู้ในตลาดไฮเอนด์”
โนเกียคาดว่า ยอดขายอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์ของทั้งอุตสาหกรรมในไตรมาส 2 ปี 2553 อยู่ที่ 59 ล้านเครื่อง เมื่อเทียบกับ 41 ล้านเครื่องในไตรมาส 2 ปี 2552 และ52.6 ล้านเครื่องในไตรมาส 1 ปี 2553 โดยโนเกียคาดว่าจะมีส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์สื่อสารคอนเวอร์เจนซ์อยู่ที่ 41%
เวิร์คช็อปการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับ Nokia N8
โนเกียจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปสำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น เปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นสำหรับ Nokia N8 และสมาร์ทโฟนของโนเกียในอนาคต โดยนักพัฒนากว่า 70 คนได้เข้าร่วมเวิร์ค ช็อป
มร.ชูมิท คาพูร์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โน เกียเล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์และแอพพลิเคชั่นให้สอดคล้องกับความสนใจของคนในประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค สร้างระบบนิเวศของโลกสื่อสาร (Ecosystem) และส่งเสริมนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นชาวไทย จึงจัดเวิร์คช็อปเพื่อเปิดโอกาสให้นักพัฒนาชาวไทยได้ทดลองสร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของโนเกีย การทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับนักพัฒนาจะทำให้โนเกียสามารถสร้างสรรค์และสนับสนุนการสร้างสรรค์บริการและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ผู้บริโภคต้องการ”
กิจกรรมเวิร์คช็อปดังกล่าวจัดขึ้นในหัวข้อ Qt & Web Run-Time Training Workshop โดยเปิดโอกาสให้นักพัฒนาได้ฟังข้อมูลภาพรวมกลยุทธ์คอมพิวเตอร์บนมือถือของโนเกีย โอกาสและช่องทางในการเผยแพร่ผลงาน สาธิตการทำงานของ Nokia N8 อย่างละเอียด รวมถึงได้รับสิทธิในการเป็นสมาชิก Forum Nokia Launchpad ฟรีเป็นเวลา 1 ปี และสามารถเริ่มพัฒนาแอพพลิเคชั่นบนแพลทฟอร์มเว็บแอพพลิเคชั่นและคิวต์ (QT) ตลอดจนเผยแพร่ผลงานสู่ตลาดโลกผ่าน Ovi Store ซึ่งมีโทรศัพท์โนเกียที่สามารถเข้าใช้งานมากกว่า 100 รุ่น
ปัจจุบันแอพพลิเคชั่นและคอนเทนต์บน Ovi Store มีให้เลือกใช้งานกว่า 30 ภาษาใน 180 ประเทศทั่วโลก และมีอัตราการเติบโตด้วยยอดดาวน์โหลดมากกว่า 1.7 ล้านครั้งต่อวัน
ที่มา: telecomjournal.net