ธุรกิจค้าปลีกไอทีแข่งเดือด เชนสโตร์เริ่มตั้งโต๊ะเจรจากำหนดราคาขั้นต่ำยุติปัญหาสงครามราคา ฮาร์ดแวร์เฮาส์ เร่งกลยุทธ์วางโครงสร้างบริการรับมือการแข่งขันอนาคต ขณะที่คอมเซเว่น เมินเจรจาฮั้วราคา ชี้เอาเปรียบผู้บริโภค ด้านไอทีซิตี้ ชูกิจกรรมส่งเสริมการขาย จัดงาน"ไอทีซิตี้ เอ็กซ์โป"
นายชาติชาย วิทยธรรมโสภณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัทฮาร์ดแวร์เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ "ฮาร์ดแวร์เฮ้าส์" เปิดเผยว่าขณะนี้การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอที โดยในบางพื้นที่ที่มีการแข่งขันด้านราคารุนแรง อาทิ พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ก็เริ่มมีการหารือระหว่างผู้ค้า โดยเฉพาะร้านค้าที่เป็นเชนสโตร์ มีสาขาเป็นจำนวนมาก เพื่อกำหนดราคาขายขั้นต่ำ ป้องกันการขายตัดราคากันเอง ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีจะมีการจัดตั้งเป็นกลุ่มขึ้นมา เพื่อกำหนดราคาขายสินค้าขั้นต่ำ
ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวทำให้บริษัทเริ่มวางโครงสร้างพื้นฐานการให้บริการใหม่ทั้งหมด โดยไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้บริษัทจะปรับปรุงการให้บริการใหม่ทั้งหมด ภายใต้แนวคิด "Smiley IT" ทั้งรูปแบบหน้าร้าน การให้บริการขาย และบริการซ่อมพนักงาน ตลอดจนชุดยูนิฟอร์มพนักงานขาย และโบรชัวร์สินค้าที่ปรับรูปแบบเป็นแม็กกาซีน นอกจากนี้ยังได้ลงทุนอบรมพนักงานขายใหม่ และปรับปรุงระบบหลังบ้านใหม่เพื่อรองรับกับการให้บริการ ส่วนการขยายสาขาเพิ่มโดยปีนี้ตั้งเป้าไว้ 140 สาขา จากขณะนี้มีอยู่ 104 สาขา โดยสาขาที่ขยายเพิ่ม 80% จะเป็นต่างจังหวัด และ 20% เป็นสาขาที่ขยายในกรุงเทพฯ ส่วนกลยุทธ์การตลาดไตรมาส 3 และ 4 นั้น จะมีการจัดกิจกรรมการตลาดฉลอง 18 ปี ฮาร์ดแวร์เฮ้าส์ โดยจะมีแคมเปญจัดชิงโชครถยนต์ต่อเนื่อง ในเดือนกันยายน 2553
"ปีนี้เราตั้งใช้งบประมาณการรีโนเวตร้านฮาร์ดแวร์เฮ้าส์ และขยายสาขาเพิ่มทั้งหมด 500 ล้านบาท โดยเดิมตั้งเป้าเติบโตไว้ 30% จากตัวเลขยอดขายรวมปีที่ผ่านมา 3,200 ล้านบาท แต่จากวิกฤติการเมืองในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาทำให้ปรับลดตัวเลขการเติบโตเหลือ 20% ซึ่งในไตรมาส 2 และ 3 ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมชิงโชครถยนต์ ทำให้มียอดเติบโตขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา"
ด้านนายกฤชวัฒน์ วรวานิช รองประธานบริหาร บริษัทคอมเซเว่น จำกัด ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีภายใต้ชื่อ "บานาน่า ไอที" กล่าวว่า บริษัทไม่มีนโยบายร่วมกับผู้ค้ารายอื่นกำหนดราคาขายขั้นต่ำ เนื่องจากจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยที่ผ่านมาใช้กลยุทธ์ปรับราคาสินค้าขึ้นลงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้า อาทิ หน่วยความจำหรือแรม แบบเรียลไทม์วันต่อวัน ขณะที่โน้ตบุ๊กนั้นที่ผ่านมาเจ้าของแบรนด์เป็นผู้กำหนดราคาขาย ซึ่งบริษัทก็พยายามรักษากติกาไม่ขายตัดราคาเพื่อไม่ให้กระทบกับกลยุทธ์การกำหนดราคาของผู้ผลิต
ส่วนกลยุทธ์การตลาดครึ่งปีหลังยังคงมุ่งกิจกรรมการตลาด และการขยายสาขาต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เปิดหน้าร้าน "บานาน่าไอที พาร์ค" ที่ศูนย์พาราไดซ์ พาร์ค (ห้างเสรีเซ็นเตอร์) โดยเป็นร้านบานาน่าไอทีที่ใหญ่สุด มีเนื้อที่ 600 ตารางเมตร และจำหน่ายสินค้าไอทีแบบครบวงจร ประกอบด้วย พื้นที่แสดงและขายโน้ตบุ๊กทุกแบรนด์, ศูนย์ไมโครซอฟท์ เอ็กซ์พีเรียน เซ็นเตอร์ สินค้าดีไอวาย และของเล่นไอที โดยบริษัทใช้เม็ดเงินลงทุนศูนย์ดังกล่าวไปประมาณ 12 ล้านบาท
นายเอกชัย ศิริจิระพัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของไอที ซิตี้ ในช่วงครึ่งปีแรกเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดยในไตรมาสแรกของปี 2553 มียอดขายเติบโต 19.06% ล่าสุดพร้อมเปิดสาขาใหม่ที่หัวหินช้อปปิ้งมอลล์ วันที่ 31 กรกฎาคมนี้ ปัจจุบันไอที ซิตี้ มีสาขารวมทั้งหมด 40 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ส่วนยอดขายของไอที ซิตี้ช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมากกว่าครึ่งปีแรก"
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้จะยังคงเน้นเรื่องการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพิ่มมากขึ้นนอกเหนือจากการจัดโปรโมชันพิเศษประจำเดือนหรือตามเทศกาลแล้วยังมีกิจกรรมใหญ่ประจำปี คือ งานไอที ซิตี้ เอ็กซ์โป 2010 ซึ่งจะจัดตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมถึงวันที่ 17 สิงหาคม 2553 ที่ร้าน ไอที ซิตี้ ทั้ง 40 สาขาทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือ เน้นให้ลูกค้าหรือผู้บริโภคมีโอกาสสัมผัสเทคโนโลยีไอทีใหม่ล่าสุดในราคาพิเศษ ซึ่งในปีนี้ไอที ซิตี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทคู่ค้ากว่า 80 บริษัทมากกว่า 11 แบรนด์ดัง อาทิ เอเซอร์, เอชพี, แคนนอน, ซัมซุง, ซินโดม, โซนี่, โตชิบา, เดลล์, อัสซุส, บราเธอร์ และเบนคิว ในการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของแต่ละแบรนด์มาจัดแสดงและจัดจำหน่ายในราคาสุดพิเศษเฉพาะงานนี้งานเดียวเท่านั้นและคาดว่าการจัดงานไอที ซิตี้ เอ็กซ์โป 2010 จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ประมาณ 30% คิดเป็นรายได้ประมาณ 450 ล้านบาท
นอกเหนือจากเทคโนโลยีไอทีที่นำมาจัดแสดงและการจัดโปรโมชันสินค้าไอทีราคาพิเศษแล้ว ไอที ซิตี้ยังเปิดตัวเว็บไซต์ของบริษัท อย่างเป็นทางการ คือ
www.itcity.co.th เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลด้านสินค้าไอทีที่ทันสมัย รวมทั้งนำเสนอราคา และโปรโมชันสินค้าต่างๆ สำหรับลูกค้าโดยผ่านสื่อออนไลน์เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งเปิดตัวบริการใหม่ล่าสุด iCare บริการประกันภัยโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ จอมอนิเตอร์ โปรเจกเตอร์ และแอลซีดี ทีวี ที่จะเพิ่มระยะเวลาการประกันเป็น 3 ปีเต็มในราคาสุดพิเศษ
ที่มา: thannews.th.com
