การสำรวจล่าสุดพบเว็บไซต์เครือข่ายสังคมและเว็บล็อกนั้นครองสัดส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตโดยรวมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ทำสถิติสูงกว่าอีเมล ซึ่งเคยเป็นกิจกรรมยอดนิยมของชาวอินเทอร์เน็ต
ข้อมูลการสำรวจจากบริษัทวิจัยนีลสันออนไลน์ (Nielsen Online) พบว่ากิจกรรมออนไลน์ที่กินเวลามากที่สุดอันดับหนึ่งยังคงเป็นการสืบค้นข้อมูลออนไลน์ อันดับสองคือการเข้าเว็บไซต์ตามความสนใจทั่วไป รองลงมาคือเว็บไซต์เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ อันดับสี่คือเว็บไซต์เครือข่ายสังคม และอันดับห้าคือเช็กอีเมล
ยังไม่เห็นขาลง
จอห์น เบอร์แบงค์ (John Burbank) ซีอีโอนีลสันออนไลน์ตั้งข้อสังเกตว่า ราว 2 ใน 3 ของประชากรออนไลน์ทั่วโลกล้วนเป็นสมาชิกของเว็บไซต์เครือข่ายสังคม โดยขณะนี้ยังไม่ทีท่าว่าจำนวนสมาชิกของเว็บไซต์เหล่านี้จะลดลงหรือมีอัตราการเติบโตที่ช้าลง โดยการสำรวจพบว่า ทุกๆ 1 ใน 11 นาทีซึ่งประชากรเน็ตทั่วโลกเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต จะถูกนำไปใช้กับการเข้าสู่เว็บไซต์เครือข่ายสังคม
เฉพาะในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 2007 และ 2008 เวลาในการใช้งานเว็บไซต์เครือข่ายสังคมนั้นเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนราว 63 เปอร์เซ็นต์ รวมอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านนาที
หากแบ่งเค้ก 4.5 หมื่นล้านนาทีซึ่งผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกเทให้กับเว็บไซต์เครือข่ายสังคม จะพบว่าเวลาส่วนใหญ่เป็นของเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งถูกบันทึกว่าสมาชิกเฟซบุ๊กนั้นมีการใช้งานเว็บไซต์นานถึง 2.05 หมื่นล้านนาที เพิ่มขึ้น 566 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าปีก่อนซึ่งทำอัตราการเติบโตไว้ได้ 3.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อธันวาคมปี 2006
ช่วงปี 2006-2007 นั้นเป็นปีที่การใช้งานเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเพิ่มขึ้นราว 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวบราซิล แต่จุดหนึ่งที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงคือชาวบราซิลเหล่านี้ใช้เวลานานกับการเล่นเว็บไซต์เครือข่ายสังคม คิดเป็นสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 23 เปอร์เซ็นต์ของเวลาท่องเน็ตทั้งหมด
สำหรับตลาดโลก เฟซบุ๊กคือเว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดคือ 108.3 ล้านคน เป็นเว็บเครือข่ายสังคมเบอร์หนึ่งในออสเตรเลีย สเปน สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ และอิตาลี แต่ในสหรัฐฯ คะแนนความนิยมกลับอยู่ที่มายสเปซ (MySpace) ขณะที่ในญี่ปุ่นนั้นนิยมเว็บท้องถิ่นนามมิกซี่ (Mixi) และบราซิลนิยมออคุต (Orkut) ของกูเกิล
ตลาดเปลี่ยน
ข้อมูลในอดีตที่เชื่อว่าเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเหล่านี้จะมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่นนั้นเริ่มหมดสมัยแล้ว เพราะการสำรวจล่าสุดพบว่าเยาวชนไม่ใช่ฐานตลาดใหญ่ของเว็บไซต์เครือข่ายสังคมแล้วในขณะนี้ โดยการสำรวจของนีลสันออนไลน์พบว่า ระดับอายุสมาชิกเฟซบุ๊กที่มีการเติบโตสูงที่สุดคือกลุ่ม 35-49 ปี และผู้ใช้เฟซบุ๊กในกลุ่ม 50-64 ปีนั้นมีการเข้าใช้งานมากกว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 18 ปีถึง 2 เท่า
ที่สำคัญ นีลสันออนไลน์เชื่อว่า สมาชิกเฟซบุ๊กในอังกฤษช่วงอายุ 35-49 ปีนั้นจะมีจำนวนมากกว่าช่วงอายุ 18-34 ปีภายในเดือนมิถุนายน ปีนี้
กลุ่มตลาดที่เปลี่ยนไปย่อมส่งผลถึงรูปแบบการโฆษณาออนไลน์บนเว็บไซต์เครือข่ายสังคมเหล่านี้ ซึ่งเชื่อว่าภาพรวมการเปลี่ยนแปลงจะชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีนี้
ที่มา: manager.co.th