Author Topic: ธุรกิจ SME ควรปรับตัวอย่างไรเมื่อการตลาดออนไลน์เริ่มทำยาก และต้นทุนแพงขึ้นเรื่อย  (Read 406 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline siritidaporn

  • Pro Member
  • *
  • Posts: 772
  • Karma: +0/-0

นับตั้งแต่การเข้ามาของ Facebook โซเชียลมีเดียยอดนิยมที่อยู่คู่สังคมโลกมาแล้วนานกว่า 14 ปี (Facebook ก่อตั้งขึ้นในปี 2004) รูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์โลกก็ได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทุกคนสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ง่ายขึ้น ธุรกิจหลายภาคส่วนหันมาลงทุนทำ การตลาดออนไลน์ บนโซเชียลมากขึ้น และยังไม่นับรวมถึงโซเชียลแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ในตลอดช่วงเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา จึงเรียกได้ว่า Social Media กลายเป็นพื้นที่สำคัญสำหรับผู้บริโภค และผู้ทำธุรกิจด้วย

และเมื่อเวลาผ่านไป โซเชียลมีเดีย (ในฐานะสื่อดิจิทัล) แต่ละเจ้าเริ่มพัฒนาตนเองให้กลายเป็นพื้นที่ออนไลน์ที่สามารถทำโฆษณา หรือเพิ่มอัตราการมองเห็นให้กับผู้ทำธุรกิจได้ ด้วยการ “จ่ายเงิน” ให้กับแพลตฟอร์มนั้นๆ ซึ่งปัจจุบันเม็ดเงินค่าโฆษณาบนสื่อดิจิทัลแค่เฉพาะประเทศไทยมีมูลค่าสูงมากถึง 12,402 ล้านบาท ในปี 2560 ที่ผ่านมา จำนวนเงินอันมหาศาลนี้เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่า การตลาดออนไลน์ มีความสำคัญ และส่งผลต่อแบรนด์เป็นอย่างมาก

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยเม็ดเงินสะพัดที่สูงขนาดนี้ ทำให้เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลทยอย “ขึ้นราคาค่าโฆษณา” เช่น จากเดิมที่จ่าย 100 บาท ให้คนเห็นได้ 1,000 คน ตอนนี้ต้องจ่าย 200 บาท เพื่อให้คนเห็นได้ 1,000 คนเท่าเดิม ซึ่งการขึ้นค่าโฆษณาเช่นนี้ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจต้องรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น

จำนวนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ใช่ปัญหาหลักสำหรับธุรกิจที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ และมีเงินทุนพร้อมใช้ แต่ผลกระทบหลักๆ จากการทำการตลาดบนสื่อออนไลน์จะเกิดขึ้นกับธุรกิจที่เป็นภาคส่วนของ SME ที่มีทุนไม่สูงมาก และยังเป็นธุรกิจขนาดเล็ก – กลาง ที่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น แต่อาจขายได้เท่าเดิม หรือขายได้น้อยลงกว่าเดิม ทำให้บรรดาเจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวกันยกใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจของตัวเองอยู่รอดได้

แล้วแนวทางการปรับตัวของกลุ่มธุรกิจ SME ต้องทำอย่างไรเพื่อไม่ให้โดนผลกระทบหนัก และไม่เพิ่มภาระให้กับตนเอง ลองมาดูกัน


ทุกธุรกิจควรลงทุนกับ Digital Assets ของตัวเอง

คำว่า Digital Assets หรือสินทรัพย์ดิจิทัล อาจฟังดูยาก แต่ความหมายของมันง่ายๆ ก็คือ “สินทรัพย์ที่เป็นของเราในโลกออนไลน์” ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวก็คือ “เว็บไซต์”

สาเหตุที่แบรนด์ควรลงทุนกับแพลตฟอร์มของตนเองได้แล้ว ณ ตอนนี้ เป็นเพราะว่า ราคาของสื่อออนไลน์แพงขึ้นมากในแทบทุกช่องทาง ขณะที่จำนวนผู้ใช้เติบโตน้อยมาก แถมคนเสพคอนเทนต์ก็มีตัวเลือกให้เลือกอย่างหลากหลาย การใช้เงินทุ่มลงไปบนสื่อออนไลน์อาจมี feedback กลับมาแบบไม่คุ้มกับที่เสียไป

การลงทุนกับแพลตฟอร์มของตนเองจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกธุรกิจควรจะทำตั้งแต่ตอนนี้ เพราะไม่เช่นนั้น ธุรกิจของคุณจะถูกผูกติดกับแพลตฟอร์มที่ไม่ได้เป็นของคุณเอง และคุณจำเป็นที่จะต้องจ่ายเงิน หรือทำตามเขาทุกอย่าง เพราะคุณหนีไปจากตรงนั้นไม่ทันแล้ว


อย่าฝังธุรกิจไว้กับโซเชียล

ในความเป็นจริงแล้ว Social Media ส่วนใหญ่ถือกำเนิดขึ้นมาจากจุดประสงค์ของการเชื่อมต่อคนทั่วโลกให้เข้าถึงกัน หลังจากนั้นถึงมีการพัฒนาแพลตฟอร์มให้เอื้อต่อการทำธุรกิจด้วยการมีฟีเจอร์ให้ลงโฆษณา ให้ซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มนั้นๆ ได้ทันที แต่ลองคิดภาพว่า Social ทุกแพลตฟอร์มถึงจุดอิ่มตัว ผู้ใช้เริ่มเบื่อ ไม่มีคนเข้าไปดูอะไร ไม่มีคนเล่น แล้วใครจะเห็นสินค้า หรือคอนเทนต์ของเรากัน?



ธุรกิจ SME ควรปรับตัวอย่างไรเมื่อการตลาดออนไลน์เริ่มทำยาก และต้นทุนแพงขึ้นเรื่อย อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://techwealth99.com/


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)