จะดีแค่ไหนถ้าเรามีพื้นที่ส่วนตัวห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ ทิวเขา วิวท้องฟ้าสีครามสวยทั้งวัน และยังมีดาดฟ้าให้นอนดูดาวสบาย ๆ ทั้งคืน คิดดูแล้วเหมือนสวรรค์อยู่ตรงหน้าเพียงแค่เอื้อม หลายคนอาจจะคิดว่านี่เป็นเพียงความฝัน แต่เราจะบอกว่าบ้านในประเทศโคลัมเบียหลังหนึ่งทำได้จริง แม้ว่าโครงสร้างบ้านจะเรียบ ๆ ไม่หวือหวา พื้นที่สร้างเป็นเนินที่ดูจะเป็นอุปสรรคกับการก่อสร้าง แต่เมื่อได้มองครบทุกมุมจะเห็นว่าข้อด้อยนั้นกลับส่งเสริมให้บ้านไม่เหมือนใคร และใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีอยู่ให้กลายเป็นบ้านที่น่าอิจฉา
บ้านนี้ถูกออกแบบให้เป็นเสมือนหนึ่งอุปกรณ์กล้องโทรทัศน์ ที่ใช้ในการสังเกตและพิจารณาวิวหุบเขาจากภูเขาทางทิศตะวันออก โดยใช้กลยุทธ์การแทรกซึมซุกตัวอยู่กลางเนิน ในเวลาเดียวกันก็มีบางจุดลอยตัวออกมาอย่างท้าทาย วัสดุหลัก ๆ ของบ้านเป็นแผ่นพื้นแบนๆ ดูหนาหนักสองแผ่นคั่นด้วยกำแพงและกระจกใส โดยสถาปนิกได้จัดระเบียบและมีพื้นที่รอบนอกของบ้านล้อมรอบเส้นขอบฟ้าหันสายตาไปที่ภูเขา
คอร์ทยาร์ดในบ้าน
จากถนนที่เป็นทางลาดขึ้นเนินมายังโรงจอดรถ จะพบกับลานที่เจาะรูบนหลังคา เพื่อสร้างทางเข้าที่เต็มไปด้วยความเขียวขจี มีแสงสว่างและช่องทางการระบายอากาศสำหรับภายในเมื่อเปิดผนังไม้ที่อยู่ตรงกับด้านนี้
เมื่อเข้าไปข้างในแล้ว จะพบกับห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร ห้องครัว ที่ต่อเนื่องกันหมดในห้องโถงขนาดใหญ่ โทนสีจะใช้แบบกลาง ๆ สลับวัสดุไม้ธรรมชาติและเฟอร์นิเจอร์ที่นุ่มนวล พร้อมต้อนรับการกลับบ้านอย่างผ่อนคลาย แต่ก็มีของตกแต่งหลายๆ ชิ้นที่เป็นโลหะสีทองเหลืองพื้นผิวมันวาว เติมกลิ่นอายของความหรูหราที่ทำให้สัมผัสได้ถึงรสนิยมที่ไม่ธรรมดา
โซนครัวที่ออกแบบอย่างพิถีพิถัน และมีสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ระดับไฮเอนด์ จากจุดนี้และส่วนใช้งานอื่นๆ ของบ้านสามารถมองเห็นวิวได้หลากหลายมุมมองผ่านประตูกระจก แม้จะยังไม่ได้เปิดประตูออกไปข้างนอกตัวบ้าน ก็ยังรับรู้ได้ถึงความสดชื่นของวิวธรรมชาติที่ยืมมาเป็นส่วนประกอบหนึ่งของบ้าน
เมื่อเลื่อนเปิดประตูกระจกที่หลังห้องทานอาหาร จะพบกับเฉลียงกว้างๆ ที่ยื่นออกไปใกล้วิวภูเขา ชวนให้ออกมานั่งรับสายลมเย็น ๆ ที่ไหลผ่านผิวกายตลอดเวลา ชมพระอาทิตย์ที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวและหายลับไปในก้อนเมฆและกระจายแส้นแสงที่สวยงามออกมา เป็นภาพชวนให้จดจำที่ไม่เหมือนกันแม้แต่วันเดียว
ตัวบ้านยื่นออกไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ
สถาปนิกต้องการแชร์พื้นที่แห่งความน่าประทับใจ ให้ทุกส่วนของบ้านเปิดมุมมองออกไปจับภาพทิวทัศน์ที่ไม่เหมือนใครภายนอกได้จากทุกจุด ในทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นในห้องส่วนกลาง ห้องนอน หรือห้องน้ำ ก็จะใช้กระจกเป็นวัสดุช่วยเบลอขอบเขต เชื่อมต่อวิสัยทัศน์ ให้คนและบ้านเป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติได้ไม่ยาก
เมื่อยามค่ำมาเยือน แสงจากธรรมชาติค่อยๆ ถูกกลืนหายไปกับความมืด แสงไฟที่ใช้ตกแต่งบ้านในรูปแบบต่างๆ จึงได้เวลาแสดงตัวขึ้นมาแทนที่ จากห้องนั่งเล่นที่เปิดผนังได้กว้างหลายเมตร สามารถเก็บภาพท้องฟ้าและวิวเขาได้กว้างแบบพาโนรามา เราจะได้เห็นภูมิทัศน์ของเมืองที่เปลี่ยนไปกับแสงไฟจากชุมชนเมืองข้างล่างที่เปล่งประกายแข่งกับดวงดาว ตั้งแต่เช้าถึงเย็นจะมีสิ่งที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำให้บ้านหลังนี้กลายเป็นบ้านในอุดมคติสำหรับคนที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติที่สวยงามไม่รู้จบ
บ้านหลังนี้จัดผังพื้นที่ใช้สอยให้ทุกห้องเชื่อมต่อกัน และใช้เพียงผนังลอยเพื่อกั้นสัดส่วนแบบ Free Plan ในสไตล์โมเดิร์น ทำให้โครงสร้างหลัก ๆ อยู่ที่แผ่นพื้นและหลังคา ผนังด้านนอกเป็นอิสระไม่ต้องรับน้ำหนัก ส่วนหลังคาที่แบนนั้นยังสามารถใช้งานเป็นดาดฟ้าหรืออื่นๆ ในขณะที่เส้นสายเรียบง่ายนำเสนอแนวคิดความทันสมัยได้ดี แต่การทำหลังคาแบนต้องระมัดระวังเรื่องการรั่วซึม จึงต้องทำกันซึมและระบบระบายน้ำ เพื่อไม่ให้มีน้ำขังรั่วซึมลงมาภายใน นอกจากนี้ระนาบหลังคาที่เรียบสามารถรับแสงได้เต็มที่ จึงต้องวางแผนระบบการป้องกันบ้านจากความร้อนเอาไว้ด้วย
ออกแบบบ้านชั้นเดียว: บ้านที่สร้างมาเพื่อเก็บวิวแบบ 360 องศา อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://luxuryhomesdesigns.com/
