หากพูดกันถึงเรื่องนวัตกรรมยานยนต์ที่มาแรงและได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องยกให้กับ “รถยนต์ไฟฟ้า” หรือที่หลายคนเรียกกันว่ารถยนต์ EV (Electric Vehicle) อย่างแน่นอน เนื่องจากสาเหตุด้านเชื้อเพลิงรถยนต์ในปัจจุบันมีการปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เริ่มหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลายคนหันมาสนใจรถยนต์ทางเลือกอย่างรถยนต์ไฟฟ้าแทน
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้าตอบโจทย์ที่ทุกคนกำลังตามหา ไม่ว่าจะเรื่องของพลังงาน ความประหยัดและความคุ้มค่า เพื่อเป็นแนวทางในการหารถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่มาไว้ในครอบครอง
เราได้รวบรวม 6 รถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้มาให้คุณแล้วที่นี่ มาดูกันเลย!!
1. ORA GOOD CAT GT
เริ่มต้นที่รถยนต์ไฟฟ้าจากค่าย GWM ที่ไม่ว่าใครก็คงต้องเคยได้ยินชื่อกันมาบ้าง อย่าง ORA GOOD CAT ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ดีไซน์ให้ความรู้สึกนึกถึงน้องแมวตัวน้อยด้วยไฟหน้าตาแมว LED อัจฉริยะ เบาะออกแบบมาใส่ใจในเรื่องของสรีรศาสตร์ โดดเด่นจนเป็นที่จดจำกับสไตล์ Retro Futuristic คันเล็กน่ารัก ภายในเป็นสีทูโทน พร้อมทั้งสีสันมากมายให้ได้เลือกใช้งาน
ORA GOOD CAT มีหลายโมเดลด้วยกัน ทั้ง 400 PRO, 500 ULTRA และ GT โดยรุ่นที่เรานำมาแนะนำนี้เป็น ORA GOOD CAT GT ซึ่งจะเจาะแนวการดีไซน์เป็น Retro-Sport Futuristic มาในสีดำ-แดง กันชนด้านหน้าดีไซน์สปอร์ต แบตเตอรี่ลิเธียม ความจุแบตเตอรี่ 63.139 kWh กำลังสูงสุด 126 kW (171 PS) ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 152 km/h ใครกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดหรือเรื่องระยะการเดินทางก็สบายใจได้ เพราะชาร์จครั้งเดียวเต็มที่สามารถไปไกลกว่า 500 กม. แถมมีโหมดออกตัวแบบ Launch Control อีกด้วย
ราคา : 1,286,000 บาทหลังเงินอุดหนุน (ราคาเดิม 1,579,000 บาท)
ข้อดี
เป็นรถยนต์ไฟฟ้ายอดฮิตพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะของ GWM อย่าง GWM Lemon E Platform เหมาะสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ มีระบบกู้คืนพลังงาน ดีไซน์สวย มีระบบความปลอดภัยสูง
ข้อเสีย
เนื่องจากคันเล็กจึงไม่เหมาะกับคนที่สูงเกิน 170 เซนติเมตร รวมถึงอาจมีเสียงจากช่วงล่างรบกวนห้องโดยสารได้
2. HAVAL H6 PHEV Ultra
หนึ่งในตัวเลือกสำหรับคนที่มองหารถสำหรับครอบครัว HAVAL H6 PHEV Ultra รถสไตล์ Compact SUV รุ่นนี้ก็เป็นที่น่าจับตามองเช่นกัน ภายนอกดีไซน์ล้ำสมัย ภายในเป็นสไตล์ Futuristic เน้นความเรียบหรู ทูโทนดีไซน์ มี INTELLIGENT Application ให้ใช้งาน ชาร์จง่าย ชาร์จเร็ว เป็น AC/DC Charger รองรับการชาร์จแบบไฟบ้านและแบบเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง มาพร้อมนวัตกรรมความปลอดภัยเหนือระดับ 1.5 Turbo Hybrid พร้อมกับ 8 Driving Modes ให้ใช้งาน แบ่งเป็น EV 4 โหมดและ Hybrid 4 โหมด ตัวแบตเตอรี่ 34 kWh ชาร์จหนึ่งครั้งเต็มขับได้กว่า 201 กิโลเมตร
ราคา : 1,349,000 บาท
ข้อดี
เหมาะสำหรับครอบครัว ใครที่ยังกังวลเรื่องหาที่ชาร์จ PHEV คันนี้ก็ช่วยลดความกังวลลงได้ คุ้มราคา
ข้อเสีย
เสียงค่อนข้างดัง หน้าตาของโหมดการขับขี่อาจทำให้สับสนเล็กน้อย
3. VOLT City EV
มองหารถยนต์ไฟฟ้าราคาน่ารักต้องแวะมาดู VOLT City EV รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนซึ่งกำลังเป็นประเทศผู้นำเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าของโลก มาจากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD ที่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอันดับ 1 ของจีนอีกด้วย คันเล็กน่ารักไม่เกิน 4 เมตร เจาะคนรักสไตล์มินิมอล สีสันทูโทนจับคู่มาให้เลือกหลากหลาย มีทั้งรุ่นสำหรับ 2 ที่นั่งและ 4 ที่นั่ง เรียบง่าย ใช้งานสะดวก มากับกำลัง 46 แรงม้า (HP) / แรงบิด 102 (N-m) หรือเทียบเท่ารถเก๋ง ECO car เลยทีเดียว
สำหรับ VOLT City EV นี้เน้นการใช้งานในเมือง แบตเตอรี่ลิเธียม Normal Charge ชาร์จไฟบ้านได้ไม่มีปัญหา มี ECO Mode หากชาร์จเต็มสามารถขับขี่ได้กว่า 200 กิโลเมตร ระบบความปลอดภัยเต็มที่ เกียร์เป็นแบบปุ่มกดใหม่สไตล์ EV พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมใช้งานสะดวก Electric power Steering Multi-function จอแสดงข้อมูล Multi-function ในรูปแบบ Dual Screen พร้อมระบบสัมผัส แถมยังมีบริการตรวจระบบไฟที่บ้านอีกด้วย
ราคา : รุ่น FOR-TWO 365,000 บาท , รุ่น FOR-FOUR 425,000
ข้อดี
ราคาจับต้องได้ เรียกว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาน่ารัก เหมาะสำหรับคนที่หารถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในงบจำกัด
ข้อเสีย
แม้จะมีการดีไซน์ภายในให้โล่งกว้าง แต่เนื่องจากขนาดที่เล็กก็จะไม่ค่อยเหมาะกับคนตัวใหญ่เสียเท่าไหร่
4. NEW MG4 ELECTRIC
อีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกพูดถึงไม่แพ้กันอย่างค่าย MG ก็มีรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจอย่าง NEW MG4 ELECTRIC ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าระบบขับเคลื่อนล้อหลังจาก MG ทำให้มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนที่ดียิ่งขึ้น ชาร์จหนึ่งครั้งเต็มที่เดินทางได้กว่า 425 กิโลเมตร กำลังสูงสุด 170 แรงม้า มีทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันคือรุ่น X และรุ่น D โดยในรุ่น X นั้นจะมีความพิเศษตรงที่ระบบ SMART CHECK (การตรวจสอบอัจฉริยะ), SMART COMMAND (ระบบสั่งการอัจฉริยะ) และ SMART CONNECT (ระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ)
การดีไซน์มาในรูปแบบพรีเมียมสปอร์ต โฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา ไฟหน้า LED GALAXY TECHNOLOGY MATRIX HEADLIGHTS เบาะหลังพับได้ 60:40 ภายในห้องโดยสารเป็นการออกแบบแนว Minimal Sportiness มี Wireless Charger ให้ใช้งาน หน้าจอ touchscreen เดินทางอย่างปลอดภัยกับระบบ ADAS พร้อมระบบช่วยป้องกันอุบัติเหตุรอบทิศทาง
ราคา : รุ่น X 969,000 บาท, รุ่น D 869,000 บาท
ข้อดี
มีสถานีชาร์จ MG Super Charge โดยเฉพาะกว่า 100 แห่งทั่วประเทศ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ความรู้สึกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ
ข้อเสีย
ควบคุมยากเมื่อเข้าโค้งและต้องใช้กำลังมาก
5. NETA V
NETA Thailand พร้อมนำเสนอ NETA V รถยนต์ไฟฟ้าราคาหลักแสนซึ่งถูกพัฒนาจากแนวคิด Touchable Smart EV เป็นรถยนต์สัญชาติจีนอีกรุ่นที่น่าสนใจ ดีไซน์ให้ความรู้สึกถึงโลมา ไหลลื่น น่ารัก แถมยังอิงไปกับหลักอากาศพลศาสตร์ เหมาะกับการใช้งานในเมือง มีกุญแจ Smart Key ให้ใช้งาน ถ้าหากใครต้องการสายรัดข้อมือเพื่อเก็บกุญแจก็มีเป็นอุปกรณ์เสริม เพิ่มสไตล์ให้กับเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้ได้ทันที
แม้จะเป็นสไตล์มินิมอล สีสันน่ารักสดใส แต่ภายในยังสามารถรองรับได้ 5 ที่นั่ง ระบบหน้าจอแบบสัมผัส ขับได้รวดเร็วกำลัง 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 N-m ชาร์จไฟได้ทั้งแบบ DC และ CCS Combo ชาร์จปกติใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ถ้าหากชาร์จอย่างรวดเร็ว (DC) เพียง 30 นาทีก็ใช้งานได้ แบตเตอรี่ลิเธียม 40.7 kWh ชาร์จหนึ่งครั้งเต็มขับได้กว่า 384 กิโลเมตรด้วยกัน มีระบบความปลอดภัยครบ
ราคา : 549,000 บาทหลังเงินอุดหนุน (ราคาเดิม 760,000 บาท)
ข้อดี
ช่วงล่างนุ่ม ขับในเมืองได้สบาย ราคาน่าจับต้อง อุปกรณ์และเทคโนโลยีครบครัน
ข้อเสีย
ไม่เหมาะกับการเดินทางไกลมากๆ
6. NISSAN LEAF
ปิดที่รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นจากค่าย NISSAN อย่าง NISSAN LEAF รถยนต์ไฟฟ้า EV 100% โครงสร้างแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย กระจังหน้ารูปตัว V มีการใช้หลักอากาศพลศาสตร์เข้ามาช่วยทำให้สามารถพุ่งทะยานได้ดีกว่าที่เคย เทคโนโลยี e-Pedal สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยการควบคุมคันเร่งเดียว (สลับกลับไปเป็นแบบเหยียบสองแป้นได้ตามความถนัด) และเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายทั้งการช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์ด้านหน้า ระบบเบรกฉุกเฉินและการมองรอบทิศทาง
ในการชาร์จหนึ่งครั้งเต็มสามารถวิ่งได้กว่า 311 กิโลเมตร แบตเตอรี่มีความจุถึง 40 kWh ตอบสนองทุกการเร่งอย่างรวดเร็ว สามารถชาร์จไฟเองได้ที่บ้าน ระบบชาร์จไฟบ้านใช้เวลา 6 ชั่วโมง (Double speed charge) 6.6 kW มีหัวชาร์จทั้งแบบธรรมดาและแบบเร็ว รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปีและรับประกันระบบไฟฟ้า 5 ปี
ราคา : 1,990,000 บาท
ข้อดี
เสียงเบา ไม่น่ารำคาญ มีจุดชาร์จมากกว่า 244 จุด ขับเคลื่อนดี
ข้อเสีย
ราคาค่อนข้างสูงหากเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ เนื่องจากต้องนำเข้ามาจากญี่ปุ่น
สรุป ใช้รถไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี
เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ทั้ง 6 ที่เราได้รวบรวมมาให้ จะเห็นได้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นก็มีตั้งแต่ราคาหลักแสนไปจนถึงหลักหลายล้านเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีระบบและจุดเด่นที่แตกต่างกันไป โดยคุณสามารถเลือกใช้งานได้ตามต้องการ บอกไว้ตรงนี้เลยว่ารถยนต์ไฟฟ้านั้นกำลังเป็นเทรนด์ทั่วโลก เรียกว่าเป็นตลาดที่คึกคัก มีทั้งเหล่าผู้พัฒนาและผู้ใช้งานเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้วงการขับเคลื่อน ไม่ย่ำอยู่กับที่ น่าจับตามองและน่าใช้สุดๆ
แนะนำ 6 รถยนต์ไฟฟ้าน่าใช้ (ราคาน่ารัก!) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/car/?fuel_type=4078&quicksearch_order=306,DESC-326,ASC
