ตั้งแต่โบร่ำ...โบราณมา มักมีวลีหนึ่งที่ผู้หลักผู้ใหญ่พร่ำพูดเสมอ นั่นก็คือ สุภาพบุรุษนั้นต้องให้เกียรติสุภาพสตรี หรือที่ฝรั่งนิยมใช้ว่า “เลดี้ เฟิร์ส” และถึงแม้ฝ่ายหญิงจะออกมาเรียกร้องสิทธิของตนเองก็ตามที แต่จะเป็นเช่นไรเมื่อวันหนึ่งฝ่ายชายเป็นฝ่ายออกมาพูดคำว่าเลิกกับพวกเธอต่อหน้าธารกำนัลก่อน
พวกเขาจะถูกตราหน้าว่าไม่เป็นสุภาพบุรุษหรือเปล่า แล้วอย่างนี้ความเท่าเทียมในเรื่องของเพศอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะคนในวงการบันเทิง เมื่อผู้ชายเป็นฝ่ายออกมาประกาศยุติความสัมพันธ์กับคู่รักของตนเองก่อนต่อหน้าสื่อ
ลองมาไล่เรียงกันดูพอหอมปากหอมคอดีกว่า ว่าปีที่ผ่านๆ มาผู้ชายในวงการบันเทิงคนไหนบ้างออกมาประกาศโต้งๆ ว่าเลิกรากับแฟนของตนให้คนในสังคมรับรู้ เริ่มตั้งแต่คู่ที่เป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ "ฟลุค" เกริกพล มัสยวาณิช ครั้งหนึ่งเขาได้หลุดปากว่าแยกเตียงกับภรรยาสาว "โบ" ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ มาได้ 2 ปีแล้ว และนับจากวันนั้นอีกไม่นานสามีภรรยาคู่นี้ก็จูงมือกันกันไปจดทะเบียนหย่ากัน
คู่ต่อมาเป็นฝั่งพระเอกวิกหมอชิตที่ดีกรีความเจ้าชู้ไม่ได้เป็นสองลองใคร “วี” วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ ซึ่งออกมายอมรับว่าความสัมพันธ์ของเขากับแฟนสาว “นก” อุษณีย์ วัฒฐานะ ได้เดินมาถึงทางตันแล้ว หลังจากปลูกต้นรักร่วมกันมา 3 ปี
ด้านนักร้องหนุ่มหน้าหล่อกระชากใจสาวๆ อย่าง โดม ปกรณ์ ลัม ใครจะคิดเห็นหุ่นล่ำหน้าใสๆ นั้นไม่น่าจะใจร้ายเลย เนื่องจากเมื่อครั้งที่คบหาดูใจกับ พลอย เฌอมาลย์ บุณยศักดิ์ ก็เป็นฝ่ายออกมาให้สัมภาษณ์กับกองทัพสื่อมวลชน ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับพลอยจบลงไปแล้ว ไม่ใช้คำว่าแฟนแล้ว โดยการเลิกราครั้งนั้น ฝ่ายโดมก็เป็นคนบอกเลิกก่อน ซึ่งพลอยเคยตัดพ้อไว้
“ตอนที่พี่โดมบอกเลิก พลอยกำลังทำงานอยู่ ถ่ายโฆษณา ก็ทำงานต่อไปจนเสร็จ พอกลับถึงบ้าน ร้องไห้เลย เสียใจมาก เราทำดีที่สุดแล้ว เศร้ามาก ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่พี่โดมเลือก เขาเลือกเข้ามาในชีวิตพลอย เข้ามาจีบพลอย เข้ามาเริ่มต้น แล้วก็เลือกที่จะจากไป แล้วก็เข้ามาอีก แล้วก็ไป พลอยกล่าว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เลิกรากัน พลอย บอกว่า ขอปล่อยให้เป็นเรื่องของคนสองคนดีกว่า แต่ทว่าไม่นานความรักของทั้งคู่ก็ได้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง แล้วสุดท้ายพวกเขาก็ไม่สามารถประคับประคองกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง เพราะในที่สุดโดมก็ออกมายืดอกยอมรับอีกครั้ง ว่าเลิกรากับพลอยเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งระยะเวลาที่ทั้งคู่คบหากันนั้นรวมทั้งหมด 4 ปี
ตามติดมาด้วย อ๊อฟ พูนศักดิ์ จตุระบุล มือกีตาร์วงบิ๊กแอสส์ ก็เป็นฝ่ายออกมาประกาศว่าความรักของเขากับ ทราย อินทิรา เจริญปุระ ที่บ่มเพาะกันมากว่า 3 ปี บัดนี้ถึงคราวอับปางลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยอ๊อฟได้อ้างสาเหตุการเลิกกันในครั้งนั้น ว่าเป็นเรื่องความไม่เหมาะสมกัน เช่นเดียวกับ ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย นักร้องนำวงบอดี้สแลม ก็เป็นคนเปิดปากว่าเลิกกับ ขิง ทัศนพรรณ สิริสุขะ มาสักพักแล้ว สำหรับสาเหตุรักร้าวครั้งนี้ ตูนบอกว่าอาจจะด้วยแต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเอง
พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต วิเคราะห์ว่าด้วยค่านิยมของคนไทย เมื่อใครถูกอีกฝ่ายที่เป็นคนรักสลัดรักก่อน มักเข้าใจว่าตนเองไร้ค่า ฉะนั้นเมื่อฝ่ายไหนเป็นคนบอกเลิกก่อน พวกเขาอาจรู้สึกดีมีคุณค่าในตัวเองมากกว่า ดังนั้นเพื่อปกป้องความรู้สึกของตนเองถ้าใครได้ชิงลงมือก่อน ก็จะดีกว่ารอให้อีกฝ่ายมาเป็นคนประกาศบอกเลิก แต่จริงๆ แล้วการที่ถูกคนคนหนึ่งปฏิเสธรัก ใช่ว่าเขาหรือเธอจะสูญเสียคุณค่าในตัวเอง
ทั้งนี้ พญ.อัมพร กล่าวต่อ ว่าการที่ผู้ชายออกมาเป็นฝ่ายประกาศ ว่าเลิกกับแฟนสาวของตนให้สังคมรับรู้ก่อนนั้น ผู้หญิงจะรู้สึกอับอาย เนื่องจากเพศหญิงมีทางเลือกน้อยกว่าผู้ชาย เพราะเมื่อพวกเธอคบใครแล้วก็มักถูกตีตราเป็นของคนคนนั้น ทำให้ยิ่งเป็นการกระตุ้นให้รู้สึกว่าตนเองเสียหน้าเมื่อถูกบอกเลิก แต่ทั้งนี้ก็เป็นกับผู้หญิงบางคนเท่านั้นที่จะรู้สึกอย่างนี้ ผู้หญิงบางคนอาจไม่ยินดียินร้ายกับความคิดของคนรอบข้างก็ได้
“ถ้ามองอย่างเป็นกลาง การที่คนสองคนเลิกกัน ไม่ว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนนั้น ไม่มีใครผิดหรอก ต้นเหตุจริงๆ อาจเกิดจากความไม่ลงตัวของความรักของคนสองคนก็ได้ เราจะใช้มาตรความดี ความเลว มาวัดความรักไม่ได้หรอก
อย่างผู้ชายที่เป็นฝ่ายออกมาให้ข่าวแก่สื่อมวลชนว่าเลิกกับแฟนก่อน เขาอาจจะใสซื่อในการให้ข่าวก็ได้ แต่ถ้าจะให้หมอแนะนำทางออก ควรมีการตกลงบอกกล่าวกับคู่ของเราก่อน ว่าจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนะ เพื่อที่อีกฝ่ายจะได้รับรู้และเห็นพ้องต้องกันว่าควรพูดแบบไหนดี เพราะด้วยความที่เป็นคนสาธารณะเรื่องความรักมันปิดไม่ได้อยู่แล้ว แต่มันก็มีวิธีการตอบปฏิเสธแบบสุภาพได้นะ ไม่ใช่ว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงเสียทีเดียว" แพทย์หญิงคนเดิมกล่าว
ความรักไม่ว่าจะฉันสามี-ภรรยา หรือคู่รักที่เป็นแฟนกัน สุดท้ายใครจะเป็นฝ่ายบอกเลิกใครก่อน ผิดถูกไม่มีใครตัดสินได้ เพราะท้ายที่สุดก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
ที่มา:
http://www.komchadluek.net
