"เอชทีซี" งัดกลยุทธ์ซื้อมาร์เก็ตแชร์แข่ง ขายฐานตลาดกลาง-ล่าง ส่งแคมเปญรับแลกซื้อเครื่องมือสองของคู่แข่งทุกยี่ห้อ ตั้งแต่ "โนเกีย" จนถึง "มือถือจีน" ให้ราคาสูงสุด 5,000 บาท ขณะที่เครื่องจีนให้ราคา 1,000 บาท เพื่อแลกซื้อ HTC Smart ในราคา 5,750 บาท เผยกระแสมือถือจีนกำลังตกหนัก เครื่องมือสองในท้องตลาดเหลือแค่ 250-300 บาท ด้านตลาดไฮเอนด์ไม่หวั่นกระแส "แบล็คเบอร์รี่-ไอโฟน" ชูระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กำลังขาขึ้น พร้อมเสริมทัพด้วยบริการหลังการขายครบวงจร เผย HTC Desire ลอตแรก 8,000 เครื่อง ขายเกลี้ยง
นายณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้ว่ากระแสของแบล็คเบอร์รี่และไอโฟนจะมาแรงช่วงที่ผ่านมา แต่ในแง่ตัวเลขยอดขายของเอชทีซียังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะปีนี้สมาร์ทโฟนมีการเติบโตค่อนข้างมาก โดยในส่วนของเอชทีซีชูจุดเด่นในเรื่องของการเป็นผู้นำและผู้บุกเบิกระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ นอกจากนี้ ยังมี HTC Smart ซึ่งเป็นฟีเจอร์โฟนตัวแรกของเอชทีซีในระดับราคา 6,750 บาท เข้ามาเป็นตัวธงใหม่
สำหรับกระแสของแบล็คเบอร์รี่และไอโฟนนั้น บริษัทไม่กังวล เพราะขณะนี้ กระแสของมือถือระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์กำลังมาแรง และถ้าพูดถึงแอนดรอยด์ ตอนนี้ก็ต้องนึกถึงเอชทีซี โดยปัจจุบันบริษัทมีฐานลูกค้าที่ใช้เอชทีซี แอนดรอยด์อยู่ประมาณ 4 แสนเครื่อง นอกจากนี้ เอชทีซียังมีแอปพลิเคชั่น My HTC ที่มีโปรแกรมแชตในกลุ่มผู้ใช้เอชทีซี แอนดรอยด์ด้วยกันฟรี และปลายเดือน ก.ค.นี้ เครื่องเอชทีซีที่อยู่บนวินโดวส์โมบายก็จะสามารถแชตกันได้ฟรีเช่นกัน และอนาคตจะพัฒนาให้ HTC Smart สามารถแชตฟรีด้วย เพื่อให้ลูกค้าเอชทีซีทั้งหมดสามารถแชตภายในเครือข่ายได้ฟรี
โปรแกรมแชตของเอชทีซีนั้น ลูกค้าไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อแพ็กเกจเฉพาะ เพียงแค่ลูกค้าที่ใช้จีพีอาร์เอสก็สามารถแชตกันได้ฟรี แม้กระทั่งบนเครือข่ายไวไฟ ซึ่งแบล็คเบอร์รี่ทำไม่ได้
เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา เอชทีซีมีส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนเมืองไทย 28% อยู่อันดับสอง เป็นรองแค่โนเกีย ที่มีส่วนแบ่งกว่า 40% (รวมซิมเบียน) อันดับ 3 เป็นของไอโฟน และแบล็คเบอร์รี่ ตามลำดับ ซึ่งตอนนี้ไอโฟนกับแบล็คเบอร์รี่มีมาร์เก็ตแชร์ที่ใกล้กันมาก อย่างไรก็ตาม นี่เป็นข้อมูลตัวเลขเฉพาะที่มีการนำเข้ามาอย่างถูกกฎหมาย ไม่รวมในส่วนของตลาดเกรย์มาร์เก็ต สำหรับปีนี้ คาดว่าตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมจะเพิ่มเป็น 2 ล้านเครื่อง จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.2 ล้านเครื่อง
"กระแสของแอนดรอยด์กำลังมาแรง อย่างตอนนี้ HTC Desire ก็ขาดตลาด ลอตแรกที่เข้ามา 8,000 เครื่อง ก็หมดแล้ว"
นายณัฐวัชร์กล่าวว่า นอกจากนี้ บริษัทกำลังขยายช่องทางการจัดจำหน่ายจากไอทีช็อป ขยายลงมาตามร้านค้ามือถือรายย่อย และทำกิจกรรมสนับสนุนการทำตลาดของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ทั้งในแง่ของการทำเทรนนิ่ง และแคมเปญ เพื่อกระตุ้นตลาด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทกำลังเดินสายทำกิจกรรมตามหัวเมืองใหญ่ ๆ อาทิ เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี หาดใหญ่ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง โดยตลาดต่างจังหวัดตอนนี้เน้นที่ HTC Smart ซึ่งจากการทำตลาดมาประมาณเดือนเศษ ยอดขายค่อนข้างดี ประมาณ 800-1,000 เครื่องต่อสัปดาห์
พร้อมกันนี้ได้จัดแคมเปญรับแลกซื้อ โดยลูกค้าสามารถนำมือถือของคู่แข่งมาแลกซื้อเครื่องเอชทีซีได้ในราคาพิเศษ ทั้งที่เป็นแบรนด์เนม หรือมือถือจีน ถ้าเป็นมือถือโนเกีย ตระกูล N-Series, E-Series และสมาร์ทโฟนแบรนด์เนมทุกรุ่น จะให้ราคา 5,000 บาท โดยสามารถแลกซื้อ HTC HD mini (วินโดวส์โมบาย) ได้ในราคาเพียง 9,900 บาท จากปกติ 14,900 บาท
และถ้าเป็นมือถือโนเกีย และแบรนด์อื่น ๆ ทุกรุ่นทุกยี่ห้อที่เป็นจอสี มีกล้อง และสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้ จะรับแลกซื้อในราคา 3,000 บาท โดยสามารถแลกซื้อ HD mini ในราคา 11,900 บาท สำหรับโทรศัพท์มือถือจอสีทั่วไป รวมถึงมือถือจีน และโนเกีย (จอขาวดำ) ขอเพียงแค่ยังสามารถโทร.เข้า-ออกได้ จะให้ราคา 1,000 บาท สำหรับแลกซื้อ HTC Smart ได้ในราคา 5,750 บาท จากปกติ 6,750 บาท
"ราคาดังกล่าว ถือว่าดีมาก เพราะตอนนี้ กระแสมือถือจีนกำลังตกมาก ๆ เมื่อเอชทีซีนำแคมเปญนี้เข้าไป ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เพราะเครื่องมือสองมือถือจีนในตลาดนั้น รับซื้อกันที่ราคา 250-300 บาทเท่านั้น และกลยุทธ์ของบริษัทใช้นโยบาย sale talk หน้าร้าน เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ" นายณัฐวัชร์กล่าวและว่า
แคมเปญแลกซื้อ เริ่มตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ส.ค.นี้ ซึ่งบริษัทตั้งเป้าไว้ประมาณ 6,000 เครื่อง ซึ่งจากช่วงที่ทำแคมเปญมา 1 สัปดาห์ ผลตอบรับดีมาก ส่วนลูกค้าไม่มีเครื่องมือสองมาแลกมีแคมเปญผ่อน 0% นาน 10 เดือนให้เป็นทางเลือก
นอกจากนี้ เพื่อตอบโจทย์การให้บริการกับลูกค้า ล่าสุด บริษัทได้เปิด Pick Me Service ลูกค้าที่ใช้เครื่องเอชทีซีทุกรุ่น ถ้าเครื่องมีปัญหา สามารถโทร.เข้าคอลเซ็นเตอร์ โทร.0-2640-3399 บริษัทมีบริการส่งเจ้าหน้าที่ไปรับเครื่องถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน เป็นการสร้างบริการแบบครบวงจร เพราะเราต้องการเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด คือมีแอปพลิเคชั่นดาวน์โหลดฟรีเหมือนไอโฟน มีโปรแกรมแชตฟรี คล้ายแบล็คเบอร์รี่ และมีบริการหลังการขายที่ดี เป็นการตอกย้ำถึงการคำนึงถึงความพอใจของลูกค้าเป็นสำคัญ
นอกจาก Pick Me Service ขณะนี้บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทิบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นดิสทริบิวเตอร์ในการจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนของเอชทีซี ในการขยายศูนย์บริการในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีศูนย์บริการอยู่ที่กรุงเทพฯ 4 แห่ง และเชียงใหม่ 2 แห่ง โดยจะขยายไปยังภูเก็ต หาดใหญ่ และหัวเมืองหลัก ๆ
ที่มา: prachachat.net