Author Topic: ศัลยกรรมตาสองชั้นที่ Double Clinic แบบไหนเหมาะกับตัวคุณบ้าง  (Read 713 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline beepopeko

  • Sr. Member
  • ****
  • Posts: 490
  • Karma: +0/-0
    • http://www.facebook.com/-
    • http://instagram.com//-
    • http://www.twitter.com/-


ศัลยกรรมตาสองชั้นที่ Double Clinic แบบไหนเหมาะกับตัวคุณบ้าง


ศัลยกรรมตาสองชั้นในปัจจุบันมีหลากหลายวิธีมาก ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้นแบบผ่าตัดหรือการทำตาสองชั้นแบบไม่ผ่าตัด
วันนี้เราจะมาดูกันว่าการทำศัลยกรรมตาสองชั้นที่มีกี่แบบ แบบไหนเหมาะกับตัวคุณบ้าง



1. ศัลยกรรมตาสองชั้นโดยใช้เลเซอร์
การทำศัลยกรรมตาสองชั้นโดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีการแรกๆที่คนไข้หลายคนรู้จักคือ การใช้เลเซอร์เพื่อสร้างชั้นตาใหม่ การใช้เลเซอร์คือการใช้พลังงานพลาสมาจี้ไปที่ผิวหนังของคนไข้ พลังงานจากเลเซอร์นี้จะไปกำจัดผิวหนังส่วนเกินบริเวณเปลือกตาของคนไข้ ทำให้เกิดชั้นตาใหม่คล้ายกับการลงมีดเพื่อทำตาสองชั้น ขั้นตอนในการทำก็ง่ายด้วยการทายาชาทิ้งไว้ประมานครึ่งชั่วโมง ระยะเวลาในการทำจะประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น ข้อดีของการทำตาสองชั้นโดยใช้เลเซอร์คือเห็นผลทันทีหลังทำ และไม่บวมช้ำ ไม่ต้องพักฟื้น แต่ข้อเสียคือชั้นตาอาจจะไม่คงทนถาวร อยู่ได้ไม่ถึง 1 ปี ดังนั้นคนไข้ที่เหมาะกับวิธีนี้คือคนไข้ที่มีชั้นตาอยู่แล้ว หรือมีหนังตาไม่เยอะมาก ส่วนคนไข้อายุมากที่หนังตาค่อนข้างเยอะ วิธีผ่าตัดอาจจะได้ผลดีกว่า

Quote
ขั้นตอนในการทำก็ง่ายด้วยการทายาชาทิ้งไว้ประมานครึ่งชั่วโมง ระยะเวลาในการทำจะประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้น


2. ศัลยกรรมตาสองชั้นโดยการฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันตัวเอง
การทำตาสองชั้นโดนการฉีด ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์หรือไขมันตัวเองสามารถทำได้ในคนไข้ที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่มีอาการเบ้าตาลึกแทน ทำให้ดวงตาดูอ่อนล้าไม่สดใส การฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันเข้าไปที่บริเวณชั้นตาจะทำให้ชั้นตาดูเต็มมากขึ้น ตาสองชั้นจะกลับมาสวยงาม ดังนั้นคนไข้ที่เหมาะกับการทำตาวิธีนี้จึงเป็นคนไข้ที่ไขมันที่เบ้าตาหายไป เช่น ในคนสูงอายุ ข้อดีของการทำโดยการฉีดฟิลเลอร์หรือไขมันตัวเอง คือจะไม่ค่อยบวมช้ำมาก สามารถแต่งหน้าไปทำงานได้เลยในวันถัดไป


ตัวอย่างเคสเบ้าตาลึกที่แก้ไขปัญหาด้วยการเติมไขมันและกรีดยาว


3. ศัลยกรรมตาสองชั้นโดยวิธีเย็บสามจุด
การทำตาสองชั้นวิธีนี้คือการเจาะลงไปผ่านเปลือกตา เย็บฟิกกับเอ็นยึดชั้นตาเพื่อสร้างชั้นตาใหม่ การทำตาสองชั้นโดยวิธีนี้จะไม่มีรอยแผลเป็นเกิดขึ้น มีแค่รอยเย็บเล็กๆบริเวณเปลือกตาเท่านั้น ข้อดีข้อวิธีนี้อย่างอื่นคือ ไม่บวมช้ำไม่ต้องพักฟื้นเช่นกัน แต่ข้อเสียของวิธีการศัลยกรรมตาสองชั้นแบบจุดคือระยะเวลาที่เกิดชั้นตาจะสั้นๆ คนไข้บางส่วนกลับมาที่คลินิกอีกรอบเพราะชั้นตาหลุด ทำให้ตาสองชั้นหายไป นอกจากนั้นวิธีนี้จะไม่สามารถทำชั้นตาใหญ่หรือชัดได้เท่าการกรีด การทำศัลยกรรมตาสองชั้นโดยวิธีผูกสามจุดอาจจะมีโอกาสเกิดชั้นตาไม่เท่ากัน หากไหมที่ผูกแต่ละข้างตึงหรือหย่อนไม่เท่ากัน ดังนั้นคนไข้ที่เหมาะกับวิธีนี้คือ คนไข้ที่มีเปลือกตาบางมาก ไม่มีไขมันหนาที่บริเวณเปลือกตา

4. ศัลยกรรมตาสองชั้นโดยวิธีกรีดสั้น
การทำตาสองชั้นแบบกรีดสั้น เป็นวิธียอดนิยมของคนไข้ในปัจจุบัน เนื่องการรอยแผลค่อนข้างเล็ก และอายุโดยเฉลี่ยของชั้นตาสูงกว่าการศัลยกรรมตาสองชั้นโดยวิธีเย็บสามจุด ทำให้การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบวิธีกรีดสั้นเป็นวิธีที่หลายๆคลินิกใช้เป็นวิธีแรกเมื่อต้องทำตาสองชั้น ข้อดีของวิธีกรีดสั้นคือรอยแผลเล็ก ทำให้อาการบวมช้ำหรือเขียวหลังผ่าตัดน้อยกว่าการกรีดยาว วิธีนี้สามารถตัดไขมันส่วนเกินบนเปลือกตาได้ ทำให้คนไข้ที่แพทย์ประเมินว่าบริเวณเปลือกตามีแต่ไขมันสามารถทำได้เช่นกัน การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้น แพทย์จะลงมีดเป็นความยาวประมาณ 4-5 mm ทำให้ชั้นตาที่เกิดใหม่แข็งแรงจากการฟิกเปลือกตากับเอ็นยึดกล้ามเนื้อตา แต่ชั้นตาอาจจะไม่ใหญ่เท่าการกรีดยาว ข้อเสียของการทำวิธีนี้คือแพทย์จะไม่มสามารถตัดหนังตาได้ ทำให้คนไข้ที่มีหนังตาส่วนเกินบริเวณเปลือกตาเยอะๆเช่น คนสูงอายุไม่สามารถทำได้ หากทำก็จะได้ชั้นตาที่ไม่ชัด นอกจากนั้น การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้นยังต้องใช้ความชำนาญของแพทย์ผู้ผ่าตัดมากกว่าการทำตาแบบกรีดยาวอีกด้วย

Quote
การศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดสั้น แพทย์จะลงมีดเป็นความยาวประมาณ 4-5 mm ทำให้ชั้นตาที่เกิดใหม่แข็งแรงจากการฟิกเปลือกตากับเอ็นยึดกล้ามเนื้อตา แต่ชั้นตาอาจจะไม่ใหญ่เท่าการกรีดยาว



ตัวอย่างเคสกรีดสั้นของ double clinic

5. ศัลยกรรมตาสองชั้นโดยวิธีกรีดยาว
ศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาวคือหนึ่งในวิธีที่คลินิกทำตาสองชั้นในประเทศไทยส่วนใหญ่เลือกใช้ จากข้อดีที่แพทย์สามารถทำได้ทั้งตัดหนังตาหรือการตัดไขมัน แม้กระทั่งการย้ายไขมันส่วนเกินไปไว้ที่หัวตาก็สามารถทำได้จากการกรีดยาว ศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาวจึงเป็นวิธีที่พบได้บ่อย แต่เนื่องจากคนไข้ส่วนใหญ่กังวลเรื่องรอบแผลเป็น ทำให้ก่อนทำศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยวิธีนี้แพทย์จะต้องคุยกับคนไข้ถึงข้อดีข้อเสียและลักษณะดวงตาแบบไหนที่ควรทำบ้าง ข้อดีนอกจากการตัดหนังตาส่วนเกินได้แล้วนั้น การทำศัลยกรรมตาสองชั้นด้วยวิธีการกรีดยาวเป็นการสร้างชั้นตาที่คงทนถาวรและแข็งแรงมากที่สุด เราสามารถสร้างชั้นตาใหม่ด้วยการเย็บเอ็นกล้ามเนื้อตากับหนังตา ทำให้เกิดชั้นตาใหม่ที่แข็งแรงตามความสูงชั้นตาที่คนไข้ชอบได้เลย นอกจากนั้นแพทย์ผู้ผ่าตัดสามารถเห็นฟิลผ่าตัดทั้งหมดได้ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดตาสองชั้นวิธีนี้เป็นเรื่องง่าย แต่ข้อเสียคืออาการบวมช้ำที่เยอะตามมา และใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนาน โดยเฉลี่ยคือ 3 เดือนตาสองชั้นที่เกิดใหม่จึงจะเข้าที่ วิธีการศัลยกรรมตาสองชั้นโดยการกรีดยาวนี้จึงเหมาะกับคนไข้ที่แพทย์ประเมินแล้วว่าหนังตาบริเวณเปลือกตาเยอะ หาทำแบบกรีดสั้นจะไม่สามารถทำให้ชั้นตาชัดตามต้องการได้ วิธีนี้ยังเหมาะกับคนไข้ที่สามารถดูแลรักษารอยแผลเป็นบริเวณเปลือกตาได้

ศัลยกรรมตาสองชั้นแบบกรีดยาวคือหนึ่งในวิธีที่คลินิกทำตาสองชั้นในประเทศไทยส่วนใหญ่เลือกใช้
จากข้อดีที่แพทย์สามารถทำได้ทั้งตัดหนังตาหรือการตัดไขมัน
แม้กระทั่งการย้ายไขมันส่วนเกินไปไว้ที่หัวตาก็สามารถทำได้จากการกรีดยาว


ตัวอย่างการทำตาสองชั้นโดยการกรีดยาว


การศัลยกรรมตาสองชั้นแต่ละวิธีมีทั้งข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกศัลยกรรมตาสองชั้นวิธีที่เหมาะสมกับตนเอง ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง
เนื่องจากแพทย์ผู้ผ่าตัดจะต้องเป็นคนประเมินองค์ประกอบที่จะทำให้เกิดตาสองชั้น
ไม่ว่าจะเป็น หนังตาหรือไขมันส่วนเกิน หรืออาการบางอย่างที่ควรทำเพิ่มเช่นการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
คุณสามารถดูรีวิวประกอบการตัดสินใจและปรึกษาเกี่ยวกับการทำตาสองชั้นและรีวิวทำศัลยกรรมตาสองชั้นที่ double clinic เพิ่มเติมได้ที่นี่เลย

www.double-clinic.com




 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2052 Views
Last post May 27, 2010, 08:29:47 PM
by Nick
0 Replies
3588 Views
Last post November 17, 2010, 06:37:34 PM
by Nick
0 Replies
1817 Views
Last post November 29, 2011, 10:02:01 AM
by Nick
0 Replies
1460 Views
Last post May 29, 2012, 09:08:00 PM
by Nick
0 Replies
1800 Views
Last post July 23, 2012, 08:01:34 PM
by Nick
0 Replies
2062 Views
Last post January 17, 2013, 05:39:07 PM
by Nick
0 Replies
1508 Views
Last post September 27, 2015, 04:08:21 PM
by Nick
4 Replies
832 Views
Last post January 31, 2019, 04:53:55 PM
by beepopeko
0 Replies
632 Views
Last post May 11, 2020, 10:49:33 PM
by nitipat
0 Replies
697 Views
Last post November 10, 2022, 09:27:43 PM
by rattana27