Author Topic: รีวิวน้ำยาปรับอากาศมีแบบไหนบ้าง และต่างกันอย่างไร?  (Read 238 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline guupost

  • Platinum Member
  • ****
  • Posts: 5545
  • Karma: +0/-0

น้ำยาปรับอากาศ เป็นตัวช่วยบำบัดอากาศที่ทุกบ้านจะต้องมีไว้ เนื่องด้วยนอกจากจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ให้หายไปแล้ว น้ำยาบางชนิดยังทำหน้าที่กำจัดแบคทีเรียและสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ ช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีคุณภาพอากาศที่ดีขึ้นได้อีกด้วย โดยน้ำยาปรับอากาศที่มีการผลิตออกมานั้นมีด้วยกัน 3 ชนิด คือ เจลปรับอากาศ น้ำหอมปรับอากาศ และสเปรย์ปรับอากาศ โดยในวันนี้เราก็จะมารีวิวตัวช่วยปรับอากาศทั้ง 3 ชนิดว่าแต่ละแบบต่างกันอย่างไรและมีข้อดีข้อเสียเช่นไร ถ้าอยากทราบแล้วก็ตามมาดูกันได้เลย

1. เจลปรับอากาศ



เจลปรับอากาศหรือที่หลายคนนิยมเรียกว่าเจลดับกลิ่น น้ำหอมปรับอากาศที่มาในรูปแบบก้อน เป็นตัวช่วยปรับอากาศแบบกระจายกลิ่น แค่เพียงท่านวางเจลปรับอากาศไว้ตามที่ต่าง ๆ อาทิ ในห้องนอน ห้องน้ำ หรือห้องนั่งเล่น หรือในรถยนต์ กลิ่นของเจลก็จะค่อย ๆ กระจายสร้างความหอมไปทั่วห้อง ต้องบอกว่าเจลปรับอากาศนั้นเป็นตัวช่วยเอนกประสงค์ราคาถูกมากที่นอกจากจะช่วยสร้างกลิ่นหอมแล้ว ยังสามารถบำบัดอากาศ และช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วย หากจะกล่าวถึงข้อเสียของเจลปรับอากาศก็คงจะเป็นระยะของกลิ่นหอมที่ไม่ค่อยกว้าง และมีอายุการใช้งานแค่ราว ๆ 1 เดือนเท่านั้น

2. สเปรย์ปรับอากาศ



สเปรย์ปรับอากาศ คือน้ำหอมปรับอากาศที่ถูกนำมาบรรจุกระป๋องและใช้งานในรูปแบบของสเปรย์ มีคุณสมบัติในการบำบัดอากาศ กำจัดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ ช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ ให้ห้องมีกลิ่นหอมสดชื่น จุดเด่นคือใช้งานง่ายแค่เขย่ากระป๋องแล้วฉีด สามารถใช้บำบัดอากาศได้อย่างทันท่วงที และใช้ได้กับทุกที่ทุกห้องแบบไม่จำกัดระยะไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ หรือรถยนต์ ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง อีกทั้งเวลาฉีดออกมาจะเป็นละออกฟุ้งในอากาศจึงไม่เหมาะกับคนที่มีอาการแพ้สารเคมี

3. น้ำหอมปรับอากาศ



น้ำหอมปรับอากาศเป็นตัวช่วยบำบัดอากาศแบบกระจายกลิ่นเหมือนกันกับเจล แค่เพียงเปิดฝาและตั้งทิ้งไว้ตามห้องต่าง ๆ ก็จะสร้างกลิ่นหอม ช่วยบำบัดอากาศ และช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตามน้ำหอมปรับอากาศจะต่างกับเจลปรับอากาศตรงที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบก้อนเจล แต่จะเป็นน้ำหอมระเหยที่ให้กลิ่นที่เข้มข้นกว่าทำให้ไม่เหมาะจะใช้ในห้องแคบ ๆ เพราะว่าอาจทำให้กลิ่นแรงจนเกินไป นอกจากนี้ข้อดีอีกอย่างของน้ำหอมปรับอากาศที่เหนือกว่าเจลปรับอากาศ คือมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน ซึ่งก็แลกมากับราคาที่แพงกว่านั่นเอง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.homepro.co.th/c/HHP0101


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)