โปรเจ็คเตอร์ ชื่อที่คุ้นเคยมายาวนาน ยิ่งแวดวงธุรกิจที่ต้องอาศัยการนำเสนอเป็นหัวใจหลัก โปรเจ็คเตอร์ยิ่งเป็นส่วนสำคัญ
เพราะการนำเสนอที่ดีทำให้มีชัยไปกว่าครึ่ง ซึ่งการนำเสนอจะดีได้ "อุปกรณ์" ที่เป็นตัวช่วยก็ต้องดี มีมาตรฐาน การใช้งานไม่ยุ่งยาก
ทั้งนี้ ยังไม่รวมระบบความบันเทิงภายในบ้าน ที่โปรเจ็คเตอร์ก็เข้าไปมีบทบาทอยู่ไม่น้อย แม้จะเกาะกลุ่มเฉพาะตลาดบน ที่มีอำนาจซื้อ และต้องการสุนทรียะทางโสตสัมผัส
เทคโนโลยีโปรเจ็คเตอร์ มี 2 ค่ายที่แข่งขันกัน คือ แอลซีดี (Liquid Crystal Display) และดีแอลพี (Digital Light Processing) ซึ่งต่างก็ถือกำเนิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อประมาณ 20 ปีที่ผ่านมา ด้วยข้อดีข้อด้อยที่ต่างกันไป และขับเคี่ยวชิงชัยในตลาดกันสุดฤทธิ์ เพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดมูลค่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2556 จากปี 2549 ที่มีมูลค่า 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อปี 2550 โปรเจ็คเตอร์แบบ 3 แอลซีดี มีส่วนแบ่งตลาด 60%
เอปสันนำพิสูจน์เทคโนฯ 3 แอลซีดี
ล่าสุด เอปสัน ผู้ประดิษฐ์และบุกเบิกเทคโนโลยีแอลซีดี แบบ 3 ชิพ (3 LCD) ซึ่งฉลองครบรอบ 20 ปีของเทคโนโลยีนี้ ด้วยการจำหน่ายไปแล้วกว่า 50 ล้านชิพ นำโดยนายโคอิชิ คูโบตะ หัวหน้าคณะบริหาร แผนกปฏิบัติการวิช่วล อินสตรูเม้นต์ บริษัท ไซโก้ เอปสัน คอร์ป ได้เปิดโรงงานโปรเจ็คเตอร์ที่ประเทศญี่ปุ่นท้าพิสูจน์คุณภาพเทคโนโลยี 3 แอลซีดี
นายคูโบตะ กล่าวว่า วิสัยทัศน์ทางธุรกิจของบริษัทจะออกแบบโปรเจ็คเตอร์ให้ทั้งใช้ง่าย และมีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม ปรับปรุงการสื่อสาร และการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ ของความสนุกสนาน ตลอดจนนำไปสู่ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบด้วยมุมมองใหม่ ซึ่งมีตลาดเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นตลาดสำคัญ และมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
เทคโนโลยีอันซับซ้อนของ 3 แอลซีดี ที่ผสมผสานกระจกฟิลเตอร์สี ที่แบ่งกระจายแสงสีขาวซึ่งส่องจากหลอดภาพเป็นสีแดง เขียว และน้ำเงิน (RGB) โดยรวมเข้าอีกครั้งด้วยปริซึมสี ก่อนฉายไปยังจอภาพ ภาพที่ฉายออกมาจะมีคุณภาพคมชัด มีชีวิตชีวา เสมือนจริง สีสันสม่ำเสมอ ทำให้ผู้ชมไม่ปวดตา เวียนศีรษะ เมื่อจ้องมองภาพนานๆ เพราะแม่สีทั้งสามสีได้รับการรวมไว้ในแต่ละจุดแสดงผลของภาพตลอดเวลา
กลุ่มองค์กรนำสู่การเติบโต
อุตสาหกรรมโปรเจ็คเตอร์ คาดการณ์ว่า โปรเจ็คเตอร์แบบฉายภาพด้านหน้ามีลูกค้าหลักอยู่ในกลุ่มองค์กร ซึ่งนายยาสุโนริ โอกาวา ผู้จัดการทั่วไป แผนกออกแบบและวางแผนวีไอ ไซโก้ เอปสัน ขยายความว่า ลูกค้าองค์กรเป็นกลุ่มหลักที่ทำให้การจำหน่ายโปรเจ็คเตอร์เติบโตขึ้น 12% จากปี 2550 - 2551 โดยใช้ในกิจกรรมการขาย และการบรรยาย รวมทั้งการสื่อสารโทรคมนาคมแบบใหม่ๆ เช่น การประชุมทางไกลผ่านวีดิโอ ที่บริษัทหลายๆ แห่งเลือกใช้เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านการเดินทาง ก็ช่วยลดระยะห่างระหว่างสำนักงานต่างๆ ทั่วโลก
นอกจากนี้ การใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ที่ใช้กันแพร่หลาย จากการที่มีขนาดเล็ก ราคาต่ำลง สมรรถนะสูงขึ้น ก็เป็นตัวแปรสำคัญของการใช้โปรเจ็คเตอร์
ขณะที่ สถาบันการศึกษาก็เป็นลูกค้าโปรเจ็คเตอร์ที่สำคัญ โดยรวมบริษัทห้างร้าน และการศึกษา จะเป็นมูลค่า 69.7% ของมูลค่าการขายทั้งหมดเมื่อปี 2545 และการเติบโตจะมั่นคงไปถึงปี 2552 เฉลี่ยประมาณ 21%
การเติบโตของโปรเจ็คเตอร์มีมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือ ครองส่วนแบ่งตลาดถึง 62% ของการจำหน่ายทั่วโลก จากความนิยมชมภาพยนตร์ที่บ้านและโทรทัศน์แบบฉายจากด้านหลัง ยุโรปมีส่วนแบ่งเกือบ 16% ขณะที่ตลาดเอเชีย ยกเว้นญี่ปุ่นกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยส่วนแบ่งกว่า 13%
ส่วนโปรเจ็คเตอร์สำหรับใช้งานในบ้าน ได้วางแผนอนาคตว่า จะต้องมีขนาดเล็กลง ใช้งานง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน ผลิตภัณฑ์จะเชื่อมต่อระบบไร้สาย เว็บ คอนเทนท์ และบรอดแบนด์ได้ จากปัจจุบันที่เล่นดีวีดี บลูเรย์ เชื่อมพีซี เครื่องเล่นเกม ไอพ็อด กล้องดิจิทัลได้แล้ว
ส่วนแบ่งตลาดไทย 17.3%
ส่วนตลาดไทยนั้น นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โปรเจ็คเตอร์เอปสันในประเทศไทยได้เติบโตถึง 45% นับตั้งแต่ปี 2550
จากการสำรวจตลาดโปรเจ็คเตอร์ทั่วโลก ของฟิวเจอร์ ซอร์ส คอนซัสติ้ง เมื่อปี 2551 พบว่า เอปสันไทย มีส่วนแบ่งตลาด 17.3% เป็นที่หนึ่งของตลาดเช่นเดียวกับที่สิงคโปร์ ที่มีส่วนแบ่ง 11.6% เป็นไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่เอปสันครองส่วนแบ่งสูงสุด 18%
ทั้งนี้ โปรเจ็คเตอร์ของเอปสัน เป็นที่นิยมของลูกค้ากลุ่มองค์กร ซึ่งมีปริมาณการใช้สูง และต้องการสินค้าที่มีฟังก์ชันครบถ้วน ทนทาน โดยเขาเชื่อว่า ตลาดเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังต้องการโปรเจ็คเตอร์อีกมาก ลูกค้าองค์กรรวมตลาดการศึกษาคิดเป็น 70% ของยอดขายทั้งหมด
ที่มา: bangkokbiznews.com
