Author Topic: 3 วิธีจัดเก็บอาหารในตู้เย็นให้สด และคงรสชาติได้นานที่สุด  (Read 319 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline guupost

  • Platinum Member
  • ****
  • Posts: 5524
  • Karma: +0/-0



ในยุคที่ครอบครัวมีขนาดเล็กลง ทำให้การทำอาหารรับประทานในบ้านเป็นเรื่องสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้น เพราะว่าเนื้อสัตว์และผักที่ซื้อมาไม่สามารถใช้หมดได้ในคราวเดียว ตู้เย็นจึงเป็นที่ที่จัดเก็บอาหารสดไว้ได้ดีที่สุด แม้บางครั้งจะต้องสูญเสียความสดใหม่หรือรสชาติไปบ้างก็ตาม ซึ่งวิธีเก็บรักษามีหลากหลายวิธี ซึ่งวันนี้เรานำเสนอวิธีจัดเก็บ 3 วิธีจัดเก็บอาหารในตู้เย็นให้สดและคงรสชาติได้นานที่สุด ให้ท่านได้ลองนำไปใช้กัน

แนวทางเก็บรักษาเนื้อสัตว์ให้คงความสด
ในการเก็บรักษาเนื้อสัตว์ให้คงความสดได้นาน วิธีเดียวที่จะสามารถทำได้คือการ Freeze หรือแช่แข็ง แต่เมื่อเวลาที่เราจะนำออกมาทำอาหาร ก็จะต้องละลายน้ำแข็งออกเสียก่อน ควรใช้ให้หมดก็เพราะว่าการนำไปแช่แข็งใหม่เพื่อเก็บไว้ใช้ในครั้งต่อไป ตัวเนื้อสัตว์จะยิ่งเสียคุณภาพและรสชาติเยอะขึ้น

การเก็บรักษาเนื้อสัตว์อย่างแรกที่ควรคิดถึงคือ ระยะเวลาที่จะใช้ประกอบอาหาร ในกรณีที่ต้องเก็บไว้เป็นเวลานานกว่า 3-5 วัน ควรจัดเก็บด้วยการแบ่งเนื้อสัตว์ตามขนาดที่จะใช้ประกอบอาหาร ใส่ภาชนะหรือถุงที่ปิดสนิทแล้วนำไปแช่แข็งเอาไว้ เมื่อจะใช้ประกอบอาหารก็เพียงแค่หยิบตามจำนวนที่ต้องการมาละลายน้ำแข็ง ไม่ต้องเสียเวล่ำเวลาละลายเนื้อหมูทั้งก้อน หรือเนื้อปลาทั้งตัว

แต่ในกรณีที่เราจะใช้เร็วๆ นี้ เราสามารถเก็บเนื้อสัตว์ใส่ภาชนะที่ปิดสนิทแล้วแช่งไว้ในช่องสำหรับถนอมอาหารประเภทเนื้อสัตว์โดยเฉพาะ จะสามารถเก็บรักษาความสดและรสชาติได้ประมาณ 3-5 วันเท่านั้น แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น วันนี้เราสามารถเก็บรักษาเนื้อสัตว์โดยไม่ต้องแช่แข็งได้นานขึ้นกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี Optimal Fresh Zone ใน ตู้เย็น Samsung แช่แข็งขนาดใหญ่ที่สามารถแช่ไก่ได้ทั้งตัวที่อุณหภูมิ -1 องศา ทำให้สามารถเก็บรักษาความสดได้นานขึ้น 2 เท่า โดยเนื้อสัตว์จะไม่แข็งเป็นน้ำแข็ง ยังคงความสด นุ่ม เหมือนเพิ่งซื้อมา ยิ่งไปกว่านี้ยังปรับเปลี่ยนการใช้งานให้กลายเป็นช่องแช่เย็นเพื่อใช้แช่ผักผลไม้ให้คงความสดใหม่ได้ยาวนานอีกด้วย



แนวทางจัดเก็บผักให้สดกรอบเหมือนเพิ่งซื้อมา
ผักสดเป็นอาหารอีกประเภทที่เรามักจะต้องซื้อมาในปริมาณมากแต่มักใช้ไม่หมด วิธีการเก็บรักษาที่โดยมากนิยมทำคือเก็บใส่ถุงหรือกล่องที่ปิดสนิท แต่มักจะพบปัญหาผักเน่าเสียไว เนื่องจากไอน้ำที่ผักปล่อยออกมา ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้ง่ายดาย ด้วยการล้างผักให้สะอาด แล้วนำไปผึ่งให้สะเด็ดน้ำก่อนเก็บใส่ถุงหรือกล่องปิดสนิท โดยแนะนำให้ใส่ทิชชู่อเนกประสงค์รองไว้ด้านล่างก่อนใส่ผัก แล้วนำทิชชู่เอนกประสงค์ปิดไว้ด้านบนเพื่อช่วยดูดซับไอน้ำที่ผักคายออก ทำให้ผักไม่เน่าเสียง่าย คงคุณภาพความสดไว้ได้นานขึ้น

นอกจากนี้เราสามารถยืดอายุผักได้นานขึ้นไปอีกด้วยการจัดเก็บผักไว้ในช่องแช่สำหรับแช่เย็นผักโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีระบบไหลเวียนของความเย็นและอุณหภูมิที่แตกต่างเพื่อการเก็บรักษาผักผลไม้โดยเฉพาะ อย่างเช่น เทคโนโลยี HUMIDITY CONTROL ระบบควบคุมความชื้นในช่องแช่ผักของ ตู้เย็น Mitsubishi ที่ช่วยให้ผักและผลไม้สามารถคงความชุ่มชื้นและสดใหม่อยู่เสมอ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น VITAMIN FACTORY เทคโนโลยีคงความสดจากอนุภาพแสงสีส้มช่วยถนอมผักใบเขียวให้คงความสดใหม่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น

แนวทางเก็บรักษาเนื้อสัตว์และผักด้วยระบบสุญญากาศ
เป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากการเก็บรักษาเนื้อสัตว์และผักด้วยระบบสุญญากาศจะช่วยรักษาความคุณภาพและรสชาติของอาหารไว้ได้ยาวนาน ยังช่วยป้องกันเรื่องของกลิ่นอาหาร และการแพร่กระจายของเชื้อแบคทีเรีย ลดการปนเปื้อนจากากรสัมผัสหรือเชื้อในอากาศ แต่มีข้อเสียเรื่องความลำบากและค่าใช้จ่ายที่จะต้องซื้อเครื่องและถุงสุญญากาศ ซึ่งเครื่องขนาดยิ่งใหญ่ ก็จะยิ่งมีราคาแพง

ตู้เย็น Hitachi ได้ออกแบบ "ช่องแช่อาหารระบบสุญญากาศ" โดยระบบสุญญากาศรูปแบบเฉพาะของฮิตาชิจะควบคุมความดันบรรยากาศให้คงที่ ประมาณ 0.8 atm เกิดเป็นสภาพแวดล้อมที่มีออกซิเจนต่ำ ช่วยคงไว้ซึ่งสารอาหารประเภท วิตามิน และ กรดอะมิโน ที่มักเกิดกระบวนการออกซิเดชั่นได้ง่าย จึงช่วยให้ เนื้อสัตว์ ปลา และผลิตภัณฑ์จากนม สามารถรักษาคุณภาพความสดและรสชาติไว้ได้นาน

3 วิธีด้านบนเป็นวิธีการจัดเก็บอาหารสดไว้ในตู้เย็นที่ได้ผลมากที่สุด แต่ยังไงก็อย่าลืม แปะวันที่เริ่มจัดเก็บ เพื่อช่วยในการบริหารจัดการอาหารสดที่เก็บไว้ในตู้เย็น ให้มีปริมาณที่เหมาะสม อันไหนที่เก็บไว้นานจนเกินไป ก็ควรทิ้งหรือนำออกไป เพื่อให้คุณได้กินอาหารที่คุณภาพและตู้เย็นสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพนะคะ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Official Website : https://www.homepro.co.th/c/APP09


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)