ตู้เอกสารที่เก็บของได้เยอะโดยใช้พื้นที่น้อย นับว่าตอบโจทย์การจัดสรรพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งเดี๋ยวนี้ใครที่ฉีดวัคซีนแล้วจำเป็นต้องกลับไปทำงานเหมือนเดิม กลับพบว่าเมื่อกลับไปเอกสารที่นำกลับไปด้วยนั้นมากมายจนจัดเก็บไม่พอ ถึงเวลาซื้อตู้เอกสารใหม่แล้วค่ะ แต่เราจะต้องเลือกซื้อตู้เก็บเอกสารเช่นไรที่จะสามารถเพิ่มความคล่องตัวในการทำงานได้ และทำให้การทำงาน Productive มากยิ่งขึ้นตามมาเลยค่า
1.เลือกตู้เอกสารที่มีช่องแบ่งเอกสารเพื่อน ๆอาจจัดเก็บเอกสารแบบรวม ๆ กันอยู่ หรือใช้เพียงแค่แฟ้มในการแยกประเภทเอกสารเท่านั้น ซึ่งการจัดเก็บดังกล่าวอาจทำให้ค้นหาเอกสารเจอยากขึ้น และเสียเวลาค้นหาอีกด้วย แต่หากเปลี่ยนมาซื้อ
ตู้เก็บเอกสารที่มีช่องแบ่งเอกสารมาเรียบร้อยแล้วและคัดแยกเนื้อหาตามประเภทของเอกสาร ก็จะช่วยให้ท่านค้นหาเอกสารได้ง่ายขึ้น มีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น และไม่เปลืองเวลาในการค้นหาอีกต่อไป
2.เลือกประเภทของตู้เอกสารให้เหมาะสมหลาย ๆ คนอาจไม่ทราบว่าประเภทของตู้ที่แตกต่างกันทำให้หน้าที่ของการใช้งานรวมถึงประสิทธิภาพในการใช้งานย่อมแตกต่างกันด้วย ดังนั้นมาดูกันค่ะว่าตู้เอกสารแต่ละประเภทมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันอย่างไร
-
ตู้เอกสารเหล็ก: คุณสมบัติของตู้เหล็กคือมีความแข็งแรงทนทานเป็นอย่างมาก สามารถรองรับเอกสารที่มีน้ำหนักมาก ๆ ได้ เหมาะกับใช้เก็บเอกสารสำคัญที่เป็นความลับเพราะว่าเป็นตู้ทึบและแข็งแรงยากต่อการทำลาย นอกจากนี้ราคายังไม่สูงมากนัก หาซื้อได้ง่าย
- ตู้เอกสารไม้: ตู้ไม้จะมีการออกแบบและดีไซน์ที่ดูดีกว่าตู้เหล็กมาก เหมาะสำหรับทั้งการใช้งานและตั้งโชว์ เนื่องจากมีดีไซน์ไม่ซ้ำแบบ อย่างไรก็ตามตู้ไม้จะมีราคาจะไม่เท่ากันตามขนาดและชนิดของไม้
3.ขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่การเลือกขนาดให้เหมาะสำหรับพื้นที่จำเป็นอย่างมาก โดยปกติตู้เอกสารจะถูกตั้งไว้ไม่ไกลจากโต๊ะทำงานมาก ยิ่งหากเป็นเอกสารสำคัญยิ่งต้องวางให้ใกล้กับโต๊ะทำงานมากที่สุด ก็เพราะว่าจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการทำงานมากขึ้น ดังนั้นการวัดขนาดของตู้ให้เหมาะสมกับพื้นที่จึงมีความจำเป็นมาก เพื่อลงล็อกพอดีกับพื้นที่เราต้องการ และช่วยให้เราสามารถหยิบเอกสารได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
เพิ่มชีวิต Productive ง่าย ๆ จากการเลือกซื้อตู้เอกสารให้เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับการทำงานของคุณ และทำให้การทำงานของท่านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ติดต่อสอบถามได้ที่
Website :
https://www.homepro.co.th/c/FUR1003