รอยเตอร์ - สำนักงานการบินพลเรือนแห่งชาติจีน (CAAC) สั่งให้สายการบินแดนมังกรลดจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศลง และให้เที่ยวบินสู่กรุงปักกิ่งเปลี่ยนเส้นทางไปลงจอดที่เมืองอื่นแทน หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากต่างประเทศเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองหลวง
CAAC ประกาศวานนี้ (19 มี.ค.) ว่า สายการบินจีนซึ่งให้บริการ
体重控制เที่ยวบินระหว่างประเทศสู่กรุงปักกิ่ง จะต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่นๆ ในจำนวนนี้รวมถึงเที่ยวบินแอร์ไชน่าจากมอสโกและปารีส ซึ่งจะไปลงจอดที่นครเทียนจิน (Tianjin) แทน
สำหรับเที่ยวบินแอร์ไชน่าจากโตเกียวจะไปลงจอดที่สนามบินเมืองฮูเหอเฮ่าเท่อ (Hohhot) เมืองเอกของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ภายใน 3 วันข้างหน้า ส่วนเที่ยวบินไห่หนานแอร์ไลน์จากโทรอนโตจะไปลงจอดที่เมืองไท่หยวน (Taiyuan) ในมณฑลซานซี
ผู้โดยสารที่เดินทางมาพร้อมกับเที่ยวบินเหล่านี้ จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองสุขภาพที่สนามบินทั้ง 3 แห่ง และหากไม่มีอาการป่วยใดๆ ก็จะได้รับอนุญาตให้กลับขึ้นเครื่องบินเพื่อมุ่งหน้าสู่กรุงปักกิ่ง
ทางการจีนยังมีแผนปรับจุดเข้าเมืองแห่งแรก (first point of entry) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศอื่นๆ ที่จะมุ่งหน้าสู่ปักกิ่งในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
จีนมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศเป็น ‘ศูนย์’ เมื่อวานนี้ (19) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ไวรัสอุบัติขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่กลับพบผู้ติดเชื้อนำเข้าถึง 34 ราย ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง 21 ราย
การที่จำนวนผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศสูงกว่ายอดติดเชื้อในประเทศต่อเนื่องหลายวัน ทำให้รัฐบาลจีนต้องยกระดับคัดกรองคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวด โดยผู้ที่เดินทางไปถึงกรุงปักกิ่งจะต้องถูกกักโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ณ สถานที่ที่จีนกำหนด
ช่วงที่ไวรัสอุบัติขึ้นใหม่ๆ จีนออกมาตำหนิรัฐบาลต่างชาติที่ลดเที่ยวบินมายังประเทศของตน ทว่า ไวรัสกลับแพร่กระจายอย่างรวดเร็วจนเข้าสู่ภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก (pandemic) และเวลานี้มีพลเมืองจีนในต่างแดนจำนวนมากที่ต้องการกลับประเทศ ซึ่งบางคนก็นำเชื้อไวรัสติดตัวมาด้วย