ผีกระสือ / เมื่อเวลา 03.20 น. วันที่ 14 มี.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี เดินทางลงพื้นที่หมู่บ้านว่านเหลือง หมู่ 2 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อร่วมพิสูจน์
ดวงไฟปริศนาซึ่งมีผู้โพสต์ว่าพบเห็นในหมู่บ้านหนองกระเบา ม.3 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และที่หมู่บ้านบ้านว่านเหลือง หมู่ 2 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่ง2หมู่บ้านนี้ อยู่ห่างกันคนละอำเภอ ประมาณ 50 กม.เศษ โดยคืนเดียวกับที่มีคนพบเห็นดวงไฟประหลาดในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี พร้อมกับลูกหมูป่า(โทน)แรกคลอดหายไปจากเล้า และยังมีเด็กนักเรียนหญิงวัย 9 ขวบเศษใช้มือถือถ่ายภาพแสงไฟดวงดังกล่าวไว้ได้ ตามที่เสนออย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านั้น
โดยได้พบกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มใหญ่เกือบ 10 คน พากันขับขี่ซ้อนรถจยย.จับกลุ่มคอยดักพิสูจน์แสงไฟประหลาดที่ชาวบ้านเห็น และลูกหมูป่า(โทน)หายไป โดยคาดว่าเป็นผีกระสือ หรือ ผีปอบ ในหมู่บ้านตลอดทั้งคืน ท่ามกลางหมาเห่าเสียงขรม
เมื่อสอบถามได้ความว่า พากันมาดักเฝ้าดูเนื่องจากต้องการพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง หลังจากเห็นในคลิปที่เด็กหญิงวัย 9 ขวบถ่ายภาพแสงประหลาดเอาไว้ได้ โดยหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นยืนยันว่า ในคืนวันที่ลูกหมูป่า(โทน)หายไปนั้น พวกตนนั่งเล่นโทรศัพท์กันอยู่ริมถนนฝั่งตรงข้ามกับบ้านที่เลี้ยงหมูป่า ได้ยินเสียงหมูร้องลั่น คิดว่าพวกมันหยอกกัน จนรุ่งเช้าจึงทราบว่าลูกหมูป่า(โทน)หายไปพร้อมกับมีเด็กหญิงที่บ้านอยู่ใกล้ๆ กันกับเล้าหมู ถ่ายภาพแสงประหลาดดวงนั้นไว้ได้
แต่คืนนี้เหมือกับแสงประหลาดจะหยั่งรู้ว่ามีคนดักเฝ้าดู ตลอดทั้งคืนจึงไม่ออกมาให้เห็นแม้แต่น้อย
ด้านนางจ่อย เลิศล้ำ อายุ 63 ปี เลขที่ 2 หมู่ 2 ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เจ้าของลูกหมูที่หายไปกล่าวว่า เลี้ยงหมูป่าไว้ และคลอดลูกออกมา 1 ตัวเป็นลูกโทนประมาณ 7 วัน ในคืนวันเกิดเหตุช่วงกลางดึกของวันที่ 11 มี.ค. หมูป่าได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย
โดยคอกที่ขังหมูป่า-ลูกหมู ยังอยู่ปกติ หลังจากที่มีเด็กหญิงวัย 9 ปีบ้านอยู่ตรงข้ามกันถ่ายภาพแสงไฟประหลาดไว้ได้พอดี พร้อมๆ เพื่อนบ้านได้ยินเสียงลูกหมูในเล้าร้องโหยหวนก่อนหายไปในช่วงเช้า
ในอดีตอาจมีเรื่องแสงประหลาด แต่ในปัจจุบันแสงหรือดวงไฟประหลาดไม่มีให้เห็น มามีคนเห็นพร้อมเกิดเรื่องราวลูกหมูป่า(โทน)หายไป จนนักข่าวมากันทั้งวันก็ครั้งนี้ ในเรื่องความเชื่อว่าเป็นผีกระสือ หรือไม่นั้น แม้ไม่เชื่อ ตนเองก็ไม่เคยลบหลู่ในเรื่องเล้นลับนี้