เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเพจ “แหม่ม โพธิ์ดำ”ได้โพสต์ข้อความพร้อมคลิปวิดีโอ เปิดโปงชายคนหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความและภาพโชว์ความมั่งคั่ง มีฐานะทางการเงิน แต่กลับมีพฤติกรรมผิดกฎหมาย กักตุนหน้ากากอนามัยหลายล้านชิ้น เพื่อนำมาขายในราคาที่แพงกว่าท้องตลาด ทั้งที่กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก พร้อมโชว์รูปถ่ายขณะอยู่กับ บุคคลใกล้ชิดของรัฐมนตรี ในโรงแรมหรู ย่านปทุมวัน จนถูกชาวเน็ตถล่มใส่อย่างยับเยิน กลายเป็นประเด็นร้อนระดับประเทศ
ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำเพจ “แหม่ม โพธิ์ดำ”ได้โพสต์ข้อความว่า
"ถ้าการที่ก.เสี่ยงชีวิตเปิดเผยความจริงเรื่องหน้ากากสองสามวันนี้ ยังมีคนโยงกูไปสีนี้สีไหน ก..แนะนำว่าแยกแยะไม่ได้ก็ให้มึ..ไปตายซะนะ เรื่องที่เกิดขึ้นคือเราทุกคนเดือดร้อน
thailawdata ไทยลอว์ดาต้ากันหมด สถานพยาบาลไม่มีหน้ากากอนามัยมันคือความล้มเหลวทางการจัดการของหน่วยงานรัฐบาล ไวรัสมันไม่มีสีมีฝ่าย มึ..จะส้ม แดงเหลือง เขียว มึ..ก็ตายห่าได้ และมันต้องมีคนพูดความจริงเพื่อแก้ไขมัน
ก..ก็ได้แต่หวังว่าพี่ๆสื่อที่เคารพ จะตามติดปมหน้ากากอนามัยไปให้ถึงรายใหญ่ที่เกี่ยวข้อง และทำให้สถานการณ์หน้ากากขาดแคลนในประเทศดีขึ้น จัดความสำคัญของคนต้องการใช้มากที่สุดดีๆ หวังแค่นั้นจริงๆ ก..ดีใจนะ ทุกครั้งที่ออกมา ก..เจอแต่คนใจดีมีน้ำใจ และพร้อมช่วยเหลือกัน เวลาเราประสบปัญหาใดๆ การมีสติช่วยกันแก้ไข ไม่เห็นแก่ตัว จะทำพวกเรารอด
อีกสองชั่วโมง เพจก็ปิดแล้ว บอกตามตรง ที่บ้านก..ไม่สบายใจเอาอย่างมากที่ก..มาเล่นเรื่องนี้ แต่มันอดไม่ไหว ทีมงานอาสา ก..เขาก็เปิดหน้ากันหมด เขาพูดตลอด ควีนลุยเลย เราไม่กลัว พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด แต่มันก็ไม่ไหวนะ ที่จะเอาชีวิตคนเปิดหน้าสู้ไปเสี่ยงกับอะไรก็ไม่รู้ในวันที่บ้านเมืองเป็นแบบนี้ ที่สำคัญเจตนารมณ์เพจไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองด้วย พอแตะทีสะเทือนทั้งแผ่นดินเลย ก็หวังแต่รอบหน้าเปิดเพจมา ขอให้มีแต่เรื่องดีๆ มีรอยยิ้มของทุกโรงพยาบาลที่พวกเราส่งหน้ากากไปช่วยเหลือ แล้วเจอกันใหม่เมื่อชาติต้องการ รตน
thailawdata ไทยลอว์ดาต้า เรื่องกฎหมาย ยกให้เรา