นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในเรื่องของการปราบปรามจับกุมดำเนินคดีนั้นกระทรวงพาณิชย์มีสายตรวจและได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ ครม.ได้ประกาศให้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุมจนถึงปัจจุบันนี้มีการดำเนินคดีไปแล้ว 89 ราย โดยมีการดำเนินคดีทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ในส่วนกลางมีระบบ 64 ราย ในส่วนภูมิภาค 25 รายโดยแบ่งออกเป็น 2 ข้อหาคือ 1. ข้อหาไม่ติดป้ายแสดงราคา ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 28 2.คือข้อหาการจำหน่ายแพงเกินสมควรเป็นความผิดตามมาตรา 29
โดย รมว.พาณิชย์ ได้ลงในประกาศเป็นประกาศตามกฎหมายของคณะกรรมการกลาง
กำหนดราคา หน้ากากอนามัย ที่ 2.50 บาท ต่อหนึ่งชิ้น ดังนั้นก็ขอฝากไปถึงผู้ประกอบการและผู้ค้าอิสระว่า จะมีข้อหาเพิ่มอีกหนึ่งข้อหาสำหรับที่จะต้องระมัดระวัง คือข้อหาการขายแพงกว่าราคาควบคุมที่ 2.50 บาท ซึ่งเป็นข้อหาตามมาตรา 25 ของกฎหมายฉบับเดียวกัน โทษจำคุกไม่เกิน 7 ปีปรับไม่เกิน 140,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นหากมีการขายเกินราคาควบคุมจะโดนทั้ง 2 กระทงดังนั้น ขอให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
“กระทรวงพาณิชย์โดยหน่วยปฏิบัติการไม่ได้ไปวิ่งไล่จับเฉพาะ
ร้านค้ารายย่อยหรือ คนที่ขายตามตลาดนัดทั่วไป การบังคับใช้กฎหมายจะเป็นการบังคับใช้อย่างเท่าเทียมกัน เมื่อสองวันที่ผ่านมามีการจับกุมดำเนินคดีกับซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่แห่งหนึ่งบริเวณถนนแจ้งวัฒนะ ขอยืนยันอีกครั้งว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่มีการเลือกปฏิบัติในการบังคับใช้กฎหมายโดยเด็ดขาด”
ส่วนการดำเนินการกับ
ผู้ค้าออนไลน์ที่ทำผิดกฎหมายนั้น ทางกระทรวงฯได้ดำเนินการจับกลุ่มไปแล้วทั้งหมด 13 ราย มีทั้งในกรุงเทพมหานคร 12 รายและต่างจังหวัด 1 รายการ แม้การจับกลุ่มแบบการค้าออนไลน์จะมีความยุ่งยากและซับซ้อนแต่กระทรวงพาณิชย์จะเล่นจับกลุ่มอย่างสุดความสามารถ
สินค้าออนไลน์ ราคาถูกที่สุด