ยังคงต้องติดตามบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในสัปดาห์นี้ (9 - 13 มีนาคม 2563) อย่างไม่กระพริบตา เนื่องจากตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาการซื้อ-ขาย มีความผันผวนอย่างมาก โดยเฉพาะปัจจัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่มีทีท่าจะจบลงง่ายๆ ส่งผลให้บางวัน
นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากกระแสข่าวมีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำให้ตลาดฯปิดลบ ขณะที่วันรุ่งขึ้นมีกระแสข่าวมีการคิดค้นยาต้านไวรัส หรือมีเงินมาช่วยเหลือประเทศที่มีไวรัสระบาด นักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อเพื่อทำกำไร ตลาดฯกลับดึงขึ้นมาปิดบวกมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยอื่นก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการตัดสินใจของนักลงทุน เช่น การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค.นี้ และการที่บรรดานักลงทุนได้ปรับตัวรับโอกาสที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.10% ในการประชุมสัปดาห์หน้า เป็นต้น
ด้านปัจจัยบ้านเรา "ณัฐพล คำถาเครือ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า แม้จะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาตามคาด แต่ดูรายละเอียดแล้วไม่มีอะไร Surprise ทำให้ตลาดฯขาดแรงหนุน โดยเฉพาะเรื่อง
กองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) ยังเป็นเกณฑ์ที่มีอายุตามกรอบเดิม 10 ปี แม้จะมีการแบ่งวงเงินลงทุนใหม่ เพิ่มเติมสำหรับการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียน เป็นให้ลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนได้มากกว่า 65% เฉพาะกองที่เปิดขายภายในเดือน มิ.ย. 63 ซึ่งมองช่วยแค่ระยะสั้นเท่านั้น และคงจะคาดหวังยากที่จะให้มีเม็ดเงินเข้ามาในตลาดฯ
ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า ตลาดฯยังมีความเสี่ยงที่จะแผ่วลงหลังจากที่ยังไม่มีปัจจัยบวก และดัชนีฯก็ยังไม่ผ่านระดับ 1,400 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,350 ส่วแนวต้าน 1,380 จุด
ข่าวการลงทุนล่าสุดวันนี้