นายธาดา เศวตศิลา ผู้จัดการ บริษัท อีเอ็มซี อินฟอเมชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในปี 2551 บริษัทฯ มีลูกค้าใหม่จำนวน 50 ราย ที่วางใจให้อีเอ็มซีจัดการและดูแลระบบข้อมูลสำคัญทางธุรกิจ โดยเรื่องการลดต้นทุน การคืนทุน การลดความเสี่ยงและเตรียมการสำหรับข้อมูลยุคใหม่ ยังคงเป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก บริษัทฯ จึงตัดสินใจลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของ การจัดการและจัดเก็บข้อมูล ระบบรักษาความปลอดภัย ทิศทางการเติบโตด้านการลงทุนโซลูชัน
ผู้จัดการ บ.อีเอ็มซี อินฟอเมชั่นฯ กล่าวต่อว่า สภาพเศรษฐกิจขณะนี้ ส่งผลให้บริษัทขนาดใหญ่และกลุ่มธุรกิจพาณิชย์ สนใจลงทุนด้านโซลูชันและการบริการมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารธุรกิจ ดังนั้นบริษัทฯ จึงเตรียมกลยุทธ์ 4 ประการ ได้แก่ การจำแนกตลาด การจัดลำดับความสำคัญทางเทคโนโลยี พันธมิตรและความร่วมมือ และศูนย์ให้ข้อมูลผู้บริหาร เพื่อรองรับการปรับปรุงขององค์กรธุรกิจต่างๆ เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว
นายธาดา กล่าวอีกว่า กลยุทธ์ดังกล่าวเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่นวัตกรรม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของอีเอ็มซี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังลงทุนมากกว่า 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น เพื่อสนับสนุนลูกค้าและสร้างศักยภาพเชิงรุกให้ภูมิภาคภายในปี 2555 รวมถึงขยายบทบาทความเป็นผู้นำด้านตลาดโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศระดับโลก ที่บริษัทฯ คาดการณ์ว่า อาจมียอดรวมมากกว่า 73 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2553
ผู้จัดการ บ.อีเอ็มซี อินฟอเมชั่นฯ กล่าวด้วยว่า รายงานของไอดีซีระบุว่า บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดในประเทศไทย ประมาณ 11.4% ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2551 จากมูลค่ารวม 34 ล้านเหรียญสหรัฐ ของระบบจัดเก็บแบบภายนอกขนาดกลางในไทย ขณะที่ อีเอ็มซี คอร์ปอเรชั่น มีผลประกอบการรวมทั่วโลก 14.88 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 12% ต่อปี โดยถือเป็นอัตราการเติบโตแบบเลขสองหลัก หรือดับเบิลดิจิปีที่ 6 ของอีเอ็มซีอีกด้วย
ที่มา: thairath.co.th
