กลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทวีความเข้มข้นมากขึ้นทุกที เมื่อเหล่านักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมใจเคลื่อนไหวไม่เพียงในโลกออนไลน์ หากแต่ออกมานัดหมายชุมนุมแสดงพลัง หลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ในคดีกู้เงิน 191 ล้านบาท สิ้นเสียงคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ในช่วงบ่ายของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เย็นวันเดียวกัน เริ่มมีป้ายผ้าผุดขึ้นที่ ม.ธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
มีข้อความ “ประเทศนี้ไม่มีความยุติธรรม” กระทั่งรุ่งขึ้น แฟลชม็อบโดย “สหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย” ถูกจัดขึ้น ณ ลานปรีดีที่ผู้คนเบียดเสียด
นักศึกษาชุมนุมประท้วงเนืองแน่น รับฟังการอ่านบทกวี สะท้อนความรู้สึก “หมดจิตหมดใจจะใฝ่ฝัน” แสดงออกถึงความท้อแท้แต่ยังมุ่งมั่นต่อสู้
จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพฯ ถือไมค์กล่าวท่ามกลางฝูงชนว่า นี่คือความในใจของนักศึกษา เยาวชนทุกคนที่โดนกดขี่โดยใครก็ไม่รู้ในประเทศแห่งนี้
“เราเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผ่านไปจะไม่ใช่เหตุการณ์สุดท้าย เหตุการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นอีกถ้าเราไม่ลุกขึ้นมา มันถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะลุกขึ้นมาร่วมกันต่อสู้ ขอให้ทุกคนร่วมส่งเสียงอีกครั้ง เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ”
ตามมาด้วยเสียงตะโกนกึกก้อง ชูสามนิ้วโดยมีฉากหลังเป็นตึกโดม แล้วร่วมกันจุดเทียน
นับเป็นการ “เปิดฉาก” ก่อนมีคลื่นใหญ่ทยอยมาอีกหลายระลอก ทั้งนัดแต่งดำ ขึ้นป้ายผ้า และออกแถลงการณ์มากมายในนามนิสิตนักศึกษาเพื่อแสดงความเสียใจต่อพรรคอนาคตใหม่ เรียกร้องประชาธิปไตย และตั้งคำถามต่อความยุติธรรมในสังคม อาทิ นักศึกษา ม.นเรศวร นัดสวมชุดดำ พร้อมแถลงในนาม “กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อเยาวชนภาคเหนือตอนล่าง”, สโมสรนักศึกษา ม.เชียงใหม่ ออกแถลงการณ์เคียงข้างประชาชนผู้ยึดมั่นในวิถีทางประชาธิปไตย
คัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่