Author Topic: วัคซีนคอตีบ คืออะไร จำเป็นต้องฉีดไหม ใครควรฉีดบ้าง ราคาเท่าไร?  (Read 352 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline guupost

  • Platinum Member
  • ****
  • Posts: 5545
  • Karma: +0/-0



โรคคอตีบ นับว่าเป็นหนึ่งในโรคติดต่อร้ายแรงที่กรมควบคุมโรคกำลังเฝ้าระวัง เหตุเพราะหากเกิดการติดเชื้อแล้ว อาจทำให้ผู้ป่วยเป็นอัมพาตหรือเสียชีวิตได้ ด้วยความรุนแรงนี้ จึงได้มีการกำหนดให้วัคซีนคอตีบเป็นวัคซีนพื้นฐานที่เด็กทุกคนต้องได้รับ แม้ว่าจะมีการป้องกันอย่างเข้มงวด แต่จากการเฝ้าระวังของกรมควบคุมโรคกลับพบว่า สถานการณ์โรคคอตีบในไทยก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะพบผู้ป่วยมากขึ้นด้วย โดยในปี พ.ศ. 2562 พบผู้ป่วยแล้ว 15 ราย เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งอัตราการป่วยนี้สูงขึ้นประมาณ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี พ.ศ. 2561 ทั้งนี้การป้องกันโรคคอตีบที่มีประสิทธิภาพ คือการฉีดวัคซีนคอตีบ ซึ่งจะช่วยบรรเทาและป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคคอตีบได้

โรคคอตีบคืออะไร?
โรคคอตีบ (Diphtheria) เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย (Corynebacterium diphtheriae) ซึ่งเป็นการติดเชื้อรุนแรงและเฉียบพลันของระบบทางเดินหายใจ โรคนี้สามารถติดต่อกันโดยง่ายจากการไอ จาม พูดคุยในระยะประชิด การสัมผัส หรือการใช้ภาชนะร่วมกัน อย่างเช่น จาน ชาม ช้อน เป็นต้น โดยเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางปากหรือทางการหายใจ โดยมากจะพบการติดเชื้อในกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงถึงอายุ 19 ปี โดยมักพบการติดเชื้อในสถานที่ที่มีคนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก อย่างเช่น ศูนย์เด็กเล็ก โรงเรียนประจำ ชุมชนแออัด หรือพื้นที่ห่างไกลที่ยังเข้าไม่ถึงวัคซีนคอตีบ

อาการของโรคคอตีบ
อาการของโรคจะแสดงหลังจากการติดเชื้อประมาณ 2-5 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง เจ็บคอ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย คออักเสบ กลืนอาหารลำบาก หอบ หายใจลำบาก หากไม่สังเกตอาจคิดว่าเป็นอาการป่วยทั่วไป แต่อาการสำคัญที่ชี้ชัดว่าป่วยด้วยโรคคอตีบคือ จะพบแผ่นฝ้าสีขาวปนเทา (White-grayish membrane) เกาะติดแน่นบริเวณลำคอ ต่อมทอนซิล หรือลิ้นไก่ ซึ่งแผ่นเยื่อนี้เกิดจากการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย ที่สร้างสารพิษออกมาทำลายเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบให้ตายลงและซ้อนทับกันจนเป็นแผ่นฝ้า หากมีการติดเชื้อรุนแรง อาจทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออกและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้

อาการแทรกซ้อนของโรคคอตีบ
อาการแทรกซ้อนสำคัญของโรคคอตีบได้แก่
- ปอดติดเชื้อ
- ระบบหายใจล้มเหลว
- เส้นประสาทอักเสบหรือเกิดความเสียหายขั้นรุนแรงของระบบประสาททำให้เป็นอัมพาตได้
- กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เสี่ยงต่อภาวะหัวใจวาย

การรักษาโรคคอตีบ
หากพบว่าคนไข้มีอาการโรคคอตีบ ผู้รักษาจะต้องรีบรักษาทันที เนื่องด้วยอาการอาจรุนแรงจนเป็นอันตรายต่อชีวิต การรักษาโรคคอตีบในปัจจุบันมี 2 วิธีคือ การฉีดยาต้านพิษ เพื่อหยุดพิษที่แบคทีเรียสร้างขึ้น และการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่นว่า เพนิซิลิน เพื่อกำจัดเชื้อในร่างกาย โดยคนไข้โรคคอตีบจะต้องถูกแยกจากผู้เจ็บป่วยอื่นๆ เพื่อป้องกันเชื้อแพร่กระจาย และหลังการรักษาหมอจะต้องตรวจร่างกายโดยละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่า คนป่วยไม่มีเชื้อแบคทีเรียคอตีบแล้ว จึงจะสามารถให้ผู้ป่วยอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

อ่านบทความหัวข้อ ฉีดวัคซีนคอตีบ ต่อได้ที่
เว็บไซต์ : https://www.honestdocs.co/diphtheria-vaccine


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)