"ซัมซุง" จัดระเบียบช่องทางจำหน่ายแบ่งเขต "1 พื้นที่ - 1 ฮับมาสเตอร์" แก้ปัญหาการทับซ้อน พร้อมติดแถบสีข้างกล่องห้ามขายสินค้าข้ามเขต แก้ปัญหาการตัดราคา หวังวัดผลการขายในแต่ละพื้นที่ ขณะที่การทำตลาดมุ่งเจาะแต่ละเซ็กเมนต์ ดันสมาร์ทโฟนบุกตลาด หวังส่วนแบ่งตลาดปีนี้ 35%
นายมนาเทศ อันนวัฒน์ หัวหน้ากลุ่มสื่อสารการตลาดและธุรกิจองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ซัมซุงได้ปรับระบบการบริหารช่องทางการจำหน่ายใหม่ เพื่อให้สินค้ากระจายสู่ คอนซูเมอร์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อำเภออื่นๆ นอกจากอำเภอเมือง และเป็นการปรับโครงสร้างตัวแทนจำหน่ายไม่ให้มีพื้นที่ขายทับซ้อนกัน
โดยบริษัทยังคงโมเดลการขายตรงเช่นเดิม โดยจะมีการจัดโครงสร้างฮับมาสเตอร์เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายดูแลแต่ละพื้นที่ เช่น 1 จังหวัด 1 ฮับมาสเตอร์ เป็นต้น ทั้งนี้ขี้น อยู่กับขนาดของตลาดแต่ละพื้นที่ด้วย โดยฮับมาสเตอร์เป็นผู้ทำหน้าที่กระจายสินค้าไปยังร้านค้ามือถือในเครือข่าย พร้อมกับการขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ความดูแลด้วย
"การแบ่งเขตพื้นที่ฮับมาสเตอร์ให้ดูแลอย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการทับซ้อนกัน และเน้นสนับสนุนหน้าร้านมากขึ้น ขณะเดียวกันยังเป็นการแก้จุดอ่อนของซัมซุง โดยเฉพาะเรื่องประสบการณ์ขายหน้าร้าน มีสินค้าให้ทดลองจริง เพื่อให้คอนซูเมอร์สามารถซื้อสินค้าได้มากขึ้น พร้อมกันนี้จะมีการเพิ่มจำนวนฮับมาสเตอร์มากขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ไม่ถึง 50 ราย"
นอกจากนี้ยังมีรีเทลพารทเนอรอีกประมาณ 200 ราย รวมถึงโมเดิร์นเทรดและร้านเชนสโตร์มือถือ เช่น เจมาร์ท ทีจีโฟน ที่ยังใช้โมเดลขายตรงกับซัมซุงเหมือนเดิม โดยกระบวนการปรับปรุงโครงสร้างใหม่เริ่มตั้งแต่มีนาคมศกนี้ โดยบริษัทจะเน้นส่งเสริมการกระตุ้นการขายตามหน้าร้านเพื่อให้สินค้าถึงมือผู้บริโภคมากขึ้น และ การจัดวางสินค้าและราคาที่มีมาตรฐาน
พร้อมกันนี้จะมีการติดสติ๊กเกอร์แถบสี ระบุแหล่งจำหน่ายข้างกล่องสินค้าเพื่อให้สามารถติดตามผลการขาย ป้องกันการขายข้ามเขต เป็นการปกป้องร้านค้ารายย่อย และสร้างเสถียรภาพให้ตลาด
"การทำแถบสีจะช่วยให้คอนซูเมอร์ได้สินค้าที่มีราคาและคุณภาพ ลดปัญหาการตัดราคา ผู้ขายก็ได้ประโยชน์มากขึ้น รวมทั้งช่วยติดตามผลการขาย หรือทำโปรโมชั่นเฉพาะพื้นที่ได้" นายมนาเทศกล่าวและว่า
ตัวแทนแต่ละประเภทจะมีการวัดผลที่แตกต่างกัน ทั้งด้านยอดขาย การบริการ การจัดการหน้าร้าน และจะมีโปรแกรมอินเซ็นทีฟตอบสนองและสอดคล้องกับตัวแทนแต่ละประเภท โดยปัจจุบันสัดส่วนยอดขายมือถือของซัมซุงมาจาก กทม.และภาคกลาง 50% และภาคอื่นๆ เฉลี่ยภาคละ 7-12% โดยปัจจุบันซัมซุงมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 21% มีรายได้ 5.3 พันล้านบาท ตั้งเป้าปีนี้มีส่วนแบ่งตลาด 35% หรือ ยอดขายประมาณ 2 ล้านเครื่อง
นายมนาเทศกล่าวอีกว่า ปีนี้ตลาดรวมมือถือน่าจะทรงตัวประมาณ 9 ล้านเครื่อง หรือบวกลบไม่เกิน 5% ขณะที่มูลค่าตลาดลดลงประมาณ 15% ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท เพราะตลาดเครื่องราคาถูกโตอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมือถือราคาต่ำกว่า 4 พันบาท มีส่วนแบ่ง 77% แต่คาดว่าแนวโน้มราคาเฉลี่ยปีนี้จะสูงขึ้นจาก 3,100 บาท เพราะสินค้าทัชโฟนเข้าสู่ตลาด ทำให้มูลค่าเฉลี่ยสินค้าสูงขึ้น
ด้านนายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา หัวหน้าฝ่ายการตลาดและผลิตภัณฑ์ กลุ่มธุรกิจมือถือ กล่าวว่า ปีนี้ซัมซุงจะเน้นการทำตลาดลงลึกในแต่ละเซ็กเมนต์มากขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะมือถือที่เน้นไลฟ์สไตล์ เพราะตรงกับคอนเซ็ปต์มือถือของซัมซุงที่เน้นสินค้าดีไซน์ และตลาดกลุ่มสมาร์ทโฟนที่จะรุกตลาดมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่กำลังเติบโต โดยปีนี้จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ประมาณ 10 รุ่น จากปีที่แล้วมี 1-2 รุ่น
ที่มา: matichon.co.th