เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ (Video Conference) ร่วมกันของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตรัง กับนายอำเภอ หรือผู้แทนนายอำเภอ จากทั้ง 10 อำเภอของจังหวัดตรัง เพื่อรับทราบและสรุปสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด พร้อมกำชับแผนและมาตรการเฝ้าระวังป้องกันของจังหวัดตรัง โดยให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และเฝ้าระวังป้องกันรายวันของแต่ละอำเภอ
โดยล่าสุดจังหวัดตรัง มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคไปแล้วทั้งหมด 36 ราย ไม่พบเชื้อ 35 ราย แต่ยืนยันผลติดเชื้อแล้ว 1 ราย เป็นหญิงอายุประมาณ 24 ปี ซึ่งเดินทางกลับจากทำงานในสถานบันเทิงในจังหวัดภูเก็ต คาดว่าคงติดเชื้อจากชาวต่างชาติที่เข้าไปเที่ยวในสถานบันเทิงดังกล่าว ล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังเร่งลงพื้นที่สอบสวนโรค และติดตามคนใกล้ชิดเพื่อมาดำเนินการกักตัว
ขณะเดียวกันมีตัวเลขบุคคลที่ยังต้องเฝ้าระวังจนครบ 14 วัน อีกจำนวน 24 คน เป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักในจังหวัดตรัง 4 คน เป็นบุคคลที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 13 คน และเป็นบุคคลที่เดินทางกลับจากประเทศมาเลเซียหลังปิดประเทศ 7 คน
ในที่ประชุมได้วิเคราะห์และตระหนักร่วมกันว่า
การระบาดของไวรัสโควิดขณะนี้ ในส่วนของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั้น ทางรัฐบาลมีมาตรการที่เข้มข้นจนเข้าเมืองได้ยากมากขึ้น เพราะต้องมีใบรับรองแพทย์ไม่เกิน 3 วัน และต้องมีเงินค้ำประกัน แต่ในส่วนของการแพร่ระบาดติดเชื้อภายในประเทศ กำลังมีการขยายตัวแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะในส่วนของภาคใต้ รวมทั้งจังหวัดตรัง จะต้องเฝ้าระวังผลจากที่ประเทศมาเลเซียประกาศปิดประเทศ ทำให้คนไทยที่ไปทำงานมาเลเซียเดินทางกลับเข้าประเทศมากขึ้น ซึ่งจะต้องติดตามควบคุมกำกับให้กักตัวเองอยู่กับบ้านให้ครบ 14 วันทุกราย
นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง จึงสั่งการผ่านทุกอำเภอ ให้ทุกพื้นที่ ตำบล หมู่บ้าน ร่วมกันตรวจเช็คบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่อย่างละเอียดทุกราย หากพบเป็นบุคคลเสี่ยงจะต้องรายงานอำเภอ รวมทั้งทำการกักตัวที่บ้านให้ครบ 14 วัน ทุกราย และหากพบความผิดปกติ หรือร่างกายมีไข้ ต้องรายงานอำเภอจะส่งรถพยาบาลไปรับถึงที่ นอกจากนั้น จังหวัดตรังอยู่ในระหว่างการสั่งซื้อเครื่องเทอร์โมสแกน ซึ่งเป็นเครื่องมือตรวจร่างกายคุณภาพสูง จำนวน 1 เครื่อง เพื่อนำมาใช้ในพื้นที่ด้วย