เทรนด์ ไมโคร เผยเศรษฐกิจตกทำยอดซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสหด 20% ขณะที่ภัยคุกคามออนไลน์ยัง โตต่อเนื่อง พบไวรัสใหม่ชั่วโมงละ 800 ตัวอย่าง
นายรัฐสิริ ไข่แก้ว ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำส่งผลให้ปีที่ผ่านมาองค์กรธุรกิจชะลอการใช้จ่ายด้านไอทีเพื่อรอดูสถานการณ์ โดยยืดระยะเวลาการใช้งานอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นานขึ้น ขณะที่ปริมาณการซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสในองค์กรลดลงถึง 20% ทำให้เห็นว่ามีการใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดลิขสิทธิ์มากขึ้น
นายรัฐสิริ กล่าวต่อว่า จากปัจจัยข้างต้น เทรนด์ ไมโคร ปรับการทำตลาดใหม่โดยพัฒนาซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่สามารถทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 3 ปีที่ผ่านมาได้ พร้อมจัดแพ็กเกจซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสโดยอิงข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ความต้องการใช้งานของลูกค้า ซึ่งจะรวมโซลูชั่นที่จำเป็นกับลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อให้คุ้มค่ากับราคา โดยปีที่ผ่านมาเทรนด์ ไมโครมีรายได้รวมทั่วโลก 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 9% ซึ่งปีนี้เทรนด์ ไมโคร มีแผนพัฒนาโซลูชั่นป้องกันไวรัสบนโทรศัพท์มือถือ ไอโฟนด้วย เพราะตามคาดการณ์ภัยคุกคามข้อมูลที่เกิดขึ้นในปีนี้ พบว่า อุปกรณ์เคลื่อนที่ตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์มากขึ้น
สำหรับรายงานสรุปภัยคุกคามระบบคอมพิวเตอร์ประจำปี 2551 ของเทรนด์ ไมโคร ระบุว่า ภัยคุกคามข้อมูลที่มีชื่อเสียงที่สุด ได้แก่ บ็อตเน็ต เพราะตั้งแต่เดือน ม.ค.-พ.ย. 51 มีคอมพิวเตอร์พีซี 34.3 ล้านเครื่องติดมัลแวร์ในตระกูลบ็อต ส่วนสแปมหรือข้อความขยะ มีการส่งออกมากถึงวันละ 1.15 แสนล้านฉบับ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่พบเพียง 7.5 หมื่นล้านฉบับต่อวันในปี 2548-2549 นอกจากนี้พบว่ามีการพัฒนา ภัยคุกคามรูปแบบผสม ซึ่งเป็นการรวมตัวกัน ระหว่างฟิชชิงและมัลแวร์สำหรับใช้ขโมยข้อมูล ขณะที่การนำเหตุการณ์ที่น่าสนใจมาใช้เป็นหัวเรื่องในการส่งอีเมล หรือไฟล์ที่แนบยังมีให้เห็นอยู่มาก และปี 2551 เทรนด์ ไมโคร พบว่า มีไวรัสเกิดใหม่ชั่วโมงละ 800 ตัวอย่าง คาดตลอดทั้งปีนี้จะพบไวรัสเกิดใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัวอย่าง.
ที่มา: dailynews.co.th
