แองเกลอร์บริษัททุนอก รุกตั้งออฟฟิศกลางกรุงเทพฯที่แรก มั่นใจองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ของไทยพร้อมให้โอกาส เตรียมลุยขายโซลูชันระบบความปลอดภัยก่อนอันดับแรก เชื่อเป็นตลาดที่คึกคักเพราะได้พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 หนุน ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 150 ล้านบาท
นายจอนห์ ฮัมฟรี กรรมการ บริษัท แองเกลอร์ เทคโนโลยี จำกัด เปิดเผยว่า แองเกลอร์ เป็นบริษัท ที่ให้บริการซิสเต็ม อินติเกรเตอร์ หรือเอสไอรายใหม่ โดยได้เลือกตั้งสำนักงานที่แรกในประเทศไทย เนื่องจากได้ศึกษาและวิจัยตลาดพบว่า บริษัทขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่มีความพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้บริษัทใหม่และโซลูชันใหม่ๆ จึงเชื่อว่าในประเทศไทยจะมีพื้นที่ในตลาดใหม่ให้กับแองเกลอร์
นอกจากนี้ ตลาดด้านการรักษาความปลอดภัยในประเทศไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้มีการประกาศใช้พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ส่งผลให้องค์กร และบริษัทต่าง ต้องดำเนินการลงทุนจัดหาอุปกรณ์เพื่อรองรับ โดยรัฐบาลจะบังคับใช้พ.ร.บ. ดังกล่าวใน เฟส 2 กลางเดือนนี้ ซึ่งองค์กร และบริษัทจะต้องลงทุนเพื่อปรับปรุงระบบเดิมให้เพียงพอที่จะรองรับ
อย่างไรก็ดี ในช่วงทำการตลาดเริ่มต้นจะเน้นให้บริการโซลูชันระบบความปลอดภัย พร้อมการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อนำเสนอแก่องค์จากประสบการณ์ในซิลิคอน วัลเลย์ รวมไปถึงระบบเครือข่ายไม่ว่าจะเป็น Wireless , Security , compliance,data,centers และ Unified communication โดยทีมงานในบริษัทล้วนเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจไอที และมีหุ้นส่วนในบริษัทไอทีหลายแห่ง
ทั้งนี้ ยอมรับว่าในตลาดเอสไอมีผู้จำหน่ายโซลูชันจำนวนมาก แต่เชื่อว่าบริษัทจะสามารถเสนอโซลูชันที่ตามความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่า โดยจะเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้งานโซลูชันอย่างเฉพาะเจาะจง อย่างเช่นบริษัท โทรคมนาคม เป็นต้น โดยในปีแรก บริษัทตั้งเป้าทำรายได้ 150 ล้านบาท
นายจอห์นกล่าวว่า การเลือกเปิดบริษัท ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัวทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยนั้นเป็นเพราะมองเห็นโอกาสที่จะสามารถเติบโตในไทยได้ และมองว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและการลงทุนของบริษัทเป็นการมองการลงทุนระยะยาว โดยบริษัทมีแผนเพิ่มพนักงานอีก ราว 15 คน ในทุกภาคส่วน
“ในสถานการณ์ปัจจุบันทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหลายๆ บริษัทต้องการลดต้นทุน แต่ แองเกลอร์ กำลังว่าจ้างพนักงานเฉพาะด้านเพื่อให้บริษัทมีทักษะหลากหลาย และปัจจุบันบริษัทยังมีผู้ร่วมก่อตั้งที่มาจากซิลิคอนวันเลย์”
ที่มา:
http://www.manager.co.th