คอลัมน์ Click World
ศึกตลาดมือถือสมาร์ทโฟน กำลังรุนแรงต่อเนื่อง หลังจากค่ายรีเสิร์ชอินโมชั่น หรือ RIM ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน "แบล็คเบอร์รี่" ประกาศรุกตลาดคอนซูเมอร์อย่างชัดเจนช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา โดยส่งสินค้าราคาย่อมเยาเอาใจสาวกบีบีทั่วโลก จากเดิมที่ครองตัวอยู่ในตลาดคอร์ปอเรตมาอย่างยาวนาน
ขณะเดียวกัน ฝั่งคู่แข่งสำคัญ "ไอโฟน" หลังจากประสบความสำเร็จในตลาดคอนซูเมอร์ พร้อมกับส่งไอโฟน 4 เวอร์ชั่นล่าสุดเขย่าตลาดเมื่อ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมาพร้อมกัน 5 ประเทศ คือ สหรัฐ ฝรั่งเศส เยอรมนี อังกฤษ และญี่ปุ่น กระแสก็ยังแรงไม่ตกมีสาวกมาเข้าคิวรอเช่นเดิม
นอกจากนี้ "แอปเปิล" ก็ค่อย ๆ รุกคืบส่ง "ไอโฟน" เจาะฐานลูกค้า "บีบี" เพื่อชิงเค้กส่วนแบ่งตลาดคอร์ปอเรต มาอย่างเงียบ ๆ
เดอะ วอลล์สตรีต เจอร์นัลรายงานว่า การแข่งขันของสมาร์ทโฟนในตลาดคอร์ปอเรตค่อย ๆ ร้อนระอุมากขึ้น เมื่อผู้เล่นระดับบิ๊กอย่างไอโฟนกำลังคืบคลานเขย่าบัลลังก์ "แบล็คเบอร์รี่" ผู้ครองตลาดองค์กรมาอย่างยาวนาน
เช่นกรณีบริษัท Bausch&Lomb ผู้จำหน่ายสินค้าดูแลสุขภาพดวงตาซื้อไอโฟนให้พนักงานของตนใช้งานกว่า 1,200 ราย และบางส่วนก็นำมาใช้แทนแบล็คเบอร์รี่เครื่องเดิมตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พร้อมกับผลักดันให้ไอโฟนเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับฝ่ายขาย โดยทางบริษัท ให้เหตุผลว่า เพราะความสามารถของ ไอโฟนในการเข้าถึงข้อมูลประเภทตารางและซอฟต์แวร์บริหารจัดการช่องทาง การติดต่อสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ แม้ว่าระบบจะถูกล็อกกับเครือข่ายของเอทีแอนด์ทีในสหรัฐแต่เพียงผู้เดียว
ที่ผ่านมาแบล็คเบอร์รี่ถือเป็นสมาร์ทโฟนที่มีมาตรฐานสำหรับตลาดคอร์ปอเรต เพราะสินค้าของค่าย RIM ถูกผลิตออกมาช่วยให้แผนกไอทีขององค์กรต่าง ๆ นั้นมีความง่ายในการบริหารจัดการและฟีเจอร์ด้านระบบความปลอดภัย ส่งผลให้ ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีขององค์กรต่าง ๆ ละเลยไอโฟนและมองว่าไอโฟนเป็นเหมือนของเล่น จนถูกห้ามไม่ให้ใช้งานภายในองค์กร
บริษัทวิจัยฟอเรสเตอร์ รีเสิร์ชรายงานว่า แบล็คเบอร์รี่ยังคงครองความนิยมในตลาดองค์กร โดยพบว่ากว่า 70% ขององค์กรมีการพัฒนาระบบไอที เพื่อรองรับกับการใช้งานแบล็คเบอร์รี่ ขณะที่มีองค์กรประมาณ 29% ที่มีการพัฒนาระบบไอทีเพื่อรองรับกับ "ไอโฟน" ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 17% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่ในปี 2007 ซึ่งเป็นปีแรกของการ เปิดตัวไอโฟนออกสู่ตลาด ไอโฟนไม่มี ส่วนแบ่งในตลาดองค์กรเลย
หนึ่งในตัวเร่งให้ไอโฟนได้รับความนิยมในตลาดคอร์ปอเรต คือ พนักงานขององค์กรต่าง ๆ เองที่ต้องการไอโฟนพร้อมกับแสดงความจำนงออกมา แม้ว่าตัว พนักงานเองจำเป็นจะต้องควักกระเป๋า ส่วนตัวเพื่อซื้อสินค้าดังกล่าว
อาทิ บริษัท "Microstrategy" ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ธุรกิจอัจฉริยะ (business intelligence) วางแผนให้พนักงานใช้ไอโฟนมากขึ้นเช่นกัน จากปัจจุบันพนักงานบริษัทใช้แบล็คเบอร์รี่จำนวน 1,000 เครื่อง และไอโฟน 400 เครื่อง ซึ่งจำนวนกว่าครึ่งหนึ่งพนักงานเป็นผู้ซื้อสินค้าเอง
นอกจากนี้ บริษัท saleforce.com ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ธุรกิจเพื่อให้ดาวน์โหลดทาง App Store ระบุว่าตัวเลขผู้ใช้งานกว่า 5 แสนรายที่ติดตั้งซอฟต์แวร์บริหารจัดการการสื่อสาร (contact management) ซึ่งพบว่าเจ้าของไอโฟนมีการดาวน์โหลด ใช้ซอฟต์แวร์ดังกล่าวมากกว่าแบล็คเบอร์รี่ในสัดส่วน 3 ต่อ 1
"เรนเดลล์ สตีเฟ่นสัน" ซีอีโอจาก เอทีแอนด์ที โอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการ ไอโฟนกล่าวว่า สัดส่วนกว่า 40% ของ ยอดขายไอโฟนทั้งหมดถูกจำหน่ายเข้าสู่องค์กร หรือพนักงานที่ได้รับส่วนลดพิเศษของบริษัทต่าง ๆ และระบุว่าพนักงานของเอทีแอนด์ทีไม่ได้เชียร์ไอโฟนมากกว่า แบล็คเบอร์รี่หรือสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น ๆ แต่ไอโฟนมีความน่าดึงดูด รวมทั้งได้มีการเตรียมเครื่องมือสำหรับสร้าง แอปพลิเคชั่นบนไอโฟนเพื่อรองรับซอฟต์แวร์ขององค์กรด้วย
"ทิม คุก" ซีโอโอของแอปเปิลกล่าวว่า "แม้ว่าตลาดของแอปเปิลยังคงโฟกัส ที่คอนซูเมอร์เป็นหลัก แต่กระนั้นพนักงานขายของบริษัทกำลังช่วยผู้ให้บริการเพื่อขยายขอบเขตการขายไอโฟนไปยังพื้นที่หลัก ๆ และหลากหลายแห่งด้วย"
ขณะที่แบล็คเบอร์รี่ก็ถูกถามอย่างหนักว่า มีความกังวลหรือไม่ที่ไอโฟนบุกรุก เข้าสู่ตลาดคอร์ปอเรต ?
"ไทเลอร์ เลสสราด" ผู้ช่วยประธาน บริษัท RIM กล่าวว่า "พวกเรามองเห็นผู้ค้ารายอื่น ๆ เข้าสู่ตลาดนี้ แต่บริษัทก็มีการขยายตัวเช่นกัน และ RIM เพิ่งรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าในการขยายตลาดคอนซูเมอร์ของแบล็คเบอร์รี่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วมาก"
ย้อนกลับไปปี 2007 เมื่อไอโฟนเกิดขึ้น ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของตลาดองค์กรนั้นยังมีอยู่ไม่มากนักบนไอโฟน จากนั้น 1 ปีแอปเปิลเริ่มขยับตัวโดยพัฒนาไอโฟนให้เป็นมิตรกับลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะ การเพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อกับโปรแกรมอีเมล์ exchange ของไมโครซอฟท์ หรือความสามารถในการ สั่งลบข้อมูลบนไอโฟนจากนอกสถานที่ เมื่อไอโฟนสูญหายหรือถูกขโมย เป็นต้น
จนถึงปลายปีที่ผ่านมา ไอโฟนอัพเดตความสามารถในการเข้ารหัสข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ในอุปกรณ์ หรือแม้แต่ไอโฟน 4 ได้เพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยจำนวนมากขึ้น
และฟีเจอร์ใหม่ ๆ หลายอย่างนี้เองทำให้บริษัท "Kelly Service" เสนอไอโฟนแก่พนักงานเพื่อให้เป็นตัวเลือกใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากแบล็คเบอร์รี่ ผลปรากฏว่าพนักงานจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งเลือกที่จะใช้ไอโฟนเพราะเหตุผลด้านการติดตั้งและระบบการจัดการขององค์กรที่ไอโฟนใช้เวลาและความพยายามน้อยกว่าแบล็คเบอร์รี่
ที่มา: prachachat.net