พีซีเวิลด์ย้ำจุดยืนหนุนใช้โอเพ่นออฟฟิศ ลดต้นทุนองค์กร และปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ ด้านเนคเทควางแผนพร้อมดันเต็มที่ ขณะที่ กฟผ.เริ่มหันมาใช้มากขึ้นแล้ว...
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. สมาคมสมาพันธ์โอเพ่นซอร์สแห่งประเทศไทย (TOSF) ร่วมกับศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือ เนคเทค และนิตยสาร พีซีเวิล์ด ไทยแลนด์ แถลงจุดยืนร่วมกันในการส่งเสริมการใช้งาน OpenOffice.org ให้ได้อย่างยั่งยืน โดยภาครัฐและองค์กรที่เกี่ยวข้องได้วิจัยพัฒนาแก้ไขข้อบกพร่องอย่างต่อเนื่อง
นายเจษฎา แสนอุดมโชค บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสาร พีซีเวิลด์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า นิตยสารไม่เคยต่อต้านการใช้งานซอฟต์แวร์จากโอเพ่นซอร์ส ในทางตรงกันข้ามกลับชื่นชมการทำงานของโปรแกรมเมอร์ที่ทุ่มเทความสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ทางเลือกให้กับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ ขณะที่ผู้ใช้ก็จำเป็นต้องเรียนรู้คุณสมบัติการทำงานประกอบกันด้วย ส่วนกรณีที่มีผู้เข้าใจผิดในบทความของนิตยสารเกี่ยวกับโอเพ่นซอร์ส และเกิดความเข้าใจผิดนั้น ยืนยันว่าไม่ได้เลือกข้างส่งเสริมซอฟต์แวร์ หรือต่อต้านการใช้งาน แต่มองครอบคลุมทุกอย่าง จากนี้คงเห็นบทความเกี่ยวกับโอเพ่นซอร์สมากขึ้น และยินดีที่มีคนนำจุดนี้ไปใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุน และการละเมิดลิขสิทธิ์
ด้านนายวิรัช ศรเลิศล้ำวาณิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) กล่าวว่า ขณะนี้ เนคเทคอยู่ระหว่างวางแผนดำเนินการเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการใช้งานโอเพ่นซอร์สในองค์กร โดยเบื้องต้น ได้ร่วมมือกับ กฟผ.จัดสรรงบประมาณปี 2553 ที่นับเป็นปีแรก จำนวน 400,000-500,000 บาท ส่วนปีต่อไปที่เป็นแผนระยะยาว วางแผนร่วมมือกับ การเคหะแห่งชาติ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) โดยมีเนคเทคเป็นตัวกลางพัฒนาบุคลากร นอกจากนี้ ยังพยายามพัฒนาให้เกิดการแตกลายในประเทศและติดตามผลต่อเนื่อง แม้ว่าการแพร่หลายจะไม่ดีก็ตาม
ผู้ช่วยผู้อำนวยการ เนคเทค กล่าวต่อว่า การเติบโตของโอเพ่นซอร์สยังอยู่เท่าเดิม ทั้งนี้ อยากเห็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่เป็นต้นฉบับบของคนไทย แต่ตอนนี้ยังน้อยมากเมื่อเที่ยบกับประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม เนคเทคจะพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นมากต่อไป
ขณะที่ นายพิสิษฐ์ อิงคะสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนเทคโนโลยีสารสนเทศ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างการใช้งานโอเพ่นซอร์ส โดยมีสัดส่วนไมโครซอฟท์ออฟฟิศ 30% และโอเพ่นซอร์สออฟิศ 70% แบ่งเป็น 2 ด้าน คือ ด้านแอพลิเคชั่น และพีซี ทั้งนี้ ข่าวด้านลบเกี่ยวกับโอเพ่นซอร์สที่ออกมาไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้งานในองค์กรแต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมบุคลากรให้รู้จักการใช้งาน เพื่อประหยัดงบประมาณด้วย และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มีการสนับสนุนใช้ใช้งานโอเพ่นซอร์ส ตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย ( ปี 2552-2556)
“การเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับองค์กรนั้น หน้าที่หลัก คือ ต้องพัฒนาบุคลากรให้รู้จักเลือกใช้ของที่เหมาะสม เพื่อประหยัดงบประมาณ และรู้จักวางแผน คิดถึงประสิทธิภาพการใช้งานและราคา” ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนเทคโนโลยีสารสนเทศ กฟผ. กล่าว.
ที่มา: thairath.co.th