ปัจจุบันสมาร์ทโฟนถือเป็นเครื่องประดับติดตัวชิ้นหนึ่งในยุคศตวรรษที่ 21 และแม้มันจะสามารถช่วยทำงานให้เราได้ต่าง ๆ นานา แต่กลับกลายเป็นว่าอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้
หลายปีที่ผ่านมานี้ มีการศึกษาที่ดำเนินการโดยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยสถาบันพิษวิทยาแห่งชาติ (National Toxicology Program) ได้ค้นพบความเชื่อมโยงระหว่าง สมาร์ทโฟน และ โรคมะเร็ง ซึ่งจากการศึกษามองว่า ช่วงคลื่นความถี่รังสีวิทยุที่ใช้ในเครือข่ายไร้สายของสหรัฐอเมริกา ได้ส่งผลกระทบต่อหนู ซึ่งนอกเหนือจากงานวิจัยดังกล่าว ก่อนหน้านี้ก็มีการอภิปรายเกี่ยวกับผลกระทบในเรื่องนี้มานานหลายปีอยู่แล้วด้วยเช่นกัน
โดยกลุ่มตัวอย่างหนูที่ใช้ทดลอง ได้สัมผัสความเข้มข้นของรังสีคลื่นวิทยุที่แตกต่างกัน หนูเพศผู้บางตัว พบ มีค่าการเกิดเนื้องอก ซึ่งพบในสมองและหัวใจ โดยมีโอกาสสูงมากที่เนื้องอกเหล่านั้นจะพัฒนาเป็นมะเร็งต่อไปหากคุณอยู่ในร้อยละ 92 ของประชากรชาวอมเริกันที่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง สัญชาตญานแรกของคุณควรจะต้องระวังการใช้งานโทรศัพท์ แต่ไม่ถึงขนาดที่จะต้องสวมหมวกเหล็กเพื่อป้องกัน
โดยการศึกษาทำเพื่อพิสูจน์ข้อกังวลใจของนักวิทยาศาสตร์ แต่ในท้ายที่สุดคำถามที่ว่าโทรศัพท์สามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้หรือไม่? ก็ยังคงต้องพิสูจน์ต่อไป
มี 3 เหตุผลหลักที่ว่า โทรศัพท์อาจนำพาไปสู่โรคมะเร็งได้ ตามที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติของสหรัฐอเมริกากล่าวไว้ ประการแรกคือ โทรศัพท์สามารถส่งคลื่นวิทยุออกมาได้ ซึ่งเชื่อว่าเนื้อเยื่อที่อยู่ใกล้กับเสาอากาศสามารถดูดซับพลังงานจากคลื่นเหล่านี้ แล้วมีการเจริญเติบโต
การศึกษาจำนวนมากได้สิ้นสุดลงเอยที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ และผู้เชี่ยวชาญ เช่น องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (International Agency for Research on Cancer) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งขององค์การอนามัยโลก ก็ยังไม่อาจสรุปได้ว่า โทรศัพท์เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งในมนุษย์
และท้ายที่สุด สถาบันพิษวิทยาแห่งชาติ ก็ยังคงศึกษาวิเคราะห์หาสาเหตุกันต่อไป
ปัจจุบัน การเกิดเนื้องอกในสมองยังเป็นกรณีที่หายาก และไม่มีแนวโน้มที่สูงขึ้น จากความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของเนื้องอกกับสมาร์ทโฟน และจำนวนผู้ป่วย ในความเป็นจริง ตามข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ อัตราจำนวนผู้ป่วยโรคมะเร็งสมองใหม่ กลับลดน้อยลงทุก ๆ ปีในระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมาด้วย
ที่มา CNET
ที่มา: pantip.com
