ตลาดรถ SUV ในปี 2016 นี้แข่งกันเดือดแน่ เพราะมีรถ SUV ตัวเด่น ตัวแรง จากบรรดาค่ายรถต่างๆ ตบเท้ามาเป็นตัวเลือกอยู่หลายรุ่น ทั้งที่เปิดตัวไปแล้ว และกำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่น จุดแข็งที่ต่างกันไป
เริ่มต้นจากทางฟากยุโรป ค่ายกังหันสีฟ้าประกาศเปิดตัว BMW X1 2016 แล้วอย่างเป็นทางการ หลังจากที่มีสเปกและรูปตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ หลุดมาให้เห็นกันบ้างแล้วก่อนหน้านี้
BMW X1 ปี 2016 ถือเป็นรถในเจนเนเรชั่นที่ 2 ที่ถูกปรับปรุงรูปโฉมให้ดูสปอร์ตขึ้นในส่วนของกันชนและกระจังหน้า ไฟหน้าแอลอีดีเต็มรูปแบบ และเพิ่มออฟชั่นให้มีความแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
ในส่วนของเครื่องยนต์ ก็ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่เอี่ยม ช่วยลดอัตราสิ้นเปลืองพลังงานและลดการปล่อยไอเสียได้มากกว่า 17% ขึ้นอยู่กับรูปแบบเครื่องยนต์ เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้งดีเซล 3 รุ่น และเบนซินอีก 2 รุ่น ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ 4 สูบทั้งหมด มีทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด หรือเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 สปีด ส่วนระบบขับเคลื่อนมีแบบขับเคลื่อนล้อหน้ามาตรฐาน และออฟชั่นขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive
การันตีการขับแบบสปอร์ตที่นุ่มนวลมาตรฐานสูงตามแบบฉบับบีเอ็มดับเบิ้ลยู แต่ทั้งนี้สนนราคาก็เชื่อว่าจะสูงตามไปด้วยเช่นกัน
SUV จากฝั่งยุโรปตัวต่อมา ถึงจะมาจากค่ายน้องใหม่อย่าง MG แถมยังเป็นรถ SUV ตัวแรก แต่กลับทำการบ้านมาอย่างดี ถ้าจะวัดกันด้วยสมรรถนะและออฟชั่นที่มาพร้อมกับ MG GS คันนี้ ก็ต้องบอกว่าแรงแซงหน้าแบรนด์รุ่นพี่หลายค่ายที่เปิดตัวมาแล้วไปหลายช่วงตัว
เริ่มจากโฉมภายนอกของ
MG GS ได้รับการออกแบบสไตล์สปอร์ตคูเป้ครอสโอเวอร์ โฉบเฉี่ยวตั้งแต่ด้านหน้า ด้วยกระจังหน้าเส้นเล็กระหว่างไฟ 2 ข้าง เส้นตรงรูปตัว V อันเป็นเอกลักษณ์ ดูดุดันด้วยไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ทรงเหลี่ยม เพิ่มความลุยที่ผสมผสานกับความหรูได้อย่างลงตัวสไตล์อังกฤษ แร็คหลังคาติดกล่องเก็บของเพิ่มเติม มาพร้อมล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว
ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ MG GS มีเครื่องยนต์ 2 รุ่นด้วยกัน ทั้งเบนซินเทอร์โบขนาด 1,500 ซีซี แรง 168 แรงม้า และอีกรุ่นที่แรงถึงใจ กับเบนซินเทอร์โบ 2,000 ซีซี ให้กำลังถึง 220 แรงม้า ขับเคลื่อนได้ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียรติอัตโนมัติ 6 สปีด เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด รวมถึงสามารถขับเคลื่อนสี่ล้อได้อีกด้วย
อีกจุดขายของ MG ในด้านเทคโนโลยี คือ ระบบ inkaNet หรือระบบสั่งการรถยนต์ผ่านทาง สมาร์ทโฟน ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเปิดตัวมาแล้ว MG จะจัดเทคโนโลยีอะไร มาให้เล่นอีกบ้าง
นอกจากนี้ MG GS ยังมีมาตรฐานยุโรปที่เป็นนวัตกรรมที่โดดเด่นของ MG ตามแนวคิด Brit Dynamic อันได้แก่สมรรถนะ การควบคุม ดีไซน์ และความปลอดภัย ที่พูดมาตลอดในรถยนต์ทุกรุ่น หากเป็นไปตามข้อมูลที่หลุดมา เท่ากับว่า ถ้า MG GS ในรุ่นเครื่อง 2,000 ซีซี ถ้ามาโลดแล่นในไทย จะถือว่า เป็นรถยนต์ SUV ที่มีแรงม้าแรงที่สุดในไทยเลยทีเดียว
นอกจากฝั่งยุโรปแล้ว ในปี 2016 นี้ ยังมี SUV อีกหลายแบรนด์ที่น่าสนใจ อย่างเช่น
Ford EcoSport จากฝั่งอเมริกา ที่ถูกปรับโฉมใหม่ จนกลายเป็นรถครอสโอเวอร์ขนาดเล็ก ที่ดูคล่องตัว
ที่สำคัญบั้นท้ายของ EcoSport รุ่นอัพเดตล่าสุดนี้ ไม่มีล้ออะไหล่ให้ดูเทอะทะอีกต่อไป รูปทรงรถจึงดูสบายตามากขึ้น ขณะที่ประตูท้ายมีฟังก์ชั่นเปิดแบบแยกส่วนได้ ในห้องโดยสารมีการบุวัสดุกันเสียงเพิ่มเติมที่แผงข้างประตูและแผงแดชบอร์ด ห้องโดยสารจึงเงียบลดเสียงรบกวนจากภายนอก สร้างบรรยากาศการขับให้เหมือนมีโลกส่วนตัว
ค่ายรถอเมริกันยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยการออกแบบวงพวงมาลัยใหม่ พร้อมปุ่มควบคุมที่มีจำนวนลดน้อยลง รวมถึงช่วงล่างที่ปรับจูนใหม่ ลดส่วนสูงของตัวรถลง 10 มม. และระบบภายในที่แข็งแน่นกว่าเดิม
เครื่องยนต์ก็ยังคงเป็นบล็อกเดิม ยกเว้นรุ่นดีเซล 1.5 ลิตร TDCi ที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 94 แรงม้า อัตราบริโภคน้ำมัน 22 กม./ลิตร ปล่อยมลพิษคาร์บอนไดออกไซด์ 115 กรัม/กม.ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 1.0 ลิตร ให้พละกำลัง 125 แรงม้า อัตราบริโภคน้ำมัน 18.5 กม./ลิตร ปล่อยไอเสีย 125 กรัม/กม.
เรียกว่าเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นเล็ก ที่เน้นประหยัดพลังงาน และมีราคาที่เป็นมิตร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับตลาดรถ SUV ที่จะเปิดตัวในบ้านเราภายในปีนี้
ปิดท้ายกันที่ SUV จากฝั่งญี่ปุ่น ที่เปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปี 2016 กับ MAZDA CX-5 ที่เลือกใช้คอนเซ็ปต์ "โคโดะ ดีไซน์" ในการออกแบบ สะท้อนถึงความสปอร์ตแบบจัดเต็ม
ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอกนั้น CX-5 มาพร้อมกับกระจังหน้าลายใหม่ ช่องไฟตัดหมอกทรงใหม่ ติดตั้งไฟ daytime สำหรับวิ่งกลางวัน และระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะช่วยปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกกันอย่างอิสระทั้งซ้าย-ขวาให้เหมาะสมกับระยะห่าง และตำแหน่งของรถคันหน้าโดยอัตโนมัติ
สำหรับเครื่องยนต์มี 2 รุ่นคือ เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0L ให้กำลัง 165 แรงม้า ปรับจูนให้รองรับ E85 ประสานชุดเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive 6 สปีด มีอัตราสิ้นเปลือง 14.5 กม./ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 2.2L กำลังสูงสุดถึง 175 แรงม้า ประสานชุดเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-Drive ให้อัตราสิ้นเปลือง 17.5 กม./ลิตร และยังเพิ่มรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อมาให้เลือกอีกด้วย
เพิ่มเติมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัย i-ACTIVESENSE และเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสาร MZD CONNECT ที่ช่วยให้ขับสนุกยิ่งขึ้น
Mazda CX-5 จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สำหรับใครที่กำลังมองหารถ SUV คู่ใจ
ทั้งหมดที่จัดมาชมเป็นแค่สเปกแบบคร่าวๆ ที่หยิบยกมาเปรียบเทียบเพื่อให้เห็นภาพรวมของตลาดรถ SUV ในปี 2016 ว่าคึกคักขนาดไหน ส่วนจะตัดสินใจจองรุ่นไหน อยากให้อดใจรอก่อน เพราะบางรุ่นก็ยังไมได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่จากสเปกที่หลุดออกมา เชื่อว่าต้องมีสักรุ่นที่ดึงดูดใจ และช่วยให้ตัดสินใจเลือก SUV สเปกเทพที่ครบเครื่องและคุ้มค่าที่สุดได้ไม่ยาก สุดท้ายก็ต้องไปลองขับ ถึงรู้ได้ว่า ใครคือตัวจริง