แคนนอนชี้ไทยหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญเอเชีย ทุ่ม 50 ล้านบาทเปิดคอนเซ็ปต์ สโตร์ทั่วประเทศ ย้ำแนวคิด“แคนนอน โททอล อิมเมจจิ้ง รีโวลูชั่นส์"
นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงต้นปีทำให้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สำหรับแคนนอนมองว่าตลาดในภูมิภาคเอเชียยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะตลาดไทยที่ถือเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์สำคัญในเอเชีย บริษัทคาดหวังว่าเมื่อเหตุการณ์สงบลงแล้ว กลุ่มลูกค้าจะกลับมาใช้จ่ายดังเดิม
เขาระบุว่า เพื่อเป็นการขยายตลาดในเขตภูมิภาค ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของผลิตภัณฑ์แคนนอนในไทย บริษัทได้เปิดศูนย์บริการ “แคนนอน คอนเซ็ปต์ สโตร์” ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจค่อนข้างสูง ทั้งมีความต้องการด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมุ่งหวังให้เป็นแหล่งในการอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกกลุ่มลูกค้า ตอกย้ำแนวคิด “โททอล อิมเมจจิ้ง รีโวลูชั่นส์” ครอบคลุมการทำตลาดทั้งกล้องดิจิทัล กล้องวีดิโอดิจิทัล พรินเตอร์ เลเซอร์พรินเตอร์ โปรเจคเตอร์ ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในภูมิภาค
ทั้งนี้นโยบายของบริษัทมุ่งเสนอให้ผู้บริโภคเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีของแคนนอนมากยิ่งขึ้น ไอเดียเริ่มแรกต้องการสื่อผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยความพร้อมของประเทศไทยที่ความเร็วอินเทอร์เน็ตยังน้อย ทำให้นึกถึงรีเทลสโตร์ขึ้นมาแทน คาดว่าจะสื่อถึงลูกค้าได้มากกว่า
อย่างไรก็ตาม งบประมาณตอกย้ำแบรนด์แคนนอนจะใช้รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท สำหรับสาขาในพื้นที่เขตภาคตะวันออกนี้ตั้งอยู่ที่ห้างเซ็นทรัล พลาซ่า ชลบุรี บริเวณชั้น 2 โซน ไอที โดยเป็นสาขาที่ 2 หลังจากเปิดสาขาแรกที่จังหวัดภูเก็ต และภายในปีนี้ แคนนอนจะเปิด แคนนอน คอนเซ็ปต์ สโตร์ เพิ่มขึ้นอีก 3 สาขาที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และขอนแก่น
"นอกจากเป็นการตอกย้ำแนวคิด แคนนอน โททอล อิมเมจจิ้ง รีโวลูชั่นส์ ซึ่งเป็นการนำเสนอสินค้าเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การถ่ายภาพแบบครบวงจรแล้ว เรายังได้จำลองรูปแบบของแนวคิดดังกล่าวมาไว้ในสโตร์ ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับสินค้า ร่วมทำกิจกรรม ร่วมเวิร์กช็อป และทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของสินค้าประเภทต่างๆ รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้าไปถึงกรุงเทพฯ" นายวาตารุกล่าว
ปัจจุบันแคนนอนยังคงครองอันดับหนึ่งตลาดกล้องดิจิทัล ด้วยส่วนแบ่งรายได้ตั้งแต่ต้นปี กล้องดีเอสแอลอาร์มีส่วนแบ่งประมาณ 67% ขณะที่กล้องคอมแพ็คได้รับส่วนแบ่ง 27% และในปีนี้แคนนอนมีเป้าหมายที่จะดันรายได้รวมโตให้ขึ้น 16% จากปีก่อนที่โต 14%
ที่มา: bangkokbiznews.com