เพลงชาติไทย ข้อมูลเพลงชาติไทย เพลงประจำชาติของปวงชนชาวไทยเพลงชาติไทย ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพลงชาติไทย เพลงที่คนไทยควรร้องด้วยความภาคภูมิใจ อัพเดทความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเพลงชาติอ่านรายละเอียดดังกล่าวได้จากบทความนี้ครับ
เพลงชาติไทยประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
เป็นประชารัฐ ไผทของไทยทุกส่วน
อยู่ดำรงคงไว้ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมาย รักสามัคคี
ไทยนี้รักสงบ แต่ถึงรบไม่ขลาด
เอกราชจะไม่ให้ใครข่มขี่
สละเลือดทุกหยาดเป็นชาติพลี
เถลิงประเทศชาติไทยทวี มีชัย ชโย
คนไทยควรร้องเพลงชาติไทยด้วยความภูมิใจในเอกราชอธิปไตยของไทย ชาวไทยทุกท่านควรร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี อย่างอิ่มอกอิ่มใจ สมกับบรรพบุรุษที่รักษาเอกราชอธิปไตยมาจนถึงทุกวันนี้
ประเทศไทยจะเจริญก้าวหน้าหากทุกคนหันมาสามัคคี ปรองดอง เป็นหนึ่งอันเดียวกัน
การพัฒนาประเทศไทยจะรอใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ ชาวไทยทุกท่านต้องร่วมมือกัน
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ ศูนย์รวมของความเป็นไทย ปวงชนชาวไทยควรปฏิบัติตนให้สมกับเป็นคนไทย
ไม่มีเพลงชาติใดในโลกจะร้องได้ไพเราะเท่ากับเพลงชาติไทย
ชาวไทยควรร้องเพลงชาติไทยทุกวัน เพราะเข้าใจในความเป็นไทย ให้มีความสามัคคีกันเฉกเช่นที่บรรพบุรุษได้ทำมา
คนที่ไม่เคยร้องเพลงชาติไทย หรือร้องเพลงชาติไทยไม่เป็น ไม่ใช่คนไทย
ประเทศไทยเป็นเมืองสงบ น่าอยู่ ดั่งเพลงชาติไทย ที่กล่าวว่าไทยรักสงบ
ประเทศไทยจะก้าวไปข้างหน้า หากคนไทยทุกคนสามัคคีกันเหมือนที่ร้องเพลงชาติไทย
การไม่เห็นประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าส่วนร่วม จะนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
ชาวไทยทุกคนควรร้องเพลงชาติไทยด้วยความสำนึกในความเป็นไทย ที่บรรพบุรุษเสียสละเลือดเนื้อ เพื่อเอกราชของชาติไทย
รักประเทศไทยรู้จักประเทศไทย ประเทศไทยมีทั้งหมด 77 จังหวัด
ประเทศไทยมีพื้นที่ราวๆ 513,115 ตารางกิโลเมตร
ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติของไทย
ดอกไม้ประจำชาติ คือ ดอกราชพฤกษ์
คาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติไทย
การบรรเลงเพลงชาติไทยจากการเรียนรู้ค้นคว้าเกี่ยวกับการบรรเลงเพลงชาติ ความว่า (ตามรายละเอียดด้านล่างนี้)ในข้อบังคับของทหารว่าด้วยการเคารพ มาตรา 3 การบรรเลงเพลงเคารพ ได้ระบุถึงการบรรเลงเพลงเคารพในส่วนของเพลงชาติไว้ดังนี้ เพลงชาติจัดเป็นเพลงเคารพด้วยแตรวง ใช้บรรเลงแสดงความเคารพต่อธงประจำกองทหาร ธงประจำกองยุวชนทหาร ธงชาติประจำสำนักงานของรัฐบาล ในขณะขึ้นลง และธงราชนาวีประจำเรือใหญ่ในขณะทำพิธีธงขึ้นลง
แนวการปฏิบัติสำหรับธงชาติไทยโดยทั่วไป โดยสั่งการใช้อยู่ในยุคนี้ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการใช้ การชัก หรือการแสดงธงชาติ และธงของต่างประเทศ ในราชอาณาจักร พ.ศ. 2529 ได้ระบุกระจ่างแจ้งไว้เช่นกันว่า เพลงชาตินับเนื่องเป็นหนึ่งอาณัติสัญญาณในการเคารพธงชาติ กล่าวคือ
1. เมื่อมีการชักธงชาติขึ้นและลง ให้แสดงความเคารพโดยการยืนตรง หันไปทางเสาธง อาคาร หรือสถานที่ที่มีการชักธงชาติขึ้นและลง จนกว่าจะเสร็จการ
2. ในกรณีที่ได้ยินเพลงชาติหรือสัญญาณการชักธงชาติ จะเห็นหรือไม่เห็นการชักธงชาติก็ตาม ให้แสดงความเคารพโดยหยุดนิ่งในอาการสำรวม จนกว่าการชักธงชาติหรือเสียงเพลงชาติ หรือสัญญาณการชักธงชาติจะสิ้นสุดลง
แนวการปฏิบัติดังกล่าวนี้ ได้ริเริ่มให้มีขึ้นครั้งแรก จากการบรรเลงเพลงชาติ ตามสัญญาณจากสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ในเวลา 08.00 น. โดยบัญชาของจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2485 ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ในยุคปัจจุบัน นอกจากการบรรเลงเพลงชาติ ช่วงเวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ผ่านทางวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์แล้ว ยังมีการแพร่ภาพวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติ ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ในประเทศไทยตามช่องต่างๆ อีกด้วย ซึ่งเดิมแต่ละสถานีจะเป็นผู้จัดทำวีดิทัศน์ประกอบขึ้นเอง ต่อมาในปี พ.ศ. 2554 รัฐบาลไทยมีข้อบังคับให้สำนักรายได้เสริมสร้างไม่เหมือนใครของชาติ ออฟฟิคปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดทำวีดิทัศน์กลางขึ้น เพื่อเผยแพร่โดยโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ไทยทุกแห่ง ในรูปแบบเดียวกันทั่วประเทศ โดยเริ่มใช้วีดิทัศน์ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป แต่ในยุคนี้การจัดเก็บสื่อโทรทัศน์สามารถ Present ได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยทางสถานนี้ของแต่ละช่องสามารถดีไซน์การ Present ไม่ว่าจะเป็นสื่อประกอบเพลงชาติ แต่ยังคงทำนองและคำรองตามแบบฉบับของทางการที่กำหนดไว้
ตามประชาสัมพันธ์คณะการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การจัดทำผังรายการ สำหรับการให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2556 กำหนดให้ผู้ที่รับใบอนุมัติที่ใช้คลื่นความถี่ให้บริการทั่วไปและต้องจัดให้ออกอากาศเพลงชาติไทยทุกวันในเวลา 08.00 น. และ 18.00 น.
วีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทย
วันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2554 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานได้แถลงข่าว เกี่ยวกับโครงการจัดทำวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี โดย Office ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะอนุกรรมการปลูกฝังความรักชาติและจิตสำนึกความเป็นไทย ในคณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ เล็งเห็นว่าภาพประกอบเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่เผยแพร่ตั้งแต่สมัยก่อน
จนถึงสมัยนี้มีความหลากหลายมากจนเกินไปไม่เป็นเอกภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจขึ้นเพื่อจัดทำดีวีดีภาพประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมี ซึ่งมีนายวิรัช อยู่ถาวร นักดนตรีและนักประพันธ์เพลง เป็นประธานโครงการ จัดทำวีดิทัศน์ประกอบเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมีที่เป็นขั้นตอนเดียวกัน โดยสร้างภาพประกอบให้สมควรกับบทความของเพลงชาติไทยและสาระของเนื้อเพลง พล.ต.อ.โกวิท กล่าวว่า โดยทั้ง 2 เพลงนี้ได้ใช้เนื้อร้องและทำนองเดิมทุกประการ และจัดทำปริมาณ 4 แบบ รวมทั้งสิ้น 2,000 ชุด คือ วีซีดีเพลงชาติไทย 2 รูปแบบ แบบที่ 1 ชื่อชุด ทุกเชื้อชาติร่วมใจยืนตรงเคารพธงชาติ เป็นการเสนอแนวความนึกคิด ไม่ว่าจะเป็นคนภาคใดก็ตาม หรือนับถือศาสนาใด ทุกคนพร้อมร่วมใจเคารพธงชาติร่วมกันด้วยความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แบบที่ 2 ชื่อชุด ร่วมใจเพื่อชาติไทยของเรา เป็นการเสนอไอเดีย คนไทยทุกการทำมาหากิน ทุกเพศทุกวัย ร่วมแรงร่วมใจระบายสีธงชาติ ซึ่งแต่ละสีสื่อถึงความหมาย สีแดงคือชาติ สีขาวคือทุกศาสนาและสีน้ำเงินคือพระมหากษัตริย์ สำหรับวีซีดีเพลงสรรเสริญพระบารมี 2 รูปแบบ แบบที่ 1 นำเสนอแนวความเห็นสมุดจัดเก็บพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยใช้ Computer Graphics ในการสร้างภาพที่งดงามสมพระเกียรติ และแบบที่ 2 Present แนวความคิด รูปที่คนไทยทุกคนต้องมีทุกบ้าน โดย Present ว่าไม่ว่าที่ใด พระองค์ท่านทรงอยู่เคียงข้างกับพสกนิกรและทำเพื่อปวงชนชาวไทยทุกคน ซึ่งเป็นการนำเสนอภาพพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ที่ทรงพระราชดำเนินไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
วัถตุประสงค์ของการสร้างเว็บ เพลงชาติไทย.com
เพื่อสร้างเว็บสำหรับ Learning เกี่ยวกับเพลงชาติไทย และประวัติศาตร์ไทย ให้ชนรุ่นหลังได้วิจัย เกี่ยวกับความเป็นมาของชนชาติไทย
เพื่อให้เด็กและเยาวชนใช้ประกอบการเรียน การเรียนรู้ และเป็นแหล่งวิจัยเกี่ยวกับประเทศไทย
เพื่อสร้างจิตสำนึกที่ดี ให้กับเด็ก เยาวชน และคนไทยทุกท่าน เกี่ยวกับการรักประเทศ รักแผ่นดิน สำนึกในความเสียสละของบรรพบุรุษของไทย
เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับชาติไทย โดย Present ให้เข้าใจง่าย โดยการ Present ด้วยบทความที่กระทัดรัด และเข้าใจเรื่องราวของชาติไทยได้เป็นอย่างดี
เพื่อให้คนไทยหันมารักกันให้มากๆ กว่าจะได้เอกราช บรรพบุรุษต้องแลกด้วยความเหนื่อยยาก และความเสียสละ คนไทยจึงควรมองให้ความสำคัญของประเทศชาติ
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรณรงค์ให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญกับสถาบันหลักของแผ่นดีมากกว่าประโยชน์ของตัวเอง
เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยให้ชนรุ่นหลังได้เข้าใจ โดยรวมบทความที่สัมพันธ์กับประวัติศาสตร์ในหลายแง่มุม รวมทั้งเพลงชาติไทย และเพลงที่ใช้ในพิธีสำคัญต่างๆ
เพื่อเป็นสารานุกรมออนไลน์ให้เด็ก นักศึกษา Scholar และผู้ที่สนใจ สามารถวิจัยประวัติศาตร์ของชาติไทย เพื่อปลูกจิตสำนึกรักแผ่นดินเกิดของตัวเอง
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการปลูกฝัง เด็ก เยาวชน ให้เข้าใจในหน้าที่ของตัวเอง และช่วยกันรักษาชาติตั้งแต่เยาว์วัย และปลูกฝังไม่ให้เด็กโตขึ้นเห็นประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของชาติ
เพื่อเผยแพร่เพลงชาติไทยให้กับคนไทยในประเทศ และคนไทยที่อยู่ในต่างแดน ให้หันมาสนใจรากเง่าของความเป็นไทย
เพื่อเป็น Manual การเรียนสำหรับเด็กๆ เยาวชน Student นิสิตนักศึกษา ที่ต้องการทำรายงานส่งครู คุณครู หรือผู้ที่สนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย
Data เกี่ยวกับเพลงขาติไทยพลงชาติไทย เป็นชื่อเพลงชาติของสยามและประเทศไทย ประพันธ์ทำนองโดย พระเจนดุริยางค์
เพลงชาติไทยประพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2475 คำร้องฉบับแรกสุดโดยขุนวิจิตรมาตรา
เพลงชาติแบบไทยคณะกรรมการได้วิเคราะห์เพลงชาติโดยตัดสินให้ผลงานเพลง "มหานิมิตร" ซึ่งได้ประพันธ์โดย จางวางทั่ว พาทยโกศล เป็นผลจากการทำงานที่ชนะเลิศ เพลงมหานิมิตรนี้จางวางทั่วได้ประพันธ์และดัดแปลงมาจากเพลงหน้าพาทย์สำคัญของไทยที่มีชื่อว่า "ตระนิมิตร" ซึ่งให้สามารถบรรเลงเป็นทางสากล เพลงตระนิมิตรนี้ เป็นเพลงที่ถือว่าเป็นเพลงบรมครู นักดนตรีจะใช้บรรเลงในพิธีสำคัญต่างๆ อาทิเช่น พิธีไหว้ครู บรรเลงเป็นการอัญเชิญ ครูบาคุณครู เทวดาทั้งหลาย มาประชุมกันเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะฉะนั้นจึงมีความหมาย ควรแก่การเคารพนับถือเป็นสิริมงคล เหมาะสมที่จะใช้เป็นเพลงชาติไทยได้
รัฐบาลได้ทดลองบรรเลงเพลงชาติไทยออกอากาศทางวิทยุกระจายเสียงอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ต่อมาเมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้วว่า เพลงชาติจะเสนอผลการประกวดให้คณะรัฐมนตรีประกาศรับประกันผลนั้น คณะกรรมการ ได้ประชุมและมีความเห็นว่า เพลงชาติไทยมีลักษณะที่แสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งถ้ามีการใช้อยู่ 2 เพลง จะทำให้คลายความศักดิ์สิทธิ์ลง จึงได้ตัดสินใจไม่เสนอเพลงชาติแบบไทยซึ่งได้คัดเลือกไว้ให้คณะรัฐมนตรีประชาสัมพันธ์รับประกันเป็นเพลงชาติในที่สุด
เพลงชาติแบบสากลคณะกรรมการได้พิจารณาเพลงชาติโดยมีความเห็นให้ใช้ทำนองเพลง ซึ่งประพันธ์โดยพระเจนดุริยางค์เป็นทำนองเพลงชาติไทยแบบสากล สำหรับบทร้องนั้นได้คัดกรองบทร้องของท่านขุนวิจิตรมาตราซึ่งได้แก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมเป็นบทร้องชนะเลิศ และได้ทำการเพิ่มบทร้องของนายฉันท์ ขำวิไล ซึ่งเป็นบทร้องที่ได้รับ Award รองชนะเลิศ คณะรัฐมนตรีได้ประกาศรับประกันผลให้เป็นบทร้องเพลงชาติฉบับราชการเมื่อวันที่ 20 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2477 เป็นต้นมา บทร้องเพลงชาติไทยทั้งของขุนวิจิตรมาตราและนายฉันท์ ประพันธ์ในรูปฉันทลักษณ์แบบกลอนสุภาพ กลอนแปด ความยาว 4 บท แต่ละบทมี 4 วรรค ผลจากการทำงานของแต่ละท่านจึงมีความยาวของบทร้องเป็น 16 วรรค เมื่อนำมารวมกันแล้วจึงทำให้บทร้องเพลงชาติทั้งหมดมีความยาวมากถึง 32 วรรค ซึ่งพูดได้ว่ายาวมาก หากจะร้องเพลงชาติให้ครบทั้งสี่บทจะต้องอาศัยเวลาร้องถึง 3 นาที 52 วินาที ในยุคสมัยนั้นคนไทยโดยปกติจึงชื่นชอบร้องเพลงขาติไทยแต่เฉพาะบทร้องของขุนวิจิตรมาตรา และต่อมาภายหลังจึงไม่มีการขับร้อง คงเหลือแค่เพียงทำนองเพลงบรรเลงไว้เท่านั้น
เพลงชาติฉบับแกรมมี่ พ.ศ. 2548ในปี พ.ศ. 2548 กระทรวงวัฒนธรรมได้ทำการเปิดเผยเพลงชาติไทยฉบับใหม่ ซึ่งกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้ Company จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ Limited (มหาชน) เป็นผู้ประพันธ์ และจัดทำใหม่ ให้มีความมากมายมากขึ้น สำหรับใช้ในหลายความเป็นไปได้ ตามแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ที่ต้องการส่งเสริมความเป็นชาตินิยมในหมู่คนไทย ซึ่งเพลงชาติฉบับดังกล่าว มีการจัดทำออกมาถึง 6 รูปแบบ ดังนี้
1.แบบเป็นทางการ เสียงร้องหนักแน่นฮึกเหิม เหมาะสำหรับเปิดในสถานที่ราชการ ในงานราชการ งานทหาร หรือ Activity ที่ผู้จัดต้องการปลุกเร้าพลังรักชาติ
2.แบบไม่เป็นทางการ เสียงร้องนุ่มนวลขึ้นกว่าฉบับแรก เหมาะสำหรับเปิดในงานทางการของภาคเอกชน งานมหรสพ หรืองานกึ่งทางการกึ่งลำลอง
3.แบบแกรมมี่ซาวด์ เอาใจวัยรุ่น ขับร้องโดยนักร้องรุ่นเก่า ช่วงท้ายสร้างคีย์และเมโลดี้ใหม่
4.แบบแกรมมี่ซาวด์ เอาใจวัยรุ่น ขับร้องโดยนักร้องรุ่นใหม่ ช่วงท้ายสร้างคีย์และเมโลดี้ใหม่
5.แบบเอาใจเด็กเล็ก ใช้คณะเยาวชนร้องประสานเสียง เหมาะสำหรับเปิดในแหล่งเรียนรู้อนุบาลและประถม
6.แบบเอาใจผู้สูงอายุ ใช้เครื่องดนตรีไทยบรรเลง
เพลงชาติไทยโครงการภาครัฐ พ.ศ. 2552ในช่วงปี พ.ศ. 2552 รัฐบาลไทยสมัยนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีความคิดที่จะสร้างขั้นตอนในการรวมพลังสร้างความสมานสามัคคีของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ จึงจัดตั้งโครงการ ไทยสามัคคี ไทยเข้มแข็ง ขึ้น โดยร่วมมือกับ หน่วยบริหารราชการส่วนท้องถิ่นทุกจังหวัด รวมทั้งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นจังหวัดนำร่องโครงการนี้ บริหารแสดงเพื่อคิดถึงถึงความโดดเด่นของชาติไทย เสนอประวัติศาสตร์ไทยในแต่ละจังหวัดโดยสังเขป จากนั้นจึงประกอบพิธีเคารพธงชาติไทย พร้อมบรรเลงและขับร้องเพลงชาติใน Time 18:00 น. สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปยังแต่ละจังหวัด โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 18 เดือนกันยายน - 5 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ซึ่งนับว่าเป็นโครงการที่ภาคประชาชนให้ความใส่ใจและเข้าร่วมปริมาณมาก
สำหรับการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนนั้น มีการถ่ายทอดเสียงสดทางสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยเป็นแม่ข่ายในการกระจายเสียง และถ่ายทอดสด ทางสถานีโทรทัศน์แบบไม่มี รายจ่ายทุกแห่ง และสถานีโทรทัศน์เคเบิลหรือสถานีโทรทัศน์ผ่านระบบดาวเทียม ซึ่งมีสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ในนามโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เป็นแม่ข่ายในการแพร่ภาพออกอากาศ เผยแพร่ทั่วราชอาณาจักรไทย
ร้องเพลงชาติไทยดีอย่างไร
การร้องเพลงชาติไทยช่วยสนับสนุนให้คนไทยหันมารักกันมากกว่าเดิม มีความสมานสามัคคีเป็นอัน
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
รูปภาพที่เกี่ยวข้องเพลงชาติไทย ข้อมูลเพลงชาติไทย เพลงประจำชาติของปวงชนชาวไทย
เพลงชาติไทย ข้อมูลอันเป็นประโยชน์เพลงชาติไทย เพลงที่คนไทยควรร้องด้วยความภาคภูมิใจอ้างอิงจาก: เพลงชาติแท็ก: เพลงชาติไทยเพลงชาติไทย ข้อมูลเพลงชาติไทย เพลงประจำชาติของปวงชนชาวไทย
หมวดหมู่: เพลงชาติไทยหน้าหลัก: http://www.เพลงชาติไทย.comรายละเอียดสินค้า: ติดต่อเรา: ]]ติดต่อเรา: ชื่อ: เพลงชาติไทย.comที่อยู่: ประเทศไทยเบอร์โทรติดต่อ: ไม่ระบุอีเมล์: ไม่ระบุ