เปิดตัว iPad Pro จอใหญ่ พร้อมเคสคีย์บอร์ด และปากกาสไตลัส

[Nick]

เรียกได้ว่าแย่งซีนพระเอกของงานไปเลย เมื่อ iPad Pro เปิดตัวกลางงานเมื่อวันพุธที่ผ่านมา หลังจากเป็นข่าว(ลือ)กันมากว่าปี

ในที่สุด แอปเปิล ก็ได้เปิดตัวแท็บเล็ตจอยักษ์ iPad Pro ที่จะมีขนาดหน้าจอเรตินาใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว โดยยังจะมาพร้อมสเปคแรง ๆ อย่าง ชิปประมวลผล A9X, ระบบลำโพงเสียงแบบสเตอริโอ 4 ตัว, ปากกาสไตลัสที่แอปเปิลขนานนามว่า Apple Pencil และเคส Smart Keyboard ที่เชื่อมต่อผ่านทางพอร์ตใหม่ โดยจะมีราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 1,079 ดอลลาร์สหรัฐ และพร้อมจัดส่งในเดือนพฤศจิกายนนี้

โดยหน้าจอของ iPad Pro ใหญ่พอที่จะรันแอพ iPad Air แบบฟูลไซส์ได้ถึง 2 แอพ มีจำนวนพิกเซลอยู่ที่ 5.6 ล้านพิกเซล ซึ่งมากกว่า MacBook Pro ขนาด 15 นิ้วที่มีจอเรตินา นอกจากนี้ หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ยังจะช่วยให้สามารถพิมพ์ได้ง่ายขึ้นด้วยซอฟท์แวร์คีย์บอร์ดแบบฟูลไซส์ โดย iPad Pro ยังได้รับข้อดีมาจากคุณสมบัติของ iOS 9 อย่างเช่น Split View, picture-in-picture และพัฒนามัลติทาสกิ้งให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ด้านชิปประมวลผล A9X จะมีความเร็วมากกว่าหน่วยประมวลผลเดสก์ทอปถึง 1.5 เท่า และมีประสิทธิภาพการทำงานกราฟิกที่รวดเร็วขึ้นเป็นสองเท่าจาก A8X ที่พบใน iPad Air 2 แอปเปิลเคลมว่า iPad Pro จะเร็วกว่าเครื่องคอมฯพีซีพกพาที่ออกมาในช่วงปีที่ผ่านมาถึง 80 เปอร์เซ็นต์ และถึงแม้จะมีความเร็วที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแล้ว แต่ยังคงสามารถใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมงเช่นเดียวกับ iPad รุ่นอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบลำโพงเสียงแบบสเตอริโอที่จัดมาถึง 4 ตัว โดยจะมีความหนาแค่เพียง 6.9 มม. หนากว่า iPad Air 2 เล็กน้อย (iPad Air 2 หนา 6.1 มม.) และมีน้ำหนักเบา 1.57 ปอนด์ เท่ากับ iPad รุ่นแรก สำหรับเรื่องกล้อง จะใช้กล้อง iSight ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า FaceTime HD, รองรับ 802.11ac Wi-Fi และระบบ Touch ID โดยมีตัวเลือกสีให้เลือก ได้แก่ สีเงิน, ทอง และเทา

สนนราคาจำหน่าย จะอยู่ที่ 799 และ 949 ดอลลาร์สหรัฐ สำหรับรุ่นความจุ 32GB และ 128GB ตามลำดับ ส่วนรุ่น LTE ความจุ 128GB จะมีราคาอยู่ที่ 1,079 ดอลลาร์สหรัฐ โดยจะเปิดจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายนนี้ (วันที่ยังไม่ระบุ)

แอปเปิล ยังได้นำเสนอ Smart Keyboard มาในราคา 169 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งออกแบบมาพิเศษเฉพาะ iPad Pro โดยจะเป็นการรวม Smart Cover และแป้นพิมพ์ ซึ่งจะเชื่อมต่อผ่านทางพอร์ต Smart Connector ใหม่ และอุปกรณ์เสริมที่เรียกความสนใจได้ไม่แพ้กันอีกตัวคือ ปากกาสไตลัส ที่จะมีชื่อเรียกว่า Apple Pencil มาในราคา 99 ดอลลาร์สหรัฐ

ที่มา AppleInsider

ที่มา: pantip.com