เป็นข่าวที่สั่นสะเทือนวงการอุตสาหกรรมเพลงอยู่ไม่น้อย เมื่อศิลปินแร็ปเปอร์วัย 45 ปี แสดงความสนใจเข้าซื้อกิจการสตรีมมิ่งสัญชาติสแกนดิเนเวีย Aspiro ด้วยมูลค่า 56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะเป็นกิจการที่หลายคนมองว่าไปลงทุนทำอย่างอื่นน่าจะรุ่งกว่า แต่ในทางกลับกัน Jay Z กลับมีแผนการที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำการเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมเพลงจากทรัพย์สินที่เขาซื้อมา เมื่อ Jay Z และบริษัทของเขา (ซึ่งก็คือ เพื่อนๆ ที่ร่วมทุน) ได้ทำการปัดฝุ่นบริการสตรีมมิ่ง Tidal ที่ได้รับเป็นมรดกตกทอดมาจากการซื้อกิจการออกมาให้บริการอีกครั้ง โดยประกาศข่าวนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาที่มหานครนิวยอร์ก
สำหรับสนนราคาค่าบริการของ Tidal ต่อเดือน สำหรับสมาชิกพรีเมี่ยมแบบเดี่ยว ซึ่งจะสามารถเข้าถึงคลังเพลงที่มีความละเอียดสูง จะอยู่ที่ 19.99 เหรียญสหรัฐฯ (600 บาท) และแบบมาตรฐาน 9.99 เหรียญสหรัฐฯ (300 บาท) ต่อเดือน ซึ่งเป็นราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งอื่นๆ ได้
ปัจจุบัน Tidal มีสมาชิกราว 17,000 คน ซึ่ง Jay Z ก็อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการที่จะพาธุรกิจสตรีมมิ่งของตนเองขึ้นไปท้าชนกับคู่แข่งอย่าง Spotify ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 60 ล้านคน ถึงแม้ว่าจะมีสมาชิกแบบเสียเงินเพียงแค่ 1 ใน 4 ก็ตาม
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com