“นานา” เผยธุรกิจอาหารเสริมไปได้ดีเกินคาด แต่ต่างฝ่ายต่างไม่มีเวลาทำ รอสรุปจะทำต่อหรือจะเลิก ปัดผุดธุรกิจใหม่ทับไลน์ โต้แก๊งนางฟ้าแตก เฟกใส่กัน บอกต่างคนต่างแก่ ไม่มีใครก๊อบปี้ใคร ส่วนตนไม่ใช่ตัวกลางเชื่อมชาวแก๊ง รับมีปัญหา ทะเลาะบ้างแต่ต้องเคลียร์กันเอง
ลงขันกับเพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าทำธุรกิจอาหารเสริม เปิดตัวไปอย่างยิ่งใหญ่อลังการ แต่พักหลังกระแสแผ่วสินค้าหมดสต๊อก ต่างฝ่ายต่างหันไปลุยธุรกิจตัวเอง อีกทั้ง “นานา ไรบีนา” ยังแยกตัว “วุ้นเส้น วิริฒิพา แย้มนาม” ผุดธุรกิจตัวใหม่ จนทำให้มีกระแสว่าเปิดทับไลน์สินค้าตัวเองหรือไม่ งานนี้นานาได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว โดยยอมรับว่ากำลังรอบทสรุปว่าจะเอาอย่างไรกับธุรกิจที่ทำด้วยกัน ก่อนยันแก๊งนางฟ้าไม่เคยแตก ไม่เคยแบ่งเป็นสองฝ่าย “ตอนนี้ของหมดอยู่ค่ะ ในกรุ๊ปฟินที่คุยกันก็ยังไม่มีใครตอบว่าจะยังไงต่อ ถามว่าธุรกิจไปได้ดีไหม ก็ไปได้ดีมาก เกินคาด ทุกคนให้การสนับสนุน ตัวนานาเองก็ยังมีไว้ทานส่วนตัวด้วย แต่อนาคตของธุรกิจจะเป็นยังไงคิดว่าเร็วๆ นี้เราคงคุยกันอย่างได้ข้อสรุป ต้องรอพอลล่ากลับมาด้วย”
“เราไม่มีปัญหาอะไรกันเลย ทุกคนอยากจะทำต่อ ยังมีแฟนๆ ที่รักฟินสนใจติดต่อเข้ามาอยู่ แต่ตอนนี้มันหมดจริงๆ จะทำต่อไหมก็ต้องมาคุยกันอีกทีเพราะทุกคนมีเรื่องของตัวเองเยอะมาก ไม่เกี่ยวกับโรงงานผลิตยาที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เพราะของเราหมดก่อนหน้านั้น เรื่องของเรื่องคือต่างคนต่างมีอะไรของตัวเองที่จะทำอยู่ อย่างนานาเองก็มีเสื้อผ้าเด็ก มีร้านตัดผม มีรายการของตัวเอง แล้วก็เลี้ยงลูกสองคน ทุกคนมีกิจกรรมกันหมด แล้วถ้าจะนั่งทำจริงๆ ก็ต้องมานั่งคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไง ตอนนี้ยังไม่รู้ อาจจะต้องหาใครมาบริหารสักคนหนึ่ง แล้วก็ประสานงานเพื่อนๆ อีก 5 คน ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มีใครเสนอตัวมา เพราะทุกคนก็มีโปรเจ็กต์ของตัวเองกันหมด”
“ส่วนสินค้าตัวใหม่อันนั้นนานาทำกับวุ้น แล้วก็เพื่อนๆ อีก 2 คนก็เป็นหุ้นเล็กๆ เพื่อนมาชวน เราอะไรก็ได้ ซัปพอร์ตเพื่อนไป เรายินดี ที่สำคัญเราทานเองแล้วรู้สึกดีด้วย อันนี้เป็นตัวผิว ไม่ได้ซ้ำไลน์กับลดน้ำหนัก (ธุรกิจเก่ายังไม่เคลียร์แต่เปิดธุรกิจใหม่) ไม่เกี่ยวค่ะเพราะธุรกิจเดิมไม่ได้มีปัญหาอะไร แค่มันยังไม่มีเวลาได้มานั่งคุยกัน”
เซ็งหนึ่งปีแก๊งนางฟ้าแตกหลายรอบ ปัดตัวกลางเชื่อมชาวแก๊ง
“ปีหนึ่งแตกหลายรอบเนอะ แตกอยู่นั่น จริงๆ แล้วนานาเองไม่ได้เป็นตัวเชื่อมหรือเป็นศูนย์กลางอะไรเลย ทุกคนก็คุยกันได้หมด ส่วนมากใครมีปัญหากับใครเขาก็จะคุยกับคนนั้นเองเลย ไม่มีการไม่กล้าคุยแล้วให้เราเคลียร์ให้ แล้วมันก็เป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่คนอยู่กันหลายๆ คนแล้วจะมีเรื่องทะเลาะกันบ้าง มันเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก เช่น เลือกร้านอาหารกันไม่ถูก เรื่องความคิดที่ไม่เหมือนกัน แต่ข้อดีอย่างคือมันไม่มีการที่ไม่กล้าพูด อาจจะมีบางทีมาปรึกษาเราบ้างว่าจะพูดอย่างนี้กับเพื่อนคนนี้ดีไหม เราก็จะบอกพูดอย่างนี้ๆ แต่ต้องพูดนะ ใครที่มีปัญหาก็ต้องพูดกันเอง”
“ก็ไม่ได้เป็นตัวเชื่อมให้แก๊งอยู่ได้ ไม่หรอกค่ะ ทุกคนมีส่วนหมด เหมือนเราเป็นเพื่อนที่โตกันแล้ว จะไม่มีเรื่องของน้อยใจ โทร.ไปไม่รับ เธอสวยกว่าฉัน เธอไม่ถ่ายรูปกับฉัน เรื่องพวกนี้ไม่มี แก่แล้วเอาจริงๆ ทุกคนมีลูกมีครอบครัว คือเพื่อนที่โตๆ กันแล้วมันไม่ต้องมาพูดอะไรกันเยอะ มีอะไรก็คุยกันได้หมด แบบเฮ้ย...เพื่อนเครียดเรื่องนี้ทุกคนก็จะช่วยกันแชร์ความคิดเห็น หรือนัดกินข้าวก็แชร์โลเกชันเพื่อนตอนนี้อยู่แถวนี้นะใครว่างบ้าง ก็มากัน ไม่จำเป็นว่านานาต้องกินข้าวกับเจนี่เท่านั้น เจนี่กินข้าวกับแอนก็ได้ ใครก็ได้ ไม่มีใครคู่ใคร”
โต้แข่งกันเอง-เฟกใส่ บอกแก่แล้วไม่มีใครก๊อบปี้ใคร แก๊งยังไม่แตกเป็นสองฝ่ายแน่นอน
“ลองดูแต่ละคนสิว่าทุกคนเหมือนกันไหม ไม่เลย ทุกคนไม่มีใครสไตล์เหมือนกันสักคน ให้นานาไปแต่งตัวเหมือนเจน นานาก็ไม่ได้ชอบแบบนั้น นานาก็ไม่ได้บ้าออกกำลังกายแบบเจนี่ ฉะนั้น ทุกคนมีชีวิต มีความเป็นตัวตนของตัวเองสูง มันไม่ใช่วัยที่ฉันก็อบปี้คนนี้ คนนี้ก็อบปี้คนนี้ มันเป็นวัยที่ทุกคนต่างเป็นตัวของตัวเองกันหมดแล้ว มนเปลี่ยนอะไรไม่ได้เลย แล้วทุกคนก็จะเชื่อมั่นใจการเป็นตัวตนของแต่ละคน เรื่องนี้ไม่มีแน่นอน”
“แต่ก็อาจจะเคลียร์ให้เพื่อนๆ บ้าง อาจจะพูดว่านี่ๆ งอนกันก็คุยกันซะ แค่นั้นเอง ไม่ได้แตก ไม่ได้แยกแบ่งเป็นสองฝ่าย บางทีเจอกันก็ไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกัน เจอกันแต่ไม่ถ่ายรูปก็มี บางทีมาสภาพเยิน 5 แอปก็ไม่ช่วย ก็เลยไม่ได้ถ่าย โตๆ กันแล้วก็มีเหนื่อยบ้าง แต่เรายังเจอตลอด แต่ตอนนี้เจอครบนี่พูดจริงๆ ว่ายากมาก แต่ยังคุยกันเหมือนเดิมในกรุ๊ป”
ที่มา: manager.co.th