Author Topic: “รถยนต์ไร้คนขับ” คันแรกของอังกฤษมาแล้ว  (Read 966 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=fVL5gOaGqno" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=fVL5gOaGqno</a>

“รถยนต์ไร้คนขับ” คันแรกของอังกฤษมาแล้ว “รถยนต์ไร้คนขับ” คันแรกของอังกฤษมาแล้ว “รถยนต์ไร้คนขับ” คันแรกของอังกฤษมาแล้ว




        ก้าวสู่บทบาทชาติผู้นำแห่งเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับอีกรายกับอังกฤษ หลังเปิดตัวรถยนต์ไร้คนขับเวอร์ชันแรกของตนเองอย่างเป็นทางการ ด้านรัฐบาลอังกฤษเตรียมแก้กฎหมายให้เหมาะสมเพื่อเปิดทางให้รถยนต์ไร้คนขับมีโอกาสวิ่งบนท้องถนน
       
       อาจกล่าวได้ว่า Lutz Pathfinder คือรถจิ๋วดีไซน์เก๋ที่มาพร้อมระบบควบคุมอัตโนมัติสัญชาติอังกฤษคันแรก ซึ่งภายในรองรับผู้โดยสารได้สองคน ตัวรถติดตั้งเซนเซอร์ 19 จุด กล้องดิจิตอล เรดาร์ และ Lidar (เทคโนโลยีการวัดระยะทางที่แม่นยำ โดยอาศัยการยิงเลเซอร์ไปยังเป้าหมาย และวิเคราะห์ระยะทางจากการสะท้อนกลับของเลเซอร์)
       
       ในเฟสแรกของรถยนต์ไร้คนขับนี้ คาดว่าจะเป็นการวิ่งในเขตชุมชนเมือง หรือวิ่งในย่านชุมชนคนเดินถนน มากกว่าจะเป็นรถยนต์สำหรับวิ่งบนถนนสายหลัก เนื่องจาก Lutz วิ่งได้ไม่เร็วมากนัก (ความเร็วสูงสุดเพียง 40 กม./ ชั่วโมง) และแบตเตอรี่มีอายุการใช้งานนาน 6 ชั่วโมง


        แผงควบคุมด้านหน้า แบ่งออกเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมตัวรถ เช่น ให้ผู้ใช้ป้อนจุดหมายของการเดินทาง และส่วนของเกมเพื่อความบันเทิงของผู้นั่ง
       
       โดยรถยนต์ Lutz คันที่นำมาจัดแสดงนี้เป็นเพียงรุ่นโปรโตไทป์ ซึ่งบริษัท Transport Systems Catapult และ RDM Group สองผู้ผลิตเผยว่า การผลิตรถรุ่นแรกจะเสร็จในราวเดือนมิถุนายน 2558 ก่อนจะนำรถยนต์ดังกล่าวจำนวน 3 คันไปวิ่งทดสอบใน Milton Keynes และ Coventry ต่อไป เพื่อทดสอบว่า รถยนต์อัตโนมัติไร้คนขับนี้จะสามารถลดอุบัติเหตุ และทำให้การขับขี่ปลอดภัยได้มากขึ้นจริงหรือไม่ หากประสบความสำเร็จ ก็เป็นไปได้ว่าจะนำไปสู่การปล่อยรถยนต์ไร้คนขับจำนวน 40 คันออกมาวิ่งอย่างเต็มรูปแบบ โดยรถยนต์แต่ละคันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ รวมถึงสามารถควบคุมได้ผ่านแอปบนสมาร์ทโฟน เพื่อใช้ในการรับส่งผู้โดยสารได้นั่นเอง
       
       อย่างไรก็ดี สิ่งที่สถาบันอุตสาหกรรมยานยนต์ (the Institute of the Motor Industry) ของอังกฤษวิตกกังวลหากรัฐบาลจะสนับสนุนนโยบายดังกล่าวอย่างเต็มรูปแบบก็คือ การขาดทักษะในงานด้านบริการ และงานซ่อมบำรุง ตลอดจนโครงสร้างพื้นฐานในการจัดการกับเทคโนโลยีใหม่เช่นรถยนต์ไร้คนขับนั่นเอง

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)