"ทีซ่า" ฝันทำมาตรฐานอุตสาหกรรมไอที ชงแผนตั้ง "สภาวิชาชีพด้านความปลอดภัยสารสนเทศ" ทำงานร่วมไซเบอร์ซีเคียวริตี้ภาครัฐ คาดแจ้งเกิดอีกไม่เกิน2ปี
โฆษณาโดย Google
เพิ่มยอดขาย ลดรายจ่าย
เปิดร้านขายของผ่านเว็บ ง่ายๆ ฟรีๆ รีบมาเปิดร้านของคุณก่อนคนมาแย่งชื่อ
www.tarad.com/quickweb_freeไอพอด touch 8GB
ของแท้ เครื่องศูนย์ iStudio ลดกระหน่ำ กว่า 90%
www.25satang.comBIM GM-1 สารสกัดจากมังคุด
เสริมภูมิคุ้มกันสมดุล หุ่นเพรียวสวย เสริมผิว สวย หน้าใส ต้านอนุมูลอิสระ
www.JoeLookYoung.com นายรอม หิรัญพฤกษ์ นายกสมาคมความมั่นคงปลอดภัยระบบสารสนเทศ (TISA) กล่าวว่า ทีซ่ากำลังวางแผนตั้ง "สภาวิชาชีพด้านความมั่นคงสารสนเทศ" หรือ Thailand InfoSec Professional Council ซึ่งมีแนวคิดเพื่อรวบรวมสมาคมต่างๆที่เกี่ยวข้อง และดูแลความถูกต้องในวิชาชีพ
นอกจากนี้ยังคาดหวังให้เป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรม โดยขอความร่วมมือกับสมาคมไอทีต่างๆ และสมาคมความปลอดภัยหน่วยงานภาครัฐ เพื่อตั้งกฎเกณฑ์ และกรอบแผนงานต่างๆ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างเป็นทางการในปี 2555
"เราอยากให้เป็น Industry based สำหรับกลุ่มคนที่ทำงานด้านนี้ ซึ่งตอนนี้เป็นช่วงที่เรากำลังสร้างความเชื่อมั่น ในขณะที่ในประเทศอื่นๆก็มีแล้วในรูปแบบต่างๆกันไป โดยแนวคิดก็เพื่อให้เป็นสภาที่รวบรวมสมาคมต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน และทำอย่างไรให้สามารถควบคุมคนที่มีหน้าที่ควบคุมความปลอดภัยในองค์กรได้ทำหน้าที่อย่างถูกต้อง" นายรอมกล่าว
พร้อมกับเผยความคืบหน้าในฐานะได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือไอซีทีคนใหม่ว่า ในวันศุกร์นี้ (18 มิ.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เนื่องจากเป็น 1 ในเรื่องเร่งด่วนที่รมว.ไอซีทีกำหนดไว้ และยังเป็นเรื่องที่ไม่คืบหน้านานแล้ว
ขณะที่ นายปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับแนวคิดที่ทีซ่าจะผลักดันให้ภาครัฐตั้ง "หน่วยงานด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ" หรือ Office of National Cyber Security ล่าสุดอยู่ในระหว่างการร่างทีโออาร์ ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักนายกฯภายใต้งบประมาณ 500 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อผลักดันให้มีระบบอัจฉริยะคอบตรวจสอบการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต โดยคาดว่าจะดำเนินการได้เร็วๆนี้
"หน่วยงานนี้จะไม่ขึ้นกับพรรคการเมืองคือไม่ว่าใครเป็นรัฐบาลก็ต้องทำ เพราะเป็นแนวคิดที่ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องทำเพื่อควบคุมจัดการโลกไซเบอร์ แต่ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ใช่การสนิฟข้อมูล แต่จะเรียกว่าเป็นระบบ Intelligent มากกว่า เพื่อมอนิเตอร์การใช้งาน และเสนอแนวทางเพื่อตอบโต้กับการกระผิดบนโลกไซเบอร์ เพราะต้องยอมรับว่า แม้จะมีหน่วยงานที่ดูแลอยู่แล้ว เช่น ดีเอสไอ แต่ถ้าเรื่องออกไปนอกประเทศก็ถือว่าอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบแล้ว ซึ่งโครงการนี้ทีซ่าเหมือนเป็นที่ปรึกษาของรัฐไปแบบอ้อมๆ เสนอแผนไป โดยที่รัฐเป็นคนรับผิดชอบเอง" นายปริญญากล่าว
ที่มา: bangkokbiznews.com
