เหตุมาจากความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ในความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาที่เริ่มไม่ลงรอยกันในช่วง 2-3 ปีมานี้ ซึ่งกระทบต่อความสามารถของบริษัทต่างๆ ในการที่จะทำธุรกิจในแต่ละตลาด ตัวอย่างล่าสุดที่เราได้เห็นคือ ความพยายามของ HP ที่จะขายส่วนหนึ่งของธุรกิจเครือข่ายในจีนออกไป
โดยแหล่งข่าว Wall Street Journal ได้รายงานว่า HP กำลังมองหานักลงทุนท้องถิ่น เพื่อขายหุ้นใหญ่ 51% ในธุรกิจ H3C Technologies ในจีน ซึ่งข้อตกลงอาจมีมูลค่าสุทธิกว่าหลายพันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม การที่จะอนุมัติให้บริษัทใดเข้ามารับช่วงต่อนั้น จะต้องผ่านกฎระเบียบของรัฐบาลจีน ซึ่งทำให้มีแนวโน้มว่า จะต้องเป็นนักลงทุนในท้องถิ่นเท่านั้น โดยธุรกิจ H3C Technologies จะให้การจำหน่ายอุปกรณ์เครือข่าย ได้แก่ routers, Ethernet switch, wireless LAN รวมถึงชุดผลิตภัณฑ์ซอฟท์แวร์ โดยเป็นธุรกิจที่เกิดจากความร่วมมือของ Huawei Technologies และ 3Com เมื่อสิบกว่าปีก่อน (เริ่มธุรกิจในปี 2003) ซึ่งตัวอักษร 'H' ในคำว่า H3C มาจาก Huawei และ '3C' แทน 3Com นั่นเองแต่ราวๆปี 2006 บริษัท 3Com ได้ถือหุ้นใหญ่อยู่ 51% ในบริษัท หลังจากได้มีการซื้อหุ้นของ Huawei เป็นเงินกว่า 882 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และ 4 ปีต่อมา HP ได้เข้ามาอุ้มธุรกิจ H3C ต่อ ภายหลังจากซื้อกิจการ 3Com ด้วยเงินกว่า 2.7 พันล้านเหรียญฯ และด้วยพนักงานที่มีกว่า 5พันคนทั่วโลก ทำให้ H3C มีมูลค่าโดยประมาณอยู่ที่ราว 5พันล้านเหรียญฯ
อนึ่ง HP อยู่ในระหว่างการเจรจากับบริษัทภาคเอกชน และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า Huawei จะเข้ามาเป็นผู้ซื้อในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ โดยข่าวดังกล่าวมาหลังจากที่ HP ได้เพิ่งประกาศจะแยกธุรกิจออกเป็น 2 บริษัทเมื่อไม่นานมานี้
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com