เป็นที่รู้กันดีว่าพี่เบิ้มทั้งสองอย่าง จีนและอเมริกา ต่างก็ไม่ไว้ใจกันเอง และเพื่อความพยายามที่จะทำให้ตัวเองเลิกพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ ล่าสุด จึงทำให้ พี่จีนตัดสินใจที่จะเดินหน้าพัฒนาระบบปฏิบัติการใช้เอง โดยคาดว่าจะสามารถตีตลาดได้ภายในเดือนตุลาคมนี้ สำหรับเวอร์ชั่นเดสก์ท็อป ส่วนเวอร์ชั่นสมาร์ทโฟนและดีไวซ์อื่นๆ จะตามมาทีหลัง
ทั้งนี้ จีนได้เริ่มใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อจำกัดการใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ หลังจากที่ Snowden ศัตรูของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยข่าวสอดแนม และเมื่อเร็วๆ นี้ รัฐบาลจีนก็ได้มีคำสั่งแบนการใช้ Windows 8 รวมถึงได้มีการออกข่าวเดินหน้าตรวจสอบการขายสินค้าผูกขาดของไมโครซอฟท์ในประเทศด้วย Ni Guangnan ทีมงานผู้รับผิดชอบโปรเจ็คนี้ ระบุว่า ถึงแม้มันจะมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเทคโนโลยีของจีนกับของประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่กระนั้น เขาก็ยังหวังว่า โอเอสใหม่นี้จะสามารถแทนที่การใช้ระบบปฏิบัติการจากต่างประเทศได้ภายในเวลา 1-2 ปี
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ จีนไม่ง้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเมื่อ 14 ปีก่อน จีนก็เคยลงทุนสร้างเวอร์ชั่นลีนุกซ์ของตนเองซึ่งใช้ชื่อว่า Red Flag Linux มาแล้ว แต่อย่างไรก็ดี มันกลับล้มเหลว
และอีกครั้งกับการพัฒนา Ubuntu Kylin ซึ่งเป็น Ubuntu เวอร์ชั่นที่ถูกออกแบบมาสำหรับชาวจีน ซึ่งมีรายงานว่า Ubuntu เวอร์ชั่นนี้มียอดดาวน์โหลดเกินกว่า 3 ล้านคนใน 12 เดือนแรก และครั้งล่าสุด เมื่อต้นปีที่ผ่านมากับการเปิดตัว COS (China Operating System) ซึ่งเป็นลีนุกซ์สำหรับมือถือ
ที่มา TechSpot
ที่มา: pantip.com