“เอ๋ อัจฉรา” ฉุน "โตโน่" ถอนหุ้นค่ายมวย เชือดนิ่มๆ 18 ปีที่แล้วตนดังกว่าเยอะ

[Nick]

<a href="https://www.youtube.com/watch?v=-6uPn1yTn0Q" target="_blank">http://www.youtube.com/watch?v=-6uPn1yTn0Q</a>

  “เอ๋ อัจฉรา” อัด “โตโน่ ภาคิน” ไร้น้ำใจ ถอนหุ้นค่ายมวยเพราะผลประโยชน์ไม่ลงตัว ถือหุ้นแค่ 30% แต่จะขอส่วนแบ่ง 70% อ้างแฟนคลับเยอะกว่า ตอกกลับอีกฝ่ายเมื่อ 18 ปีที่แล้วตนดังกว่าเยอะ ส่วนโตโน่อีก 10 ปีข้างหน้าก็จะมีสภาพเหมือนตน น้ำตาแตกสุขภาพแย่ เผยสุดทรมาน ไม่อยากตื่นอีก
       
       ก่อนหน้านี้นักร้องหนุ่ม “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้ร่วมหุ้นทำค่ายมวยกับอดีตนางเอก “เอ๋ อัจฉรา ทองเทพ” ทำให้หลายคนสงสัยว่าทั้งคู่กำลังซดเกาเหลาชามโตกันอยู่หรือเปล่า ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เจอเอ๋ในงานแถลงข่าวเปิดค่ายมวย “อัจฉรายิม” ซอยนวมินทร์ 74 ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าอีกฝ่ายไม่ได้ร่วมหุ้นด้วย เพราะมีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว บอกเคืองมากที่ฝ่ายชายไร้น้ำใจแต่ไม่ถึงขั้นโกรธ เมินหากมีแฟนคลับฝ่ายตรงข้ามโจมตี
       
       “ตอนนี้ไม่ได้หุ้นกับใคร ทั้งหมดสืบเนื่องมาจากเอ๋สุขภาพไม่แข็งแรง และครูเป็ด เจริญทอง ให้ไปซ้อมมวยที่ยิมครูเป็ด จนรู้สึกว่าร่างกายดีก็เลยชวนกันมาเปิด และพื้นที่บ้านว่างด้วย ก็เลยชวนครูเป็ดเลยและโตโน่มา โตโน่ก็บอกว่าเอาเลย ยิมนี้โตโน่เป็นคนออกแบบ ตอนแรกจะใช้ชื่อหนูโตโน่ก็ได้เปลี่ยนมาเป็นอัจฉรายิมแทน ปัญหามาจากผลประโยชน์ไม่ลงตัว เราคุยกันไว้ว่าส่วนแบ่ง ของเอ๋ 40% ในฐานะเจ้าของบ้าน ส่วนน้องและครูเป็ดคนละ 30% ในส่วนที่เป็นยิมแบ่งกัน 30-30-30 ตามเงื่อนไข”
       
       “ส่วนที่เป็นโซนช็อปเสื้อผ้า โตโน่ขอ 70% ในขณะที่ตัวโตโน่ลงไว้ 30% และอีก 30 % ให้เอ๋กับครูเป็ดแบ่งกัน เราก็เลยถามเหตุผล โตโน่บอกว่าตนเองมีแฟนคลับ 3-4 แสนคนนะ และเชื่อว่าแฟนคลับของตนเองอาจสั่งซื้อไปใส่ เอ๋ก็เลยแนะนำโตโน่ไปว่าทำแบรนด์เป็นของโตโน่ขึ้นมาเลย โตโน่บอกว่าไม่เอา ตรงนี้ขอให้เป็นเงื่อนไขนี้ พอคุยกันแล้วไม่ลงตัว ทุกคนก็ตกลงกันว่าถอยกันก่อน เพราะเอ๋รับไม่ได้ ถ้าจะให้เอ๋ลง 30% แต่ได้แค่ 15% มันไม่ถูกต้อง เพราะหลักธรรมชาติใครลงเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น คุณลง 30% แต่จะมาเอา 70% เพราะว่าเป็นโตโน่ เดอะสตาร์ เอ๋ว่ามันไม่ถูกนะ”
       
       “โตโน่ยังไม่ได้ลงเงินสักบาท ตอนนั้นเอ๋ก็สำรองเงินไปก่อน แล้วนัดมาทำสัญญา โดยสัญญาอยู่ที่เอ๋หนึ่งฉบับ และที่โตโน่หนึ่งฉบับ เซ็นเรียบร้อยแล้ว พออีกสองสามวันต่อมามีปัญหาเรื่องตัวเลขที่ไม่ลงตัว เอ๋ก็เลยขอคืนสัญญาตรงนั้นไป โตโน่ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่บอกว่าผมไม่ได้ตรงนั้น ผมก็คงทำไม่ได้ ไว้มีโอกาสนะพี่เอ๋ เขาก็ถอยเอาดื้อๆ”
       
       จัดอีกดอก เมื่อ 18 ปีที่แล้วตนดังกว่าเยอะ ส่วนโตโน่อีก 10 ปีข้างหน้าก็จะเป็นเหมือนตน
       “เอ๋เคืองนะ เคืองมากด้วยแต่ไม่ได้โกรธโตโน่ ที่เคืองเพราะว่าไม่หุ้นแล้วทำไมไม่มาคุย ก่อนหน้านี้มาได้ทุกวัน คือที่เคืองเพราะถ้าเขามีน้ำใจมาช่วยดูหน่อยก็ได้ คือเอ๋ยังไม่เป็น เหมือนอยากให้สานต่อให้จบ มาให้คำปรึกษาเอ๋ก็ได้ จากที่เคยคุยกัน พอเอ๋ไม่ตกลงตามเงื่อนไง พอโทร.ไปหาเขาก็บอกติดถ่ายละคร เคยพูดไปว่าเมื่อ 18 ปีที่แล้ว พี่เอ๋ดังกว่าโตโน่อีกนะ เอ๋ อัจฉรานางเอกปลาบู่ทองเลยนะ ดังสุดๆ ในเมืองไทย อีก 10 ปีข้างหน้าโตโน่ก็จะอยู่ในสภาพเป็นอดีตเหมือนกันนี่แหละ”
       
       บอกไม่กลัวหากจะโดนแฟนคลับโตโน่โจมตี
       “ไม่กลัวโดนโจมตีนะ เพราะมันคือความจริง เอ๋เชื่อว่าแฟนคลับไม่ว่าจะเป็นของใคร แน่นอนเขาต้องเข้าข้างฝ่ายของตนเองเป็นหลักอยู่แล้ว กับครูเป็ดไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นเพื่อนกันสนิมกันมาก ยังให้คำปรึกษากันอยู่”
       
       ร่ำไห้ทรมานโรคร้าย บอกหากเป็นอะไรไปคราวนี้ ไม่อยากตื่นอีก
       “สุขภาพตอนนี้ก็เหนื่อยก็แย่นะ ล่าสุดทำบอลลูนหัวใจ ก็เจอต่อมน้ำเหลืองโต น่าจะเกิดจากภาวะเครียด หรือไม่ก็เดินเยอะ และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็เพิ่งผ่าออกไป ตอนนี้เอ๋มีสามโรคหลักๆ คือโรคพุ่มพวง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และก็โรคหัวใจที่เพิ่งเจอ เอ๋ไม่เคยคิดว่าจะฆ่าตัวตายนะ แต่คิดว่าถ้าหลับไปครั้งนี้ ก็จะไม่กระตุ้นเหมือนคราวที่แล้ว (ร้องไห้) เพราะมันทรมาน”

ที่มา: manager.co.th