“แหม่ม คัทลียา” หวนคืนจอประกบคู่จิ้นรุ่นเดอะ “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์” หลังห่างนาน 12 ปี ฟุ้งใจอ่อนเพราะลมปาก “บอย ถกลเกียรติ” ย้ำที่ผ่านมาไม่คิดลาวงการ แต่ติดภาระครอบครัว สามีไฟเขียวสนับสนุนเต็มที่ ยันยุบช่องสาระแนเพราะหมดสัมปทาน ปัดมีปัญหา ผันตัวเป็นผู้รับจ้างผลิตรายการสบายใจกว่า เรียกว่ากลับมาทวงบัลลังก์คู่จิ้นในตำนานให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงอีกครั้ง สำหรับคู่จิ้นคู่แรกๆ ของวงการบันเทิงไทย “แหม่ม คัทลียา กระจ่างเนตร์” กับพระเอกคู่ขวัญ “แท่ง ศักดิ์สิทธิ์ แท่งทอง” ที่ครั้งนี้ทั้งคู่โคจรกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในรอบ 13 ปี กับละครซิตคอมเรื่อง “เพราะมีเธอ” ของค่ายเอ็กแซ็กท์ สบโอกาสได้เจอแหม่มก็เผยว่า ที่กลับมารับซิตคอมเรื่องนี้ เพราะด้วยจังหวะเวลาและ “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” อยากให้ตนกับแท่งเล่นคู่กันเลยตัดสินใจรับ พร้อมเผยอยากเล่นละครยาว แต่รอให้ลูกเข้าโรงเรียนให้เรียบร้อยก่อน
“คือด้วยจังหวะเวลา และพอดีพี่บอย บอกมาว่ามีโปรเจกต์ละครเรื่องเพราะมีเธอ แล้วอยากจะให้แหม่มกับพี่แท่งเล่นคู่กัน เราก็เลยตัดสินใจรับเลย ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าถ้าเป็นพี่บอยจะให้เราทำอะไร เราทำให้อยู่แล้ว เพราะเขาเป็นพี่ที่เรารักและเคารพถ้าเขาอยากให้เราทำอะไรเราก็ยินดีทำให้ พอพี่บอย ติดต่อมาเราไม่ได้มีโมเมนต์ว่าจะตัดสินใจเล่นหรือไม่เล่น คือ เราตอบตกลงพี่บอยไปทันที ละครเรื่องสุดท้าย คือเรื่องตราบสิ้นดินฟ้า ที่เล่นกับพี่แซม (ยุรนันท์ ภมรมนตรี) ประมาณ 5-6 ปีมาแล้ว ส่วนที่ห่างกับพี่แท่งก็ประมาณ12-13 ปีมาแล้ว”
ดีใจ ที่แฟนๆ อยากให้เล่นละครร่วมกันกับคู่จิ้นในตำนาน “แท่ง ศักดิสิทธิ์”
“ก็ต้องขอขอบคุณที่คอยติดตามและชื่นชมผลงานของเรามาตลอด การที่เราเป็นคู่จิ้นกันมันเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว ดีใจที่แฟนๆ ยังอยากเห็นเราเล่นละครร่วมกันอีก ก็เหมือนสมัยเราเด็กๆ เราก็อยากจะเห็นพี่เปิ้ล (จารุณี สุขสวัสดิ์) กับพี่เอก (สรพงษ์ ชาตรี) เราเองก็เพ้ออยากให้เขาเล่นละครด้วยกันบ่อยๆ ก็เข้าใจแฟนๆ เลยว่าเขายังอยากให้แหม่มกับพี่แท่งเล่นละครคู่กัน ทั้งๆ ที่เล่นละครกับพี่แท่งแค่ 3 เรื่องเอง แต่อาจจะเป็นเพราะว่าเราสนิทกัน และพี่บอยเขาเคยพูดว่าบางทีการที่เราแสดงละครคู่กัน ถ้าเคมีตรงกันมันก็จะยิ่งส่งให้คนดูอินมากขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังจากนั้นมาเราก็ไม่ได้เล่นด้วยกันอีกเพราะคิวไม่ได้และอะไรหลายๆ อย่าง คนก็รอว่าเมื่อไหร่เราทั้งคู่จะมาเล่นละครด้วยกันอีก จนมาวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะโคจรกลับมาเล่นละครได้กันอีกในรอบ 10 ปีเลยก็ว่าได้”
“จะเริ่มถ่ายประมาณอาทิตย์หน้าค่ะ จะได้เห็นงานแสดงมากขึ้นไหมก็หมั่นเขี้ยวอยู่แล้ว บางทีเราดูละครแล้วบทนี้อยากเล่นจังเลย ส่วนละครยาวใจก็อยากเล่นอยู่นะคะ แต่อาจจะอีกสักนิดหนึ่งให้ลูกเข้าโรงเรียนให้เรียบร้อย ก็คงได้เล่น แต่ตอนนี้จะมีรับเชิญเรื่องพลับพลึงสีชมพู แค่รับเชิญตอนเดียวค่ะ เล่นให้เพื่อน สักกี่ปีเหรอคะก็ต้องดูก่อนนะคะ อาจจะปีหน้าหรือดูความพร้อมของลูกด้วยว่าลูกติดแค่ไหน ลูกยังต้องการให้เราอยู่ใกล้ๆ อยู่ไหมเพราะลูก 2 คนโต ที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ก็จะมีการบ้านเยอะ ไม่ได้หนักมากแต่จะมีกิจกรรมนั่นนี่ ที่เราต้องเข้าไปร่วม ก็ไม่อยากพลาดตรงนี้เหมือนกัน อยากใกล้ชิดกับลูกและอยู่ทำกิจกรรมกับลูก”
“สำหรับเรื่องนี้เราอยากให้คนดูมีความสุขและรู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา ทำให้เขาสามารถติดตามดูเราได้ทุกอาทิตย์ ดูแล้วได้ข้อคิด ถือเป็นการให้ของขวัญตอบแทนแฟนคลับในรอบหลายปี ต้องขอบคุณพี่บอยที่นึกถึงมาโดยตลอด”
หลังจากที่หายหน้าไปมีครอบครัว ทำให้หลายๆ คนคิดว่า “แหม่ม” จะอำลาวงการแสดงถาวร งานนี้เจ้าตัวเผยไม่เคยคิด แถมสามียังหนุนให้เล่นละครเต็มที่
“ที่ผ่านมาก็มีหลายๆ คนนึกว่าไม่ทำงานแล้วกับบางคนคิดว่าไม่รับละครแล้วเพราะมีลูก ตอนนั้นลูกยังเด็กก็ลำบากที่จะกลับมาทำงาน แต่ก็คิดถึงอยู่ตลอดค่ะ ยิ่งสามียิ่งไม่ห่วงเลยค่ะ คุณสามีอยากให้ทำงานมาก เขาน่ารักเขาเห็นว่ามีคนรักเราและคอยติดตามว่าเมื่อไหร่เราจะกลับมามีผลงานให้เขาได้ชมสักที เพราะเวลาไปไหนคนก็จะถามว่าเมื่อไหร่จะกลับมาเล่นละคร คุณสามีก็เลยบอกว่าให้เราไปทำในสิ่งที่เรารัก เราชอบและสามารถทำมันออกมาได้เป็นอย่างดี เพราะมีคนที่รออยู่มีจะไม่มาก แต่เขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้ดูละครที่แหม่มเล่น เขาก็เคารพในสิ่งที่เราเป็นและเห็นคุณค่าของคนที่เฝ้าคอยติดตามเรามาตลอด เขาก็เลยบอกให้เราไปทำเพื่อสร้างความสุขให้กับคนที่เขารอแหม่ม”
“ส่วนลูกๆ ยังไม่ค่อยรู้ ยังไม่เก็ตร้อยเปอร์เซ็นต์ รู้แต่ว่ามาทำงาน กลับกี่โมง คนที่สองสามจะยังไม่รู้เรื่อง คนโตจะบอกแล้วว่าแม่แม่จะไปทำงานหรือจะไปไหนบอกเขาด้วย ไปกี่โมงไปทำอะไร กลับกี่โมง ต้องรายการ กะว่าจะพามาเยี่ยมกองค่ะ ให้ดูว่าเราทำงานแบบไหน เป็นยังไงเขาจะได้เข้าใจ”
ในส่วนธุรกิจส่วนตัวที่ “แหม่ม” ได้ร่วมหุ้นกับพี่ชาย “วิลลี่ แมคอินทอช” และ “เสนาหอย เกียรติศักดิ์ อุดมนาค” เปิดช่องสาระแน ก็ได้ประกาศปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยยืนยันไร้ปัญหาส่วนตัว แต่เป็นเพราะหมดสัมปทาน ลุยรับจ้างผลิตสบายใจกว่า
“ช่องสาระแนที่ปิดไปแล้ว พอดีหมดสัมปทานและมีอีก 24 ช่องดิจิตอลเข้ามา เคเบิลก็อาจจะเหนื่อยหน่อย ขณะที่เราทำมามันก็เหนื่อยอยู่แล้วเพราะเราต้องไปแย่งโฆษณาหรือไปแย่งตัวเม็ดเงินจากช่องฟรีทีวีค่ะ พอหมดสัมปทานและจังหวะทีวีดิจิตอลเข้ามาเราก็เลยคืนสัมปทาน ปิดไปเลย ก็เสียดายค่ะ แต่มันก็ต้องเดินหน้าสมัยนี้ต้องก้าวไปและเราจะขยับต่อยังไงดี ถามว่ายังอยากทำต่อไหม ยังอยากทำต่อแต่ก็พอมันขยายช่องขึ้นมาเยอะขนาดนี้ เม็ดเงินมันจะไปอยู่ตรงไหน จะแบ่งยังไง จะอยู่ได้หรือไม่ได้เราก็เลยผันตัวเองไปเป็นผู้ผลิตรายการ แต่ว่าบริษัท ลักษ์666ยังอยู่ค่ะ สาระแนก็ยังอยู่นะคะ นั่งยางโชว์ ก็ไปอยู่ช่องเวิร์คพอยท์ค่ะและมีอีก 2-3 รายการที่ไปอยู่ทางไทยรัฐทีวีด้วย”
“จริงๆ ก็ไม่ตกใจอะไรคือเรารู้กันมาก่อนอยู่แล้ว พวกเราก็เป็นพวกอารมณ์ดีอยู่แล้วปัญหาก็มีไว้ให้แก้ ถามว่าทะเลาะกันไหมไม่ได้ทะเลากันค่ะเพียงแต่ว่าก็ต้องปรับสภาพตามสถานการณ์บ้านเมือง ตามสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นบวกกับเวลาเราไปหาลูกค้าหรือผู้ใหญ่ เขาก็แนะนะว่าเป็นผู้ผลิต รับจ้างผลิตน่าจะรอดปลอดภัยที่สุดสำหรับตอนนี้นะคะ รายการยังมีค่ะ เป็นแนวอารมณ์ดีสนุกสนาน มีสาระแฝงความสนุกสนานอารมณ์ดี จากนี้จะมีเปิดบริษัทเพิ่มอีกก็อาจจะไม่แน่นะคะ ที่ผ่านมาเราก็เปิดร่วมกับกันตนาเป็นบริษัท กันตลักษ์ เป็นรายการฟอร์เมต รายการที่เรานำมาจากต่างประเทศ ขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ก็สนุกดีนะ”
“โอกาสที่จะกลับมาเปิดช่องอีกครั้งไม่ไหวนะ อย่ามีเลย เหนื่อยมากเลยนะ นับถือคนที่มีช่องเป็นของตัวเองจริงๆ อย่างพี่ๆ หรือผู้ใหญ่ที่ประมูลได้นะคะ เราไม่ไหวหรอก ด้วยตัวเงินเราไม่มีอยู่แล้วขนาดนั้น บวกกับบริหารช่องช่องหนึ่งที่ผ่านมารายละเอียดมันเยอะมาก แต่ถามว่าภูมิใจและสนุกกับมันไหมก็สนุก แต่ ณ ขณะนี้เราก็อยู่กับปัจจุบันว่ารับจ้างผลิตแค่นี้เวลาก็ไม่มีแล้ว 7-8 รายการก็แน่นแล้วค่ะ”
ที่มา: manager.co.th