ยอดจำหน่ายอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกประจำเดือนมกราคมลดลง 28.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สะท้อนให้เห็นช่วงเวลาขาลงของอุตสาหกรรมชิปคอมพิวเตอร์ในทุกภูมิภาคของโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป เอเชีย-แปซิฟิก และญี่ปุ่น
ยอดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ในเดือนมกราคม 2009 มีมูลค่าราว 1.53 หมื่นล้านเหรียญ ลดลงจาก 2.15 หมื่นล้านเหรียญในเดือนมกราคมปี 2008 โดยข้อมูลจากสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ Semiconductor Industry Association (SIA) ระบุว่า ยอดจำหน่ายในเดือนมกราคมนี้คิดเป็นสัดส่วนลดลง 11.9% เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคมปี 2008 ซึ่งทำยอดขายไว้ 1.74 หมื่นล้านเหรียญ
จอร์จ สแคลีส ประธานสมาคม SIA บอกว่าสถิติที่เกิดขึ้นทำให้เดือนมกราคม 2009 เป็นเดือนที่ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ สะท้อนให้เห็นทิศทางขาลงทั้งในแง่ความต้องการของผู้บริโภค และผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจ ที่สำคัญ ยอดขายอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่ตกต่ำลงยังส่งผลถึงตลาดไอทีโดยรวม ทั้งตลาดคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆที่ต้องใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นส่วนประกอบ แรงกดดันมหาศาลจึงไปตกอยู่กับอุตสาหกรรมเหล่านี้ด้วย
สิ่งที่น่าสังเกตในเดือนนี้ คือตัวเลขสินค้าคงคลังของผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อยู่ในระดับต่ำมาก สมาคม SIA จึงวิเคราะห์ว่านี่คือสัญญาณที่ชี้ว่ายอดจำหน่ายเซมิคอนดักเตอร์ในเดือนต่อไปจะดีขึ้นอย่างแน่นอน แม้ยอดจำหน่ายจะลดลงในทุกภูมิภาค
เฉพาะในสหรัฐอเมริกา สมาคม SIA พบว่ายอดจำหน่ายลดลง 25.9% เหลือเพียง 2.55 พันล้านเหรียญ ขณะที่ในยุโรปมีสัดส่วนลดลง 33.9% เหลือ 2.27 พันล้านเหรียญ โดยในเอเชีย-แปซิฟิกลดลง 30.7% เหลือ 1.04 หมื่นล้านเหรียญ
แม้แต่ในญี่ปุ่น ยอดขายเซมิคอนดักเตอร์ก็ปรับตัวลดลง 21.2% เหลือ 3.23 พันล้านเหรียญ
บริษัทวิจัยระดับโลกทั้งการ์ทเนอร์และไอดีซีเห็นพ้องต้องกันว่ายอดใช้จ่ายในตลาดไอทีปีนี้จะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เริ่มที่การ์ทเนอร์เชื่อว่ารายได้ในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ปีนี้จะลดลง 24.1% มีมูลค่าราว 1.94 แสนล้านเหรียญ หนักกว่าไอดีซีที่เชื่อว่าตลาดจะทำเงินน้อยลง 22% หลังจากลดลงเพียง 2% ในปี 2008
บริษัทวิจัยตลาดเชื่อว่าตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะฟื้นตัวอีกครั้งในปี 2010 เชื่อว่าอัตราการเติบโตจะอยู่ที่ 7.5% มั่นใจว่าจะโตต่อเนื่องถึงปี 2012
ที่มา: manager.co.th
